เจาะขุมธุรกิจ'อาณาจักรช้าง-เสี่ยอุเทน' ไขที่มาล่องแพให้อาหาร'จระเข้' แซดโซเซียล!
"..คำถาม คือ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจากกิจกรรมนี้ บริษัทฯ จะรับผิดชอบอย่างไร ..เพราะหากพิจารณาเรื่องรายได้และผลกำไรของบริษัทที่ปรากฎออกมาแล้ว ลำพังเรื่องของตัวเงิน อาจจะยากลำบากในการชดเชยความเสียหายได้...นี่ยังไม่นับรวมความล่มสลายทางธุรกิจ ที่สั่งสมมาเป็นเวลานับสิบปี ที่จะต้องพังทลายลงไปในพริบตาด้วย.."
กำลังถูกจับตามองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำหรับ 'อาณาจักรช้างพัทยา' ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่จัดกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงสูง เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวล่องแพให้อาหาร 'จระเข้' จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเซียลมีเดีย โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย แม้ว่าล่าสุด นายอุเทน ยังประภากร นักธุรกิจฟาร์มจระเข้สมุทรปราการชื่อดัง ในฐานะเจ้าของ จะออกมายืนยันว่า มีความปลอดภัย เพราะทำธุรกิจนี้มานานนับสิบปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูล 'อาณาจักรช้างพัทยา' พบว่า จดทะเบียนจัดตั้งในชื่อ บริษัท อาณาจักรช้าง จำกัด เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2546 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 8/3 หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
แจ้งประกอบธุรกิจ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สวนสัตว์ สวนสนุกและบริการเครื่องเล่นทุกชนิดทุกประเภท
ปรากฎชื่อ นาย อุเทน ยังประภากร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุด 31 ธันวาคม 2557 แจ้งว่ามีรายได้จากการขายและบริการ 1,574,700 บาท มีรายจ่ายรวม 1,187,671.42 บาท กำไรสุทธิ 373,974.29 บาท มีสินทรัพย์รวม 6,002,623.52 บาท หนี้สิน 4,236,504.29 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า นาย อุเทน ยังประภากร ยังเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับ จระเข้ อีกหลายแห่ง ได้แก่ บริษัท คร็อคโคไดล แอ็ดเว็นเจอร์ แอนด์ เบิร์ดปาร์ค จำกัด บริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์อุทัยรัช จำกัด และบริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จำกัด เจ้าของฟาร์มจระเข้ ชื่อดังในสมุทรปราการ
ทั้งนี้ ในส่วนของ บริษัท คร็อคโคไดล แอ็ดเว็นเจอร์ แอนด์ เบิร์ดปาร์ค จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 17 มกราคม 2546 ทุน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 999 หมู่ที่ 7 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
แจ้งประกอบธุรกิจ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สวนสัตว์ สวนสนุกและบริการเครื่องเล่นทุกชนิดทุกประเภท
นำส่งงบดุลล่าสุด 31 ธันวาคม 2557 แจ้งว่าไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 15,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 15,000 บาท
บริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 6 มีนาคม 2517 ทุนปัจจุบัน 200 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 555 หมู่ที่ 7 ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
แจ้งประกอบธุรกิจสวนสัตว์
นำส่งงบดุลล่าสุด 31 ธันวาคม 2557 แจ้งว่ามีรายได้จากการขาย 40,473,888.58 บาท รวมรายจ่าย 37,581,590.83 บาท กำไรสุทธิ 885,430.36 บาท
บริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์อุทัยรัช จำกัด จดทะเบียน 25 กันยายน 2541 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 888 หมู่ที่ 7 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
แจ้งประกอบธุรกิจขายจระเข้และผลิตภัณฑ์จากจระเข้
นำส่งงบดุลล่าสุด 31 ธันวาคม 2557 แจ้งว่ามีรายได้จากการขายและส่งออก 379,000 บาท รายได้จากการขาย 2,200,000 บาท รายได้อื่น 165,210.53 บาท รวมรายได้ 2,744,210.53 บาท รวมรายจ่าย 2,628,732.44 บาท กำไรสุทธิ 92,382.47 บาท
จากข้อมูลทั้งหมด ชี้ให้เห็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ 2 ประการ คือ
ประการแรก นาย อุเทน ยังประภากร เจ้าของ'อาณาจักรช้างพัทยา' มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจระเข้เป็นอย่างดี เพราะทำธุรกิจด้านนี้มาหลายสิบปี
แต่มีข้อสังเกตอยู่ตรงที่ผลประกอบการของบริษัทในเครือทั้งหมด แม้จะไม่ขาดทุนแต่ก็ไม่ได้ดีมากนัก กำไรอยู่แค่หลักแสน
กรณีอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการจัดกิจกรรมล่องแพให้อาหารจระเข้ เข้ามาเสริมเพื่อเป็นจุดขายดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้น
ประการสอง กิจกรรมล่องแพให้อาหารจระเข้ ถูกมองว่าเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง อันตรายอาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา
คำถาม คือ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจากกิจกรรมนี้ บริษัทฯ จะรับผิดชอบอย่างไร (กรณีนี้เป็นการท่องเที่ยวแบบกลุ่ม ไม่ใช่กิจกรรมเดียว ลงทำกิจกรรมพร้อมกันมากกว่า 7 คน ขึ้นไป)
เพราะหากพิจารณาเรื่องรายได้และผลกำไรของบริษัทที่ปรากฎออกมาแล้ว ลำพังเรื่องของตัวเงิน อาจจะยากลำบากในการชดเชยความเสียหายได้
นี่ยังไม่นับรวมความล่มสลายทางธุรกิจ ที่สั่งสมมาเป็นเวลานับสิบปี ที่จะต้องพังทลายลงไปในพริบตาด้วย (รวมถึงผลกระทบด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย)
หรือกรณีนี้ บริษัทฯ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะถือเป็นความสมัครใจของนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาใช้บริการเอง
นั้นคือ ข้อเสนอในแง่มุมของ ผู้ประกอบการ ที่ควรพึ่งระวัง!
แต่ในส่วนของ 'ลูกค้า' ที่เข้าไปใช้บริการ สิ่งที่ต้องตระหนัก คือ
ชีวิตของมนุษย์ มันมีค่ามากกว่าเงินทอง และอุบัติเหตุก็เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
การตัดสินใจทำกิจกรรมอะไร เพื่อความสนุกสนาน ตื่นเต้น ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีแต่มีความเสี่ยงสูงอันตรายถึงชีวิต
มันคุ้มค่าที่ต้องแลกกันแล้วหรือ?