สนช.ผ่าน กม.ตั้ง “ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง” พิพากษาคดี ขรก.โกง
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ... ตั้งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยให้ครอบคลุมคดีฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐผิดต่อหน้าที่-ฟอกเงิน-ฮั้วประมูล-ส่วย-ข่มขู่-ไม่ปฏิบัติงาน รวมทั้งพวกจงใจไม่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์ หรือทำอันเป็นเท็จ และคดีที่ร้องให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ก่อนมีมติเอกฉันท์ 160 เสียงเห็นชอบ 2 วาระรวด
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ... โดยสาระสำคัญคือการจัดตั้งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางโดยยกฐานะแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในศาลอาญาขึ้นเป็นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และเมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเปิดทำการแล้ว ห้ามมิให้ศาลชั้นต้นอื่นรับคดีที่อยู่ในอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไว้พิจารณาพิพากษา และกำหนดนิยามคำว่า “คดีทุจริตและประพฤติมิชอบ” ที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางให้มีความหมายครอบคลุม ดังนี้
1. คดีอาญาที่ฟ้องให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น หรือความผิดอื่นอันเนื่องมาจากการประพฤติมิชอบ
2. คดีอาญาที่ฟ้องให้ลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลที่กระทำความผิดฐานฟอกเงิน หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือกฎหมายอื่นที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ
3. คดีอาญาที่ฟ้องให้ลงโทษบุคคลให้ ความผิดเกี่ยวกับการเรียก รับ ยอมจะรับ หรือ ให้ ขอให้ รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือการใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้อิทธิพลเพื่อจูงใจหรือข่มขืนใจให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำใดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่น 4. คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลตามกฎหมายที่กำหนดให้เป็นคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ 5. คดีเกี่ยวกับการจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ หรือจงใจยื่นบัญชีและเอกสารดังกล่าวด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และ 6. คดีร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะเหตุร่ำรวยผิดปกติหรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ทั้งนี้ สมาชิกได้มติเอกฉันท์ 160 คะแนนเห็นชอบในวาระ 2 และ 3 เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข่าวจาก