สั่งสอบยันผู้ชำระบัญชี! เปิดปฏิบัติการ'สรรพากร'ไล่บี้ภาษี '7เอกชน'พันคดีทุจริตข้าว
"..ขอทราบว่านิติบุคคลดังกล่าว ได้จดทะเบียนเลิกห้างฯ/บริษัทฯ ต่อสำนักข้อมูลธุรกิจหรือไม่ เมื่อใด ถ้าจดทะเบียนเลิกแล้ว แต่อยู่ในระหว่างการชำระบัญชี ขอทราบชื่อและที่อยู่ ของผู้ชำระบัญชีหรือผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคลนั้นๆ .."
หากใครที่ติดตามข่าวการตรวจสอบข้อมูล 'บริษัทเอกชน' ที่ถูกระบุว่าเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการทุจริตระบายข้าว ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมานำเสนออย่างต่อเนื่อง
คงจะทราบกันดีว่า ปัจจุบันเรื่องอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาคดีในชั้นศาล โดยชื่อของบริษัทเอกชนหลายราย (โดยเฉพาะ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดังของประเทศไทย) ถูกระบุว่ามีร่วมกระทำความผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ ให้การสนันสนุนการกระทำความผิด ซึ่งมีผลทางโทษทั้งคดีอาญาและทางแพ่ง
(อ่านประกอบ :4 ข้อหาในชั้น ป.ป.ช.ชนวนศาลสั่งเพิ่มเงินประกัน‘บุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง’หวั่นซ้ำรอย‘หมอโด่ง’?)
แต่มีกระบวนการตรวจสอบข้อมูล บริษัทเอกชนกลุ่มนี้ อีกช่องทางหนึ่ง ที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยข้อมูลมาก่อน นั้นเคยการตรวจสอบข้อมูลเรื่องการเสียภาษี ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ 'กรมสรรพากร'
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2558 สำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร ได้ทำหนังสือเลขที่ ก 0717/ตส./5528 ถึง ผู้อำนวยการสำนักข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ระบุว่า ด้วยสำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร ได้ทำการตรวจสอบภาษีอากร และเร่งรัดภาษีอากรค้าง จำนวน 7 ราย คือ บริษัท เจียเม้ง จำกัด บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด บริษัท รชาพันธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด บริษัท คอนไซน์ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท เอ แอนด์ ดี อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกีด บริษัท ร่มทอง จำกัด และบริษัท สยามรักษ์ จำกัด
และมีความประสงค์ ดังนี้
1. ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี กรณีห้างฯ/บริษัทฯ มีการจดทะเบียน เลิกกิจการแล้ว
2. ระงับการขีดชื่อออกจากทะเบียน กรณีห้างฯ/บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอการขีดชื่อ
และ 3. ขอทราบว่านิติบุคคลดังกล่าว ได้จดทะเบียนเลิกห้างฯ/บริษัทฯ ต่อสำนักข้อมูลธุรกิจหรือไม่ เมื่อใด ถ้าจดทะเบียนเลิกแล้วแต่อยู่ในระหว่างการชำระบัญชี ขอทราบชื่อและที่อยู่ ของผู้ชำระบัญชีหรือผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคลนั้นๆ
ทั้งนี้ จนกว่าการตรวจสอบและเร่งรัดภาษีอากรค้างจะแล้วเสร็จ (ดูเอกสารประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลบริษัทเอกชน ทั้ง 7 แห่ง พบว่า มีความเกี่ยวในคดีทุจริตข้าว 2 เรื่อง คือ การระบายข้าวจีทุจี และข้าวถุง
กลุ่มบริษัทในคดีระบายข้าวจีทูจี ได้แก่ บริษัท เจียเม้ง จำกัด บริษัทสยามอินดิก้า จำกัด
(อ่านประกอบ : เปิดตัว"เจียเม้ง"ตัวละครเอกระบายข้าวถุง-รายได้ 6 ปีล่าสุดทะลุ 4 หมื่นล. , ป.ป.ช.ฟันลอตสอง!15 เอกชนพันคดีข้าวจีทูจี-บ.เจียเม้งตัวละครข้าวถุงโดนด้วย)
กลุ่มบริษัทในคดีระบายข้าวถุง ได้แก่ บริษัท เจียเม้ง จำกัด บริษัทสยามอินดิก้า จำกัด บริษัท รชาพันธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด บริษัท คอนไซน์ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท เอ แอนด์ ดี อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด บริษัท ร่มทอง จำกัด และบริษัท สยามรักษ์ จำกัด
(อ่านประกอบ : ครบชุด! ข้อมูล 7 บริษัท โยงคดีข้าวถุง บิ๊ก อคส.รับส่วนต่าง 66 สต./ถุง, "สยามอินดิก้า" พ่วง "เจียเม้ง" เปิดตัว 4เอกชน รับช่วงซื้อข้าวถุงอคส. 6.6 พันล.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง สำนักตรวจสอบภาษีกลาง กรมสรรพากร เพื่อสอบถามความคืนหน้าเรื่องการตรวจสอบภาษีบริษัทเอกชนทั้ง 7 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตข้าวดังกล่าว แต่ถูกปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูล
โดยเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบระบุว่า คงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ได้ และถ้าสื่อไปถามใครก็คงจะไม่ได้รับคำตอบ แม้กระทั่งอธิบดีกรมสรรพากรเอง
ทั้งหมดนี่ คือ ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการตรวจสอบภาษีบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตข้าว ของกรมสรรพากร ที่ปรากฎข้อมูลเป็นทางการในขณะนี้
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ปัจจุบันบริษัทเอกชนกลุ่มนี้ หลายบริษัทยังไม่ได้นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุดให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ
โดยเฉพาะในส่วนของบริษัท สยามอินดิก้าฯ นำส่งงบการเงินล่าสุด ณ ปี 2556 เท่านั้น
งบดุลปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่โครงการระบายข้าวของ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกตรวจสอบพบว่ามีปัญหาการทุจริต
จึงยังเป็นปริศนาสำคัญที่ยังไม่มีใครล่วงรู้ว่า บริษัทสยามอินดิก้า ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการระบายข้าวของรัฐบาล จะแจ้งว่า มีรายได้-รายจ่าย รวมถึงกำไร อยู่ที่ตัวเลขเท่าไรในการทำธุรกิจช่วงนี้?
ขณะที่ตัวเลขที่ประเทศชาติ เสียหายจากการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว มีมูลค่าสูงหลายแสนล้านบาท!