ปลัด กทม. เผยยินดีให้ข้อมูลการปรับปรุงห้องทำงานผู้ว่าฯ กับ สตง. เพิ่มเติม
ปลัดกรุงเทพมหานคร เผยผู้ว่าฯ ยินให้ความร่วมมือ สตง. ตรวจ ปรับปรุงห้องทำงานด้วยงบ 16 ล้าน ระบุ สำนักการโยธา กำลังรวบรวมข้อมูล-เอกสารอยู่ มีกำหนดนัดส่งมอบ 15 มิ.ย. นี้
วันที่ 13 มิ.ย. 59 นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังนายชัยวัฒน์ อนันตศานต์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 3 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าพบเพื่อขอเอกสารและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมกรณีการปรับปรุงห้องทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทีมงานมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 มิ.ย. 59) สตง. ได้ติดต่อขอเข้าตรวจสอบห้องทำงานและห้องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนได้นำเรียนให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรับทราบและท่านก็ยินให้ความร่วมมือกับทาง สตง. ด้วยดี และกรุงเทพมหานครก็ให้ความร่วมมือกับ สตง. ทุกครั้งมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ส่งเอกสารบางส่วนให้ สตง. แล้ว ขณะนี้เหลือรายละเอียดและเอกสารบางส่วนจะต้องส่งมอบให้ทาง สตง. เพิ่มเติม โดยสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร กำลังรวบรวมข้อมูลและเอกสารต่างๆ อยู่ และกำหนดนัดส่งมอบให้ สตง. ในวันพุธที่ 15 มิ.ย. 59
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า การปรับปรุงห้องทำงานของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ทราบเรื่องนี้ พอกลับมาปฏิบัติหน้าที่ก็พบห้องทำงานในลักษณะดังกล่าว ซึ่งสาเหตุของการปรับปรุงห้องนั้นเกิดจากฝ้าห้องน้ำถล่มลงมาจึงต้องดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุง แต่เนื่องจากอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานครมีอายุประมาณ 70 ปี และได้ทำการปรับปรุงใหญ่เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ลักษณะอาคารจึงคล้ายอาคารเก่าเมื่อมีการปรับปรุงหรือซ่อมแซมจุดหนึ่งก็ทำให้ต้องขยายการซ่อมแซมเพิ่มไปยังจุดอื่น
สำหรับการปรับปรุงดังกล่าวซึ่งดำเนินการก่อนมีการอนุมัติโครงการ เป็นครั้งแรกของหน่วยงานที่มีการดำเนินการลักษณะนี้ โดยอำนาจการเซ็นอนุมัติโครงการหรือเบิกจ่ายงบประมาณเป็นของผู้อำนวยการสำนักการโยธา ทั้งนี้ จะต้องรอผลสรุปจาก สตง. อีกครั้ง ว่ามีความผิดหรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะดูใน 2 แนวทาง คือ เข้าข่ายทุจริตหรือไม่ กับผิดระเบียบหรือไม่
ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 3 กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในห้องทำงานผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และห้องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นพบว่ามีการดำเนินการตรงตามแบบแปลน แต่โครงการนี้ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงิน สตง. จะตรวจสอบอีกครั้ง ว่ามีความจำเป็นและเหมาะสมหรือไม่ หากเห็นว่ามีข้อบกพร่องหรือมีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขปรับปรุง สตง. ก็จะระงับยับยั้งให้แก้ไขปรับปรุงก่อนการเบิกจ่ายเงิน ส่วนการสรุปผลจะต้องดูพฤติการณ์และรายละเอียดหลายอย่างประกอบ ปกติใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน และภายในสัปดาห์นี้จะเรียกพยานบุคคลและเอกสารหลักฐานมาตรวจสอบก่อนแล้วรายงานผลให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินทราบต่อไป อย่างไรก็ตามทางกรุงเทพมหานครได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบทุกห้องด้วยดีจึงไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจอายัติห้องทำงานดังกล่าว