250 ล.! ทรัพย์สินล่าสุดอดีต ส.ส.กระบี่ ‘สาคร’ก่อนถูกกล่าวหารุกป่าชายเลน
เปิดทรัพย์สิน 250 ล้าน อดีต ส.ส. ‘สาคร เกี่ยวข้อง’ ก่อนชื่อติดโผ ทช. ถูกกล่าวหารุกพื้นที่ป่าชายเลนกระบี่ พบเป็นนักธุรกิจดังในจังหวัด ถือหุ้น-เป็นกรรมการบริษัทนำเที่ยว-รีสอร์ทแอนด์สปา-ขายรถยนต์ มีที่ดิน 50 แปลง อยู่ในอ่าวนาง-ไสไทยด้วย
สาธารณชนอาจทราบไปแล้วว่า นายสาคร เกี่ยวข้อง อดีต ส.ส.กระบี่ และนักธุรกิจชื่อดังใน จ.กระบี่ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวหาว่าอาจเป็นผู้บุกรุกป่าชายเลนในพื้นที่ จ.กระบี่
กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วง 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดี ทช. ได้นำชุดปฏิบัติการฉลามขาว พร้อมด้วย พ.อ.พงษ์เทพ ประกอบศุขราษฎร์ รอง ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จ.กระบี่ พ.อ.สานิตย์ ซ้ายขวัญ จาก ศปป.4 และกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 50 นาย ไปตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลน ที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองจิหลาด ม.5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่า สภาพป่าสงวนถูกทำลาย กลายเป็นนากุ้งจำนวนหลายสิบบ่อ
โดยจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชนหลายสำนัก ระบุตรงกันว่า มีบุคคลมาแสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว โดยนำโฉนด สค.1 จำนวน 1 ฉบับ ออกเมื่อปี 2498 และโฉนดที่ดินจำนวน 2 ฉบับ ออกเมื่อปี 2549 มาแสดงหลักฐานว่าเป็นเจ้าของ ปรากฏชื่อของนายสาคร เป็นหนึ่งในผู้ครอบครองโฉนดดังกล่าวด้วย รวมประมาณ 24 ไร่เศษ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายสาคร ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2557 พบรายละเอียด ดังนี้
นายสาคร แจ้งสถานะว่า ‘หย่า’ มีบุตรยังไม่บรรลุภาวะ 1 คน
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 250,368,998 บาท
ได้แก่ เงินฝาก 1,457,900 บาท เงินลงทุน 13,583,100 บาท ที่ดิน 208,419,556 บาท บ้าน 1 หลัง ตึก 3 หลัง 23.5 ล้านบาท รถยนต์ 9 คัน ซากรถ 2 คัน 6.8 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 2,728,441 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 14,432,168 บาท
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีเงินลงทุน 35 ล้านบาท (บริษัท อ่าวนาง คลิฟฟ์ บีช จำกัด)
สำหรับเงินลงทุนทั้งหมดของนายสาคร มีทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท อ่าวนางแทรเวลแอนด์ทัวร์ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 1,759,100 บาท
2.บริษัท สยาม นิสสัน มอเตอร์ กระบี่ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 5 ล้านบาท
3.บริษัท เมืองเก่าธุรกิจ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 125,000 บาท
4.บริษัท กระบี่เกี่ยวทรัพย์ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 1,000 บาท
5.บริษัท ลันดาคลิฟฟ์บีช รีสอร์ทแอนด์สปา จำกัด ถือหุ้นอยู่ 6,698,000 บาท
ส่วนบริษัท อ่าวนางฯ ให้บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะถือหุ้น 35 ล้านบาท
ทั้งนี้นายสาคร ยังดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัท ลันตาคลิฟฟ์บีชฯ บริษัท อ่าวนางคลิฟฟ์บีชฯ บริษัท สยาม นิสสัน มอเตอร์ กระบี่ฯ และบริษัท อ่าวนางแทรเวลแอนด์ทัวร์ฯ ด้วย
ขณะเดียวกันนายสาครยังถือครองโฉนดในพื้นที่ จ.กระบี่ รวมกัน 50 แปลง วงเงิน 208,419,556 บาท โดยมีที่ดินหลายแปลงอยู่ที่ ต.อ่าวนาง และ ต.ไสไทย (พื้นที่ที่ถูก ทช. เข้าไปตรวจสอบ)
อนึ่ง ในการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว นายศักดิ์ดา ระบุว่า ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองจิหลาด มีพื้นที่ 14,248 ไร่ ถูกบุกรุกโดยการเข้าไปทำนากุ้ง จำนวน 131 ไร่ เศษ เจ้าของแท้จริง คนในพื้นที่รู้กันดีว่าเป็นนักการเมืองระดับชาติ และเอกสารที่นำมาแสดง ทั้ง สค.1 และโฉนดที่ดิน น่าจะเป็นการออกโดยมิชอบ โดยเฉพาะโฉนดทั้ง 2 ฉบับที่ระบุว่าออกในปี 2549 ไม่น่าจะออกได้ ทั้งนี้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า การออกโฉนดในปี 2549 น่าจะเป็นการเดินสำรวจ ซึ่งไม่สามารถมาสำรวจในพื้นที่ป่าได้
ดังนั้น กรมที่ดินจะต้องเพิกถอน รวมทั้งสิ้น 24 ไร่ ตามหลักฐานที่นำมาแสดง ส่วนอีกราว 80 กว่าไร่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ทช.จึงได้แจ้งความดำเนินคดี และห้ามดำเนินการต่อแล้ว