ป.ป.ท.แจงคดี"พลทหารวิเชียร" ชี้อำนาจพักราชการ "ร้อยเอก" อยู่ที่ผู้บังคับบัญชา
มีความคืบหน้าคดีของ น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หรือ เมย์ อายุ 25 ปี หลานสาวของ พลทหารวิเชียร เผือกสม ที่ถูกลงโทษจนเสียชีวิตในค่ายทหารที่ จ.นราธิวาส เมื่อปี 2554 หลังเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีโพสต์ข้อความหมิ่นประมาททหารในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้น้าชายที่ สภ.เมืองนราธิวาส กระทั่งได้รับประกันตัวแล้วเมื่อเช้ามืดของวันพุธที่ 27 ก.ค.59
ต่อมาในช่วงสายวันเดียวกัน พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก ร.อ.ภูริ เพิกโสภณ อายุ 31 ปี นายทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา อ.เมืองนราธิวาส เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวนริศราวัลถ์ รวมทั้งเจ้าของเพจเฟสบุ๊คชื่อ สำนักข่าวล่าล่อง กรณีโพสต์ภาพส่วนตัวของ ร.อ.ภูริ และแฟนสาว โดยนำแว่นตาดำมาตัดต่อใส่ไว้ พร้อมเขียนข้อความหมิ่นประมาท
คดีนี้ ร.อ.ภูริ แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.ปีทีแล้ว และพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการเมื่อวันที่ 20 มี.ค.59 โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ เนื่องจาก น.ส.นริศราวัลถ์ ไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนตามที่มีหมายเรียกไปก่อนหน้านั้น
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก “ฮิวแมนไรท์วอทช์” ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยสั่งการตำรวจให้ยุติการดำเนินคดีกับ นางสาวนริศราวัลถ์ ทันที
เลขาฯป.ป.ท.แจงไม่มีอำนาจสั่งพักราชการ
สำหรับความคืบหน้าคดี พลทหารวิเชียร ซึ่งถูกลงโทษจนเสียชีวิตระหว่างฝึกทหารใหม่ที่ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2554
เมื่อปีที่แล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ได้สรุปผลการไต่สวน และมีมติแจ้งข้อหาทหารยศร้อยโท 1 นาย กับพวกรวม 10 คน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายอาญาทหาร
มีการตั้งข้อสังเกตว่า ร.ท.ภูริ ซึ่งปัจจุบันติดยศร้อยเอก เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหารที่ถูก ป.ป.ท.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาด้วย ได้ถูกสั่งพักราชการไปแล้วหรือไม่ และเหตุใดจึงมีการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.นริศราวัลถ์ อีก
ในประเด็นนี้ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ป.ป.ท.ได้ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 คน และส่งสำนวนไปยังอัยการศาลทหารปัตตานี พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาของทหารทั้งหมดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยการกระทำของทั้ง 10 คนเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง และผิดอาญาด้วย ส่วนเรื่องการพักราชการขึ้นกับการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาของนายทหารผู้นั้น
พลิกกฎหมาย ป.ป.ท.ผู้บังคับบัญชาต้องฟันวินัย
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 มาตรา 40 ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ท.มีมติว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดกระทำการทุจริตในภาครัฐ และเป็นกรณีมีมูลความผิดทางวินัย ให้ประธานกรรมการส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาผู้นั้น เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ท.ได้มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอีก ในการพิจารณาโทษทางวินัยแก่ผู้ถูกกล่าวหา ให้ถือว่ารายงาน เอกสาร และความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ท. เป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการสอบสวนวินัย ตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของผู้ถูกกล่าวหานั้น ๆ แล้วแต่กรณี
มาตรา 41 เมื่อได้รับรายงานตามมาตรา 40 ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนพิจารณาลงโทษภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง และให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนส่งสำเนาคำสั่งลงโทษดังกล่าวไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. ทราบภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้ออกคำสั่ง
มาตรา 42 ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ใดละเลยไม่ดำเนินการตามมาตรา 41 ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้นั้นกระทำความผิดวินัยหรือกฎหมายตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของผู้ถูกกล่าวหานั้นๆ
จากการตรวจสอบของ “ทีมข่าวอิศรา” ไปยังหน่วยทหารในพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้ข้อมูลว่า ร.อ.ภูริ ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งไม่ให้ปฏิบัติงานสำคัญ หรือมีบทบาทในภารกิจต่างๆ แต่ไม่ชัดเจนว่ามีการสั่งพักราชการอย่างเป็นทางการหรือไม่
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ขณะแถลงขา่วเกี่ยวกับคดี น.ส.นริศราวัลถ์