ศิลปินแนวสตรีทจากสายบุรี ขึ้นเวทีโชว์ความสามารถงานปรองดองออสเตรเลีย
ศิลปินคนรุ่นใหม่จากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับเกียรติเข้าร่วมกิจกรรมกับศิลปินพื้นเมืองออสเตรเลีย และนักเต้นฮิปฮอป ในการแสดงฉลองสัปดาห์แห่งการปรองดองของออสเตรเลีย ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางกรุงเทพฯ
ศิลปินพื้นเมืองออสเตรเลีย ได้แก่ นาโอมิ เวนิตอง, ฮวนนิต้า ดันแคน และดิซซี่ ดูแลน จะร่วมกับเหล่าศิลปินไทยจากสถาบันบางกอกแดนซ์ และกลุ่มแชมป์เต้นฮิปฮอป “กิมมิค ฟอร์ซ” พร้อมด้วยศิลปินแนวสตรีทจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ แลกเปลี่ยนทักษะวัฒนธรรมและแสดงร่วมกันในวันที่ 31 พ.ค.59 ในวาระสัปดาห์แห่งการปรองดองของออสเตรเลีย ที่อินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
สำหรับสัปดาห์แห่งการปรองดองของออสเตรเลีย เป็นการเฉลิมฉลองประจำปีเพื่อยกย่องวัฒนธรรมชนพื้นเมืองออสเตรเลีย และการมีส่วนร่วมของชาวพื้นเมืองในการพัฒนาสังคมออสเตรเลีย โดยแนวคิดหลักของการเฉลิมฉลองในปีนี้คือ “ประวัติศาสตร์ของเรา เรื่องราวของเรา และอนาคตของเรา” เพื่อตอกย้ำว่าการยอมรับถึงความอยุติธรรมในอดีตและเรื่องราวของชาวพื้นเมืองออสเตรเลียนั้น เป็นส่วนสำคัญของชาติออสเตรเลีย และเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่การปรองดอง และด้วยการปรองดองนี้ออสเตรเลียจะสามารถสร้างให้ชาติแข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียวและมีความเท่าเทียมโดยเคารพในความหลากหลายในค่านิยมที่ยึดถือ
สามศิลปินจากปลายขวานร่วมวง
ศิลปินแนวสตรีทจากชายแดนใต้จะนำเสนอผลงานที่เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงครั้งนี้ ได้รับทุนสนับสนุนโดยตรง หรือ Direct Aid Program จากสถานทูตออสเตรเลีย โดยกลุ่มที่ได้รับการคัดเลือก คือ สายบุรี สตรีท เอ็กซ์ฮิบิท (Saiburi Street Xhibit) ซึ่งเป็นกิจกรรมสเก็ตบอร์ดและกราฟฟิตี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นำคนรุ่นใหม่จากหลากหลายวัฒนธรรมและศาสนามาพบกัน โดยศิลปินที่ร่วมในงานสายบุรี สตรีท เอ็กซ์ฮิบิท จะมาร่วมนำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมของพวกเขาในกิจกรรมสัปดาห์แห่งการปรองดองออสเตรเลีย
ผู้ที่จะปรากฏตัวบนเวทีในวันที่ 31 พ.ค. คือ มุสลิม สาและ, ซิดดิก บาสอลอ และ มูฮัมหมัดซุรียี มะซู
รู้จักศิลปินแนวสตรีทจากสายบุรี
โครงการ “Saiburi Street Xhibit - สายบุรี สตรีท เอ็กซ์ฮิบิท” จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปลายเดือน ก.พ.59 มีการทำเวิร์คช็อปสเก็ตบอร์ดและสตรีทอาร์ท บริเวณหาดวาสุกรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย สื่อสารสันติภาพ และเปิดพื้นที่สร้างสรรค์แก่เยาวชนในพื้นที่ ตัวงานได้รับความสนใจจากคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน
กิจกรรมเวิร์คช็อปสเก็ตบอร์ดและสตรีทอาร์ท มีโค้ชสเก็ตบอร์ดทีมชาติ และศิลปินมืออาชีพมาสาธิตพร้อมฝึกสอนให้กับเยาวชนและบุคคลทั่วไปที่สนใจ
อับดุลการีม เจ๊ะดาโอ๊ะ รองประธานกลุ่ม RISK Pattani Skateboards บอกว่า สเก็ตบอร์ดไม่แบ่งแยก ทุกคนสามารถเล่นร่วมกันได้ แผ่นสเก็ตคือสัญลักษณ์
“ผมเข้าร่วมโครงการนี้เพราะอยากเปิดโอกาสให้เด็กที่นี่ได้มองเห็นความหลากหลาย และเห็นว่าสเก็ตบอร์ดเป็นกีฬาที่น่าเล่น ดึงดูดใจ เนื่องจากเป็นได้ทั้งกีฬาและแฟชั่น คนที่เล่นต้องกล้าเข้ามาเล่น ผลัดกันเล่น คนที่ตั้งใจอยากเล่นต้องเริ่มเล่น มีแผ่นสเก็ต แล้วหัดท่าต่างๆ เพื่อฝึกประสบการณ์ ค่อยๆ เขยิบไปทีละขั้น”
อับดุลการีม เล่าว่า คนที่ทดลองเล่นสเก็ตบอร์ดมี 2 แบบ คือคนที่อยากเล่นเพียงชั่วครู่ กับคนที่ตั้งใจเล่นจริงๆ
“สำหรับคนที่ตั้งใจเล่นจิงๆ เมื่อเจอราคาของแผ่นสเก็ต จะหาข้อมูล หาความรู้ แม้มีเงินไม่พอก็จะตั้งใจเก็บเงินจนสามารถมีแผ่นสเก็ตเป็นของตัวเองได้ อยากบอกว่าสเก็ตบอร์ดเป็นกีฬาที่ต้องตั้งใจเล่น เล่นกันจริงจังจึงจะได้ผลสำเร็จ”
อีกด้านหนึ่ง “ลัน” หรือ มุสลิม สาและ ชายหนุ่มร่างสันทัดที่รักงานกราฟฟิตี้ วาดลวดลายในสไตล์ที่ชื่นชอบ กับ “สุไล” เจ้าของผลงาน “ทหารเล่นสเก็ตบอร์ด” เล่าว่า จินตนาการทหารใส่เครื่องแบบเล่นสเก็ต เปรียบเหมือนการปล่อยอารมณ์ให้ลายพรางหลุดออกไป
“สเก็ตสามารถทำให้มีอิสระ ไม่ถูกบังคับ หลุดกรอบบางอย่าง เป็นตัวของตัวเอง งาน Wall Painting (ศิลปะบนกำแพง) ที่พวกเราทำ สามารถทำบนกำแพงที่ว่างตรงไหนก็ได้ แต่บ้านเราไม่มีพื้นที่ให้ทำ อยากให้ผู้ใหญ่ที่นี่เข้าใจและมีพื้นที่ให้เราได้ปล่อยของ มาที่นี่ได้จัดเต็มที่กับสิ่งที่คิดไว้”
นาญิบ อาแวบือซา ที่ปรึกษาโครงการ บอกว่า ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ประชาชนรากหญ้ายังไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึง และสื่อสารไม่ตรงกันในเรื่องสันติภาพ หากไม่มีการเริ่มต้นนับหนึ่ง ก็ไม่มีก้าวที่สองหรือสาม จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ ให้เด็กเล่าเรื่อง เล่าปัญหา และบอกความคิดของเขา เชื่อว่าสามารถเข้าถึงสันติภาพได้ แม้จะใช้เวลามากหน่อย หากเป็นเสียงของประชาชนตัวจริงเสียงจริง
การเลือกพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เนื่องจากมีการจัดกิจกรรม “คืนความทรงจำเมืองสาย” ระหว่างพี่น้องมลายูและจีนมาแล้ว ครั้งนี้เปิดพื้นที่ให้เด็กจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามได้มารู้จักโลกใหม่ เรียนรู้โลกภายนอก สร้างพื้นที่ปฏิสัมพันธ์ เมื่อมีความคุ้นเคย สามารถสื่อสารแบบเพื่อนได้ ก็จะต่อยอดไปในเรื่องอื่นๆ
ความตั้งใจจัดโครงการในครั้งนั้น ได้รับความสนใจจากเยาวชนในพื้นที่ ทั้งไปดู ไปชม และทดลองประสบการณ์ใหม่ ถือเป็นการเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้เรียนรู้อย่างสมัครใจ
และให้ศิลปะภายในตัวตนได้พูดในแบบของตัวเอง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ 1-3 : งานสายบุรี สตรีท เอ็กซ์ฮิบิท ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อปลายเดือน ก.พ.59