ก.เกษตร รับลูกโรดแมป ชี้จะเร่ง กม.สวัสดิการชาวนา-สภาเกษตรแห่งชาติที่ค้างอยู่
กระทรวงเกษตรฯ สนองนโยบายสร้างความปรองดองของรัฐบาล แจงแผนปฏิรูปภาคเกษตร ร่าง พ.ร.บ.กองทุนสวัสดิการชาวนาเตรียมเข้า กขช. ออก พ.ร.บ.คุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม เตรียมสำรวจความต้องการใช้ที่ดินทั่วประเทศเพื่อจัดสรรภายในปีนี้ บอกเร่งจัดตั้งสภาเกษตรกรแห่งชาติซึ่งขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ยังค้างอยู่ที่วุฒิสภา
วันที่ 26 เมษายน นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงแนวทางการสร้างความเท่าเทียมในสังคมด้านการเกษตรตามแผนปรองดอง แห่งชาติว่า หลักใหญ่จะเน้นให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ประกอบด้วย 2 แนวทางคือ 1.การพัฒนาและเพิ่มโอกาสให้ตัวเกษตรกร ได้แก่ การจัด ทำร่าง พ.ร.บ.กองทุนสวัสดิการชาวนา เพื่อสร้างหลักประกันแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและชาวนาซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่มี ความสำคัญให้มีสวัสดิการและบำนาญเลี้ยงชีพยามชรา ซึ่งขณะนี้คณะอนุกรรมการนโยบายแห่งชาติด้านการผลิตได้ผ่านร่างดังกล่าวนำ เสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
“นอกจากนี้ยังมีการออก พ.ร.บ. คุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ให้เกิดการบังคับใช้ที่ดินที่มีอยู่และจำกัดเขตเป็นพื้นที่การเกษตรซึ่งไม่ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้ เพื่อให้เกษตรกรได้มีโอกาสมีที่ทำกินและใช้ประโยชน์ทรัพยากรในเขตปฏิรูป ที่ดิน โดยในปี 2553 กระทรวงฯ มีแผนงานจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกร โดยจะสำรวจความต้องการการใช้ที่ดินของเกษตรกรทั่วประเทศและนำเสนอต่อรัฐบาล เพื่อจัดสรรที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินแก่เกษตรกรด้วย” นายธีระ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวต่อไปว่า ในอนาคตยัง มีแผนสนับสนุนให้สหกรณ์ที่เข้มแข็งจัดซื้อที่ดินเป็นของตนเองเพื่อให้ สมาชิกเข้ามาดำเนินการเกษตร โดยภาครัฐจะสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและโครงสร้างพื้นฐานทางเกษตร, ขยาย และเพิ่มโครงการประกันรายได้เกษตรกร จากเดิมที่ชดเชยให้เฉพาะพืชเศรษฐกิจ 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ให้ครอบคลุมสินค้าเกษตรชนิดอื่น เพื่อคุ้ม ครองและประกันความเสี่ยงด้านรายได้และการผลิตที่เกิดจากความเสียหายจาก ภัยธรรมชาติ, ราคาปัจจัยผลิต, ราคาผลผลิตตกต่ำและการตลาด ที่สำคัญคือ การเร่งรัดโครงการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรที่อยู่ในขั้นตอนการบูรณ การของกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้เข้าสู่ระบบประกันภัยอย่างสมบูรณ์
2.การพัฒนากลุ่มองค์กรเกษตรกร ได้แก่ การสร้างความเข้ม แข็งให้แก่กลุ่มเกษตรกร โดยจะเร่งผลักดันการจัดตั้งสภาเกษตรกรแห่ง ชาติให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อเพื่อคุ้มครองและรักษาประโยชน์ของเกษตรกรในการผลิตและการตลาด ซึ่งขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา, การ พัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้, การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน, การจัดทำยุทธศาสตร์สินค้าเกษตร และจะผลักดันมาตรการลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรให้สำเร็จ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรใน ตลาดโลกและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรที่เป็นอาหารให้เกิดความเป็นธรรม ต่อเกษตรกร
“กระทรวงได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เร่งศึกษาข้อมูลของเกษตรกรทุกกลุ่ม รวมทั้งปัญหาต่างๆของเกษตรกรทุกฝ่าย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และจะได้นำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาของเกษตรกรทุกๆด้านอย่างยั่งยืนต่อไป” นายธีระ กล่าว