ยอดตายคาคุกปัตตานีพุ่ง 3 ศพ – ญาติแจง "อันวาร์" ไม่เกี่ยวแกนนำปลุกระดม
เหตุจลาจลในเรือนจำกลางปัตตานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เมื่อกลางดึกของวันศุกร์ที่ 15 ก.ค.59 นั้น ล่าสุดจากการเข้าเคลียร์พื้นที่ พบผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง กำลังร่วมกันเคลียร์พื้นที่ร่วมกับทางเรือนจำ และจะมีการแถลงผลการปฏิบัติทั้งหมดอีกครั้ง
สำหรับผู้เสียชีวิตจากการจลาจลครั้งนี้ เบื้องต้นมี 3 ราย ประกอบด้วย นักโทษชาย (นช.) เกียรต์ศักดิ์ จันทร์ดวง นช.เสริม จันทร์สุนทร และ นช.สุอนันต์ ป้องเช้า โดยเป็นการเสียชีวิตก่อนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ ส่วนผู้บาดเจ็บมีอีกจำนวนหนึ่ง
เหตุจลาจลเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 16.20 น.วันศุกร์ที่ 15 ก.ค. โดยมีนักโทษและผู้ต้องขังร่วมในเหตุการณ์นับร้อยคน มีการจุดไฟเผาอาคารเสียหาย 3 หลัง คืออาคารฝ่ายควบคุม อาคารฝ่ายการศึกษา และเรือนนอน 4 คดีความมั่นคง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลจะเข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. และมีการนำรถขนผู้ต้องขัง ย้ายนักโทษบางส่วนไปคุมขังในเรือนจำอื่น ประมาณ 200 คน
ญาติผู้ต้องขังรอฟังข่าวหน้าเรือนจำ
สำหรับบรรยากาศที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 16 ก.ค. มีญาติผู้ต้องขังจำนวนมากไปเฝ้าติดตามสถานการณ์ และสอบถามถึงคนในครอบครัวของตนเองที่อยู่ด้านในว่าปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ หรือว่าถูกย้ายไปเรือนจำอื่นแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งรายละเอียดใดๆ
นางบีเดาะ เจะโซ๊ะ แม่ของผู้ต้องขังรายหนึ่ง กล่าวว่า ทราบข่าวจากโทรทัศน์ว่ามีการก่อเหตุในเรือนจำ ก็เดินทางมา เพราะอยากทราบว่าลูกชายเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตายหรืออยู่สุขสบายดี ทุกอย่างรับได้หมด ขอแค่ทราบข่าว
ต่อมา นายนพพร รัตนวัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี ได้เข้าไปภายในเรือนจำพร้อมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และประเมินสถานการณ์ล่าสุด ขณะที่ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่และมีกำหนดการเข้าไปตรวจสอบภายในเรือนจำ
เวลาประมาณ 10.30 น. มีการลำเลียงศพ 2 ศพออกมาด้านนอก ส่วนอีกศพหนึ่งอยู่โรงพยาบาลปัตตานีแล้ว มีรายงานว่า นายสุอนันต์ ป้องเช้า เสียชีวิตเพราะถูกมีดแทงขณะเกิดจลาจล ส่วน นายเสริม จันทร์สุนทร กับ นายเกียรติศักดิ์ จันทร์ดวง ร่างถูกเผาไฟภายในเรือนจำ
"พี่ชายอันวาร์"ยันน้องไม่ใช่แกนนำก่อจลาจล
สำหรับกระแสข่าวที่ว่า แกนนำนักโทษที่ก่อจลาจล คือ นายมูฮำหมัดอัณวัร หะยีเตะ หรือ อันวาร์ เพราะมีชื่อในแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือ ระบุข้อเรียกร้อง 11 ข้อที่ยื่นให้เจ้าหน้าที่นั้น
จากการสอบถามครอบครัวของนายอันวาร์ ทุกคนไม่เชื่อว่านายอันวาร์เป็นแกนนำการก่อจลาจล และลายมือในจดหมายก็ไม่ใช่ลายมือของนายอันวาร์ ชื่อ-นามสกุลก็เขียนผิด ขณะนี้กลัวว่านายอันวาร์จะถูกทำร้ายหรือถูกสั่งย้ายเรือนจำ
นายมูหามัดซิดดิบ หะยีเตะ พี่ชายของนายอันวาร์ ที่ไปรอเยี่ยมและพบกับน้องชาย บอกว่า ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่านายอันวาร์ไม่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่เป็นเพียงล่ามให้กับผู้ต้องขังที่พูดภาษาไทยไม่ได้เท่านั้น เมื่อได้รับคำยืนยันเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งอก
รือมือละห์ แซเยะ ภรรยาของอันวาร์ โพสต์เฟซบุ๊คว่า อันวาร์ปลอดภัย ไม่ถูกย้ายเรือนจำไปไหน และพ้นข้อหาเป็นแกนนำก่อจลาจล เป็นเพียงตัวกลางไกล่เกลี่ยเท่านั้น
"ประวิตร" สั่งเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนยกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากประเทศบรูไน ถึงกรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเรือนจำกลางปัตตานีว่า เป็นเรื่องของนักโทษ ซึ่งจะต้องมีมาตรการเข้มงวดเพิ่มขึ้น และขณะนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกำลังดูแลอยู่
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 อาคารของฝ่ายควบคุมและรักษาการณ์ในเรือนจำที่ถูกจุดไฟเผา
2 ญาติและครอบครัวผู้ต้องขังมารอติดตามสถานการณ์เป็นจำนวนมาก
3 พี่ชายของอันวาร์