กสทช.ชี้ผู้ประกอบการทีวีรายเดิมไม่ได้มีรายได้ลดลง
กสทช.ชี้ผู้ประกอบการทีวีรายเดิมไม่ได้มีรายได้ลดลง แต่คำนวณเฉพาะผลประกอบการทีวีดิจิตอลเท่านั้น
ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ครั้งที่ 20/2559 วันที่ 20 มิ.ย. 2559 นี้ มีวาระเพื่อทราบเรื่องสรุปผลการยื่นชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี 2558 โดยค่าธรรมเนียมเกิดจากการนำรายได้จากการประกอบกิจการมาคำนวณ ในปี 2558 รายได้จากการประกอบกิจการทีวีดิจิตอลอยู่ที่ 11,343,041,428 บาท สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้ จำนวน 226,310,829 บาท (สองร้อยยี่สิบหกล้านสามแสนหนึ่งหมื่นแปดร้อยยี่สิบเก้าบาท) เป็นรายได้จาก 22 ช่อง ยกเว้น บริษัท ไทยทีวี จำกัด ทั้ง 2 ช่อง คือ ช่องรายการ MVTV Family และช่องรายการไทยทีวี
ตัวเลขผลประกอบการจากผู้ประกอบการรายเดิม 2 เดิม คือ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง 33, บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ช่อง 35 เป็นตัวเลขที่ ผู้ประกอบการกำหนดเอง ไม่มีการนำตัวเลขรายได้ที่ออกอากาศผ่าน Must carry เข้ามารวม ทำให้มีจำนวนน้อย ไม่ได้หมายความว่ามีรายได้ลดลง แต่ 2 บริษัท นี้ได้นำรายได้ส่วนใหญ่ให้อยู่ในรูปแอนะล็อก ซึ่งตัวเลขที่แสดงในการเสียค่าธรรมเนียมครั้งนี้ เป็นเฉพาะรายได้ส่วนของดิจิตอลเท่านั้น ทำให้ดูเหมือนผู้ประกอบการ 2 รายหลัก มีรายได้น้อยมาก มีผลประกอบการลดลง
“ตัวเลขค่าธรรมเนียม อาจทำให้เข้าใจผิดคลาดเคลื่อน คิดว่ารายได้ของ ช่อง 3 เท่ากับ 1,799,957,563 บาท และช่อง 7 รายได้ 1,669,697,770 บาท ในทางกลับกัน ช่องใหม่อย่าง ช่องเวิร์คพอยท์ ทีวี มีผลประกอบการดีมากกว่า ช่อง 7 เนื่องจาก เวิร์คพอยท์ แจ้งรายได้ 1,699,306,450 บาท ในขณะที่ ช่อง 7 แจ้งรายได้ ที่เกิดจากใบอนุญาตทีวีดิจิตอล จำนวน 1,669,697,770 บาท ทำให้เวิร์คพอยเสียค่าธรรมเนียมรายปีมากกว่า แต่ในความเป็นจริง ช่อง 7 มีรายได้มากกว่านี้ เพียงแต่แบ่งเป็นรายได้ที่เกิดจากทีวีดิจิตอลเพียงเท่านี้” ผศ.ดร.ธวัชชัย กล่าว