ปะทะรือเสาะวิฯ 2 ศพ – กอ.รมน.ขอโทษปมทหารพรานผิดกฎเหล็กชู้สาว
เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้ฝ่ายหลังเสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ธารโตหวิดมีม็อบปม 2 ทหารพรานละเมิดกฎเหล็กชู้สาว
ช่วงสายวันเสาร์ที่ 2 ก.ค.59 ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการสนธิกำลังกันระหว่างหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 กับ 46 ได้บุกจู่โจมเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในสวนยางพาราท้ายหมู่บ้านอูยิ ต.ลาโละ อ.รือเสาะ แต่ชายฉกรรจ์ 2 คนในบ้านไหวตัวก่อน และใช้ปืนสงครามเอ็ม 16 กับอาก้ายิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ จนเกิดการยิงปะทะกันนานหลายนาที
ต่อมา พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ และประสานกับญาติพี่น้อง ตลอดจนผู้นำศาสนาช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้คนในบ้านยอมมอบตัว แต่ไม่เป็นผล สุดท้ายจึงยิงปะทะกันต่อ และถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม 2 ศพ ทราบชื่อคือ นายอับดุลอาแซ ซิกะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงซึ่งมีหมายจับหลายหมาย และ นายอาลี สุหลง พร้อมยึดอาวุธปืนสงครามได้ 2 กระบอก เบื้องต้นคาดว่าเป็นอาวุธปืนที่ถูกปล้นจากค่ายทหาร
ปฏิบัติการครั้งนี้ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 นาย คือ ส.อ.กำพล วิสิฐ และ ส.อ.ซาบีดี บูละ
นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมตัวผู้ตัองสงสัยได้ 1 คน โดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก โดยได้ควบคุมตัวไปซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46
กอ.รมน.ขอโทษปมทหารพรานผิดกฎเหล็กชู้สาว
อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.ค.เช่นกัน มีข่าวทหารพรานมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหญิงมุสลิม จนถูกชาวบ้านบัวทอง ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ชุมนุมขับไล่ให้ย้ายฐานออกจากพื้นที่
ประเด็นนี้เป็นประเด็นค่อนข้างอ่อนไหวสำหรับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งโต๊ะแถลงข่าวทันที โดยชี้แจงว่าทหารพรานที่ถูกกล่าวหา เป็นอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) จำนวน 2 นาย สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 3301 กรมทหารพรานที่ 33 ได้ลักลอบออกจากฐานปฏิบัติการ และนัดพบกับหญิงสาวมุสลิม อายุประมาณ 19 ปี และ 21 ปี เพื่อพบปะพูดคุยกันบริเวณตาดีกาบ้านบัวทอง ต.บ้านแหร เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 1 ก.ค.กระทั่งมีประชาชนมาพบเห็น และนำเรื่องไปแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ต่อมาเมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติพี่น้องและประชาชนในหมู่บ้าน โดยมี รองผอ.รมน.จังหวัดยะลา ฝ่ายทหาร และผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 33 รวมถึงปลัดอาวุโสอำเภอธารโต ไปร่วมหารือด้วย ท่ามกลางประชาชนในหมู่บ้านนับร้อยคน
ผลการพูดคุยสรุปว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขออภัยต่อพี่น้องมุสลิมที่กำลังพล 2 นายดังกล่าวประพฤติตัวไม่เหมาะสม, ที่ผ่านมา ผอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งก็คือแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการอย่างเด็ดขาดไม่ให้กำลังพลสร้างเงื่อนไขในพื้นที่ และมีกฎเหล็กห้ามไม่ให้กำลังพลสร้างเงื่อนไข โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว ฉะนั้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นการกระทำผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับหน่วย แต่กระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ผอ.รมน.ภาค 4 จึงสั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวน และลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดต่อไป
หลังการพูดคุย ปรากฏว่าประชาชนและญาติของหญิงสาวมีความเข้าใจและพึงพอใจต่อมาตรการของเจ้าหน้าที่ จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
บึ้มซ้ำอีกลูกที่ อ.ยี่งอ ทหารเจ็บ 2 นาย
ช่วงเย็นวันเดียวกัน คนร้ายลอบวางระเบิดริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ท้องที่บ้านกาเด็ง หมู่ 7 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เพื่อโจมตีรถทหารจากค่ายกัลยาณิวัฒนา ขณะเดินทางกลับจากส่งชุดฝึกในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส กำลังมุ่งหน้ากลับฐานปฏิบัติการ แรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ พลทหาร อาทิตย์ นวลกุ้ง กับ พลทหาร ไพรัตน์ คำทอง
ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้า ตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่อำเภอรอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตรวจพบการพ่นสีข้อความบนเส้นขอบถนนสายสะบ้าย้อย-โคกโพธิ์ บริเวณระหว่างหลักกิโเมตรที่ 10-11 ท้องที่หมู่ 6 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย มีทั้งข้อความภาษาไทยโจมตีเจ้าหน้าที่ทหาร และข้อความภาษามลายูที่แปลว่าฟาตอนีคือประเทศของพวกตน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ชาวบ้านไปรวมตัวกันที่โรงเรียนตาดีกาบัานบัวทอง ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา หลังไม่พอใจที่ทหารพรานกระทำตัวไม่เหมาะสมกับหญิงสาวมุสลิม
2 สภาพรถทหารที่ถูกลอบวางระเบิดใน อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส
ขอบคุณ : ภาพจากเจัาหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ