เบื้องหลัง! ปมปัญหาจัดซื้อไม้สัก 4.5 พันต้นสร้างรัฐสภาใหม่ก่อน‘บิ๊กตู่’เบรก

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 21 กรกฎาคม 2559 เวลา 12:29 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

ไม้สัก | กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม | ก่อสร้างรัฐสภาใหม่ | พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี | กรมป่าไม้

“…ขณะนี้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เว้นแม้แต่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เนื่องจากตามสัญญาต้องใช้ไม้สักประมาณ 4.5 พันต้น ในการสร้างเสา แต่ไม่รู้ว่าจะดำเนินการหามาจากไหน นอกจากนี้ยังไม่กล้าแก้ไขสัญญาให้เปลี่ยนชนิดของไม้ เพราะเกรงว่าอาจเกิดปัญหาเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนได้ แต่ขณะนี้เอกชนหาไม้มาไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย…”

PIC maisukkk 21 7 59 4

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง ‘เผือกร้อน’ ที่ถูกโยนเข้าใส่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกครั้ง !

ภายหลังที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในโลกออนไลน์ว่า การก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีการต่อสัญญาจากเดิมเนื่องจากสร้างไม่เสร็จ จะมีการใช้ไม้สักประมาณ 4.5 พันต้น ในการก่อสร้างด้วย โดยจะใช้ไม้สักในส่วนขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ในบริเวณสวนป่าแม่หอพระ จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในการดูแลของ อ.อ.ป.

กระทั่งร้อนถึง ‘บิ๊กตู่’ ต้องสั่งการผ่าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า นายกฯมีคำสั่งถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ระงับการดำเนินการดังกล่าวไว้ก่อนแล้ว รวมไปถึงชาวบ้านในพื้นที่หลายคนได้ออกมาคัดค้านการกระทำดังกล่าวด้วย

หลายคนอาจจะยังสงสัยถึงที่มาที่ไปในโครงการดังกล่าวอยู่ ?

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขมวดปมเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้

การซื้อไม้สักเพื่อก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นั้น เกิดขึ้นตามสัญญาการออกแบบที่ กลุ่มกิจการร่วมค้า สงบ 1051 เป็นผู้ชนะการออกแบบเมื่อปี 2552 โดยในสัญญามีการระบุว่า ให้มีเสาไม้ประดับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ทั้งภายในและภายนอกอาคาร

ต่อมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งต้องดำเนินการตามที่กลุ่มกิจการร่วมค้า สงบ 1051 ออกแบบ นั่นคือต้องดำเนินการจัดหาไม้สักตามแบบก่อสร้าง จำนวน 4,534 ต้น โดยระบุคุณสมบัติทำนองว่า จะต้องเป็นไม้ที่คุณภาพดี อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งต้องเป็นไม้สักทั้งหมดจากป่าปลูก ไม้จาก อ.อ.ป. หรือไม้ที่ยึดได้จากการทำผิดกฎหมาย หรือไม้เก่าที่นำมาใช้ใหม่ หรือไม้ที่มิได้อยู่ในกระบวนการที่จะต้องตัดใหม่

หลังจากนั้น กลุ่มกิจการร่วมค้า สงบ 1051 ได้ติดต่อขอใช้ไม้ไปที่ อ.อ.ป. โดย อ.อ.ป. แจ้งกลับมาว่า พร้อมจัดหาเสาไม้สักที่สวนป่าเศรษฐกิจของ อ.อ.ป. เพื่อนำไม้ไปจัดทำไม้เหลากลม และปรับขนาดให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 8 นิ้ว ซึ่งในส่วนคุณภาพอาจจำเป็นต้องมีส่วนของกระพี้ตา หรือรูมอดไม้ เนื่องจากเป็นธรรมชาติของไม้จากป่าปลูก หากเข้าเงื่อนไขนี้ อ.อ.ป. ก็พร้อมดำเนินการให้

ตรงนี้คือข้อมูลเบื้องต้น ไขปริศนาที่ว่า เหตุใด การก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ต้องใช้ ‘ไม้สัก’

อย่างไรก็ดี เมื่อปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนแล้ว รวมถึง ‘บิ๊กตู่’ ได้สั่งการให้ระงับการดำเนินการดังกล่าวไว้ก่อนแล้ว คำถามสำคัญคือ ทำไมสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ดำเนินการแก้ไขสัญญาเพื่อจัดหาไม้ชนิดใหม่ทดแทนไม้สัก ?

แหล่งข่าวจากรัฐสภาแจ้งสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เว้นแม้แต่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เนื่องจากตามสัญญาต้องใช้ไม้สักประมาณ 4.5 พันต้น ในการสร้างเสา แต่ไม่รู้ว่าจะดำเนินการหามาจากไหน นอกจากนี้ยังไม่กล้าแก้ไขสัญญาให้เปลี่ยนชนิดของไม้ เพราะเกรงว่าอาจเกิดปัญหาเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนได้ แต่ขณะนี้เอกชนหาไม้มาไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย

ทำให้เป็นปัญหาชวนปวดเศียรเวียนเกล้าว่า จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ?

ขณะที่เมื่อเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ กรมป่าไม้ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ส่งหนังสือเวียนกันภายใน ระบุทำนองว่า ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้รายงานว่า ไม้สักดังกล่าวเป็นไม้สักในแปลงปลูกป่าของ อ.อ.ป. เป็นผู้ได้รับอนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง เพื่อปลูกสร้างสวนป่าสัก

โดยผู้รับเหมา (บริษัท ซิโน-ไทยฯ) ได้ติดต่อมายัง อ.อ.ป. เพื่อต้องการไม้สักกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว ปริมาณมาก ซึ่ง อ.อ.ป. ได้ให้สวนป่าภายใต้สังกัด อ.อ.ป. ทั่วประเทศสำรวจไม้สักที่ได้ขนาดตามความต้องการดังกล่าวแล้ว พบว่า สวนป่าแม่หอพระ จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในการดูแลของ อ.อ.ป. มีไม้สักแปลงปี 2521 ประมาณ 2 พันต้นเศษ บริเวณบ้านป่าสักงาน ม.1 ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มีขนาดตามที่ อ.อ.ป. ได้สั่งให้สำรวจ

อย่างไรก็ดีการขออนุญาตใช้พื้นที่ของ อ.อ.ป. บริเวณสวนป่าแม่หอพระดังกล่าว อ.อ.ป. ใช้พื้นที่ตามมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2057 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2559) เนื้อที่ 9,246 ไร่ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2528 หมดอายุการขออนุญาตเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2558 ซึ่งปัจจุบันใบอนุญาตหมดอายุ และ อ.อ.ป. อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อปลูกสร้างสวนป่าใหม่

กรมป่าไม้ยืนยันว่า ขณะนี้ภายในสวนป่าแม่หอพระ ยังไม่ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการตัดไม้สัก เพียงเป็นการเข้าไปสำรวจ และประกอบกับชาวบ้านต้องการอนุรักษ์ไม้สักไว้ อนึ่งการที่จะขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวน จะต้องได้รับความเห็นจากท้องถิ่นในพื้นที่ก่อน ในกรณีพื้นที่นี้คือเทศบาลตำบลลวงเหนือ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีการเข้าไปตัดไม้สัก

ขณะเดียวกันกรมป่าไม้ ยังส่งหนังสือถึง พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย ระบุทำนองว่า ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรัฐสภาทำหนังสือขอซื้อไม้สักสวนป่าไปจัดสร้างจำนวนประมาณ 4.5 พันต้น โดย อ.อ.ป. ตอบหนังสือกลับไปว่า สามารถจัดหาไม้ตามขนาดที่ต้องการให้ได้ แต่เนื่องจากไม้ดังกล่าวมีขนาดใหญ่ไม่สามารถหาได้จากสวนใดสวนหนึ่งได้ ต้องรวบรวมจากหลาย ๆ สวน จึงสั่งการให้สำรวจไม้ที่มีขนาดโตเกิน 100 ซม. ในสวนป่าภาคเหนือทั้งหมด

“สำหรับสวนป่าที่เป็นประเด็นในข่าวคือ สวนป่าแม่หอพระ จ.เชียงใหม่ พื้นที่ที่จะนำไม้ออก ไม่ได้อยู่ในพื้นที่โครงการพระราชดำริ ซึ่งส่วนป่าแห่งนี้ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนฯแล้ว อ.อ.ป. สามารถนำไม้ออกได้ แต่เมื่อยังมีปัญหาความไม่เข้าใจของมวลชน จึงได้สั่งให้ชะลอการสำรวจนำไม้จากสวนป่านี้ไปก่อนแล้ว และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้นัดหารือการดำเนินงานในเรื่องนี้แล้ว” หนังสือดังกล่าว ระบุ

ท่ามกลางข่าวซุบซิบกันในสภาว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงมีปัญหาเรื่องการหาไม้สัก มีใครบางคนเสนอให้นำเข้าไม้มาจากต่างประเทศ และว่ากล่าวคนทำสัญญาในการออกแบบสร้างรัฐสภาแห่งใหม่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาได้ เนื่องจากเอกชนไม่ยินยอม รวมถึงหากแก้ไขสัญญาก็อาจเป็นการเอื้อเอกชนได้ (สำหรับสัญญาดังกล่าวเซ็นในช่วงปี 2552 มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 (ขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการย้ายรัฐสภา)

ทั้งหมดคือเบื้องลึก-ฉากหลังในการจัดหาไม้สักเข้ามาก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้

ล่าสุด นายธีรพล นิยม ตัวแทนกลุ่มกิจการร่วมค้า สงบ 1051 และประธานคณะผู้ออกแบบโครงการรัฐสภาแห่งใหม่ ได้เขียนชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการนำไม้สักเข้ามาก่อสร้างแล้ว ทำนองว่า สาเหตุที่ต้องนำไม้สักมาสร้าง เนื่องจากรัฐสภาเป็นงานสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญที่สุดงานหนึ่งที่ทำหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นชาติ และเอกลักษณ์ของชาติ ทั้งนี้ไม้สักเปรียบเสมือน DNA ของชาติไทย ด้วย

(อ่านประกอบ : ไม้สักเหมือน DNA ของชาติ! ปธ.ออกแบบรัฐสภาใหม่แจงเหตุใดต้องใช้สร้าง?)

นี่เป็นแค่หนึ่งในปัญหาเล็ก ๆ ท่ามกลางปัญหาคาราคาซังในการต่อสัญญารัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้การก่อสร้างยืดเยื้อ รวมถึงปัญหาการขนดิน ที่มีการแจ้งความเนื่องจากพบว่า มีการลักลอกขุดดินไปขาย ทำให้ราชการเกิดความเสียหายมาแล้ว !

อ่านประกอบ :

ไม่ได้ถมแห่งเดียว!ตร.สาวลึกขบวนการขนดินสภาใหม่-เรียกเอกชนแจงแล้ว

‘จเร’ยันแจ้งความผู้ประสานงานมูลนิธิราชประชาฯเอาผิดปมขนดินถมที่เอกชน

ตามไปดู! ‘วัดแก้วฟ้า-ปราสาท’ได้รับดินจริงหรือ? หลัง สนช.ร้องบริจาคไม่โปร่งใส

ไร้รถขน-เลิกติดต่อนานแล้ว! สภ.บาง ศรีเมืองยันไม่เคยได้รับบริจาคดินสภาใหม่

โชว์หนังสือบริจาคดิน‘วัดแก้วฟ้า-ปราสาท’ ก่อนถูกระงับ-เจ้าอาวาสเชื่อโดนหลอก!

ไม่ใช่แค่มูลนิธิราชประชาฯ! สนช.ร้อง‘วัดแก้วฟ้า-ปราสาท’ขนดินบริจาคไม่สุจริต

เปิดรายชื่อ กก.บริหารดินรัฐสภาใหม่ยุค‘จเร’ ก่อนสอบแค่ 3 ขรก.-สาวไม่ถึง‘ตัวใหญ่’?

อากาศไม่เอื้ออำนวย! มท.อัพเดตชนวนสภาใหม่ช้า-จี้ กทม.คืนพื้นที่โดยเร็ว

เปิดสัญญาขนดินเอกชน 2 ราย ทำไม่ทัน-งานขุดไม่คืบ ชนวนสภาใหม่เสร็จช้า?

วัดก็มี-สถานีตำรวจก็มา! เปิด 12 รายได้รับบริจาค-ชนะประมูลซื้อดินสภาใหม่

ตัวแทนผู้ประสานงานขนดินสภาใหม่อ้างไม่รู้เรื่อง! ปัดเอี่ยวมูลนิธิราชประชาฯ