พลิกชื่อผู้บริหาร-จนท.เมืองปากน้ำถูก ม.44 เชือด! ‘โซนอันตราย’คสช.จับตาเข้ม?
“…เงื่อนปมที่น่าสนใจคือ ผู้บริหารท้องถิ่น-เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนใหญ่ที่ถูก ม.44 สั่งพักงาน มักอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.บางพลี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ‘เขตเศรษฐกิจ’ ใน จ.สมุทรปราการ มีอาคารห้างสรรพสินค้า สถานที่ช็อปปิ้ง เป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงนี้เอง อาจเอื้อให้กับบรรดานักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปหาผลประโยชน์ในส่วนนี้ได้โดยง่าย ?...”
ในห้วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กว่า 2 ปีที่ผ่านมานั้น มีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ถึง 4 ครั้ง สั่งพักงาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำงานของข้าราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวนนับร้อยคน ที่ถูกกล่าวหา-ร้องเรียนว่า มีส่วนพัวพันกับการทุจริต
บรรดาข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐ บางรายถูกส่งชื่อไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ไต่สวนต่อ และบางรายก็ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้ว เช่น นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่ถูกชี้มูลความผิดในคดีคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาทโดยทุจริต และกำลังถูกสอบในส่วนของร่ำรวยผิดปกติด้วยอยู่ด้วย
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.เชือด'สาธิต-ศุภกิจ'คดีทุจริตคืนภาษี-พบเอาเงินไปซื้อทองคำแท่ง 179 ล., 641.1 ล.ซื้อทองคำแท่ง! ป.ป.ช.โชว์ข้อกล่าวหาทางการ ‘อธิบดีสรรพากร’ รวยผิดปกติ)
แต่ก็ยังมีข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายสิบราย ที่ถูกคำสั่งดังกล่าว จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีผลการสอบสวนข้อเท็จจริง หรือดำเนินการอย่างไรต่อ ?
อย่างไรก็ดีในบรรดาข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกสั่งพักงาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะว่าในคำสั่งหัวหน้า คสช. ทั้ง 5 ฉบับ (ฉบับล่าสุดออกเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559) ปรากฏรายชื่อของผู้บริหารท้องถิ่นใน จ.สมุทรปราการ ติดโผมาด้วยถึง 3 ครั้ง
เพื่อขยายความให้ชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมไว้ ดังนี้
คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 (ฉบับแรก) เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2558
มีรายชื่อของ 1.นายประทีป ยั่งยืน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 2.นายภัทรพล จำปารัตน์ นายก อบต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 3.นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 19/2558 (ฉบับที่สอง) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2558
มีรายชื่อของ 1.นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หรือ ‘เอ๋’ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ 2.นายสายัณฑ์ รักษนาเวศ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ 3.นายนิพนธ์ บุญยเกียรติ ผอ.กองแผนและงบประมาณ อบจ.สมุทรปราการ 4.นายวิชัย จันทร์จำรูญ ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ.สมุทรปราการ
คำสั่งหน้า คสช. ที่ 43/2559 (ฉบับที่สี่) เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2559
มีรายชื่อของ น.ส.เยาวลักษณ์ ดีเลิศ ผู้อำนวยการกองคลัง อบต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดยรายชื่อเกือบทั้งหมดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ตามการไต่สวนของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ถูกร้องเรียนกล่าวหาในประเด็นปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการเรียกรับเงินทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็น ‘เอ๋-ชนม์สวัสดิ์’ ที่ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบสารพัดคดี เช่น การจัดซื้อสื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมอง (BBL) สำหรับเด็กปฐมวัย วงเงินกว่า 39.8 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่า ล็อคสเป็ค-ฮั้วเอกชน มีการหักค่าใช้จ่ายล่วงหน้าร้อยละ 30% ของวงเงิน หรือการให้งบอุดหนุนวัดในรูปแบบเงินบริจาคจำนวนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งพบว่า วัดไม่สามารถนำเงินไปใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ และมีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าให้ผู้รับเหมา รวมถึงโครงการอุดหนุนโครงการก่อสร้างศาลาฌาปณกิจศพ (เตาเผาศพ) ที่ถูก สตง. ตรวจสอบพบความไม่โปร่งใสในวัดหลายแห่งด้วย (ปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ จ.สมุทรปราการ จากคดีทุจริตการเลือกตั้ง)
(อ่านประกอบ : เปิดชื่อ-พฤติการณ์คดีฮั้วซื้อสื่อเรียน 39 ล.ในชั้น ป.ป.ช.ยุค‘เอ๋-ชนม์สวัสดิ์’, “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์”ลุ้นอีก! ป.ป.ช.สอบปม อบจ.สมุทรปราการให้เงินอุดหนุนวัดใกล้เสร็จแล้ว, “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์”ลุ้นอีก! ป.ป.ช.สอบปม อบจ.สมุทรปราการให้เงินอุดหนุนวัดใกล้เสร็จแล้ว, ย้อนทรัพย์สินหมื่นล."ชนม์สวัสดิ์" ก่อนศาลสั่งจำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา)
ส่วน น.ส.เยาวลักษณ์ ถือ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายล่าสุดที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. สั่งพักงาน ภายหลังที่ สตง. ได้ชี้มูลความผิดจากประเด็นปัญหาการจัดการเก็บและขนสิ่งปฏิกูล การออกใบอนุญาต และการจ้างเหมาบริการกำจัดขยะมูลฝอยของ อบต.บางแก้ว ไม่ว่าจะเป็นการจ้างเอกชนที่เป็นพี่เขยของ น.ส.เยาวลักษณ์ ทำสัญญารับจ้างขนขยะให้กับเอกชนชื่อดัง เช่น เทสโก้ โลตัส อาคารบางนา ทาวเวอร์ และคอนโด ลุมพินี
ส่วนนายภัทรพล ที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. สั่งพักงานในล็อตแรกนั้น มีการกล่าวหาว่าเรียกรับเงินตอบแทนเพื่อแลกเปลี่ยนการออกใบอนุญาตให้เอกชนเข้าไปรับขนขยะจากศูนย์การค้าอิเกีย
นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจาก ศอตช. ยังพบด้วยว่า ทั้งคู่เคยเป็น ‘อดีต’ สามี-ภรรยา กันมาก่อน แต่ได้จดทะเบียนหย่ากันในช่วงที่นายภัทรพล เข้าดำรงตำแหน่งนายก อบต.บางแก้ว ปัจจุบันทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 2 คน และยังอาศัยอยู่ด้วยกัน
(อ่านประกอบ : เปิดสัมพันธ์ลึก!นายก อบต.บางแก้ว-ผอ.กองคลัง ที่แท้ อดีต'ผัว-เมีย' ก่อนโดน ม.44 ฟัน, ล้วงข้อกล่าวหาม.44 ผอ.กองคลัง อบต.บางแก้ว! ช่วย'พี่เขย'รับงานเก็บขยะ3เอกชนดัง, เปิดข้อกล่าวหา นายกอบต.บางแก้ว โดนม.44 ฟันลอตแรก เรียกส่วยขยะอิเกีย 4 หมื่น/ด.)
เงื่อนปมที่น่าสนใจคือ ผู้บริหารท้องถิ่น-เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนใหญ่ที่ถูก ม.44 สั่งพักงาน มักอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.บางพลี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ‘เขตเศรษฐกิจ’ ใน จ.สมุทรปราการ มีอาคารห้างสรรพสินค้า สถานที่ช็อปปิ้ง เป็นจำนวนมาก
ซึ่งตรงนี้เอง อาจเอื้อให้กับบรรดานักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปหาผลประโยชน์ในส่วนนี้ได้โดยง่าย ?
จึงจัดเป็น ‘โซนอันตราย’ ที่ คสช. จำเป็นต้องจับตาอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตอีก !
นี่ยังไม่นับ ‘อิทธิพลท้องถิ่น-อิทธิพลทางการเมือง’ ที่ถูกครอบงำไว้โดยนักการเมืองระดับชาติ และฐานเสียงของพรรคการเมืองบางพรรค ที่อาจเป็น ‘ปรปักษ์’ กับ คสช. ได้
ดังนั้น สิ่งที่ต้องรอดูต่อไปคือ จะมีจังหวัดไหนอีกบ้างที่ถูกนับเป็น ‘โซนอันตราย’ และต้องถูกจับตาอย่างเข้มข้น
เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องนี้อีก !