บึ้มฆ่าตัวตายกลางชุมนุมประท้วงที่อัฟกานิสถาน ดับอย่างน้อย 80 ราย
บึ้มคาบูล ตายอย่างน้อย 80 ราย ถือเป็นเหตุโจมตีที่นองเลือดที่สุดในเมืองหลวงในรอบ 15 ปี
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 ราย บาดเจ็บกว่า 230 คน จากเหตุการณ์ที่มือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คนจุดระเบิดท่ามกลางฝูงชนเมื่อวันเสาร์ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน
ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชนกลุ่มน้อย “ฮาซารา” ซึ่งกำลังชุมนุมประท้วงโครงการสร้างเสาไฟฟ้า ซึ่งพวกเขาระบุว่ารุกล้ำที่อยู่ของพวกเขาในจังหวัดบามิยัน
หลังจากเกิดเหตุ ปรากฎว่ากลุ่มหัวรุนแรงที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ ขณะที่กลุ่มตาลีบันซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากในอัฟกานิสถาน ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
สำนักงานข่าวกรองของอัฟกานิสถานเผยว่าผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ คือนายอาบู อาลี ซึ่งเป็นผู้บัญชาการของกลุ่มไอเอสในเขตอาชิน จังหวัดนานการ์ฮาร์
ขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์และรอดชีวิตมาได้ เล่าว่าอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 10 เมตรและไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น และพอรู้ตัวว่ามีเหตุร้ายก็กำลังจะวิ่งหนี ปรากฎว่าเกิดระเบิดขึ้นอีกหนึ่งครั้ง จากนั้นตำรวจก็ยิงคนก่อเหตุ
ผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนเล่าว่าหูอื้อไปประมาณ 10 นาทีหลังจากเหตุระเบิด ผู้คนรอบตัวล้มลงมากมาย ระเบิดน่าจะถูกวางไว้บนรถขายไอศครีม
ด้านกระทรวงมหาดไทยแถลงว่ามีมือระเบิด 3 คน โดยคนที่ 3 ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตก่อนลงมือจุดระเบิด
ขณะที่ประธานาธิบดีอัชราฟ กานีแห่งอัฟกานิสถาน ประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามบั่นทอนเอกภาพของชนกลุ่มน้อยในประเทศ และประกาศจะนำตัวผู้บงการ มาลงโทษ
โดยเหตุการณ์นี้นับเป็นการโจมตีที่นองเลือดที่สุดในกรุงคาบูลตั้งแต่ปี 2544 ทั้งยังถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่เชื่อมโยงไปถึงไอเอสครั้งแรกในกรุงคาบูล
เจ้าหน้่าที่โรงพยาบาลเผยว่าผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลต่างๆ และมีการขาดแคลนเลือดอย่างมาก โดยได้มีการร้องขอทางสื่อสังคมออนไลน์ให้ประชาชนไปช่วยบริจาคเลือด
ด้านยูเอ็นประณามเหตุการณ์นี้ว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม เพราะถือว่ามีความรุนแรงที่สุดในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน นับตั้งแต่ตาลีบันถูกโค่นอำนาจเมื่อปี 2544 ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่าเป็นการโจมตีที่น่ารังเกียจที่สุดที่มีขึ้นในช่วงที่ผู้คนกำลังชุมนุมประท้วงอย่างสันติ
ในทำนองเดียวกัน องค์กรนิรโทษกรรมสากลระบุว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนว่ากลุ่มติดอาวุธไม่คำนึงถึงชีวิตผู้คนเลยจึงลงมือก่อเหตุการณ์นี้ อีกทั้งเหตุระเบิดยังสะท้อนว่าความขัดแย้งในอัฟกานิสถานไม่ได้เบาบางลงเลย แต่กลับรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ
ขอบคุณข่าวจาก