ก.คลังเร่งประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ กอช. ตั้งเป้าปี 59 มีสมาชิก 1.5 ล้านคน
กองทุนการออมฯ จับมือกรมบัญชีกลาง เดินหน้าขยายโครงการส่งเสริม ปชช.ออมเงิน ประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ หวังเเรงงานนอกระบบ 25 ล้านคน เข้าถึงรายได้ยามเกษียณ
วันที่ 27 พฤษภาคม 2559 นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการออม ระหว่างกรมบัญชีกลาง กับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ขยายผลไปถึงประชาชนให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้สิทธิสมัครสมาชิก กอช. ได้ครอบคลุมทุกจังหวัดมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของคนไทยที่เป็นแรงงานนอกระบบและเป็นผู้มีรายได้น้อย จำนวนกว่า 25 ล้านคนทั่วประเทศ ณ กระทรวงการคลัง
นายวิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ภายในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีสมาชิกทั่วประเทศราว 1.5 ล้านคน และรัฐจะอัดฉีดเงินสบทบเพิ่มอีก 900 ล้านบาท ซึ่งนโยบายนี้จะช่วยลดความเลื่อมล้ำลงในสังคม เป็นหลักประกันที่มั่นคงโดยเฉพาะกับผู้สูอายุ และกลุ่มคนที่ทำอาชีพอิสระ แต่ทั้งนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะทำให้คนหันมาลงทะเบียน ซึ่งทางรัฐพยายามออกมาประชาสัมพันธ์ รวมถึงมาตรการจูงใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยืดหยุ่นในการฝากเงิน การการันตีเงินสมทบ และเงินบำนาญ เป็นต้น
ด้านนายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของการออมตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 คือ ประชากรไทยที่เป็นแรงงานนอกระบบซึ่งมีมากกว่าร้อยละ 60 ของแรงงานทั้งหมด คนเหล่านี้คือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า นักเรียนนักศึกษา อาชีพขับรถหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และอาชีพรับจ้างทั่วไปอื่นๆ ซึ่งไม่มีนายจ้าง ไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน และมีถิ่นอาศัยกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ จึงเป็นเรื่องท้าทายของ กอช. ในการที่จะสื่อสารข้อมูลการออมและประโยชน์ของการเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติไปให้ครอบคลุมทั่วถึง และจะต้องมีความต่อเนื่อง
ปัจจุบันสัดส่วนของสมาชิกอยู่ที่ 4 แสนกว่าราย โดยช่วงอายุ 30 ปีแต่ไม่เกิน 50 ปี เป็นสมาชิกมากที่สุดคือ 45.64% รองลงมาคือกลุ่มคนอายุ 50ปี แต่ไม่เกิน 60 ปี 41.75% ทั้งนี้กลุ่มผู้สูงอายุที่ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนที่ 7.22% และกลุ่มอายุ 15ปี แต่ไม่เกิน 30 ปี ยังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่มาก มีเพียง 5.39%
กอช. จึงกำหนดทิศทางการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการออมเน้นกลยุทธ์การปูพรมลงพื้นที่ เพื่อให้เกิดการสื่อสารแบบเข้าถึงตัว ให้ชาวบ้านได้มีการสื่อสาร 2 ทางกับแหล่งข้อมูลช่าวสาร กอช. โดยอาศัยกลไกการบริหารของหน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายขององค์กรความร่วมมือต่างๆ ในการเป็นสื่อกลางนำเอาข้อมูลจาก กอช. ไปเผยแพร่และชี้แจงแก่ชาวบ้าน ตามวิธีการของแต่ละหน่วยงาน และความเหมาะสมของพื้นที่ โดยหวังผลให้ชาวบ้านได้มีการแจ้งข่าวบอกต่อในกลุ่มชาวบ้านด้วยกันเอง ขยายผลของการสื่อสารให้กว้างขวางต่อเนื่องไป ซึ่งจากความร่วมมือกับกรมบัญชีกลาง โดยสำนักงานคลังเขตและสำนักงานคลังจังหวัด ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจขับเคลื่อนการส่งเสริมการออมกับกองทุนการออมแห่งชาติ ให้ก้าวสู่ความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนสมาชิกกองทุนอย่างต่อเนื่องต่อไป
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างกรมบัญชีกลางกับ กอช.ในครั้งนี้ เป็นการอาศัยโครงสร้างการบริหารและกลไกการจัดการภารกิจในพื้นที่ของสำนักงานคลังเขต และสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ในการลงพื้นที่เข้าถึงชาวบ้าน เพื่อนำเอาข้อมูลหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการออมกับ กอช. ไปประชาสัมพันธ์แจ้งให้ชาวบ้านได้ทราบสิทธิของตนเอง และมีความเข้าใจว่าประโยชน์ที่จะได้รับจากการเป็นสมาชิก กอช.นั้นมีอะไรบ้าง ทั้งประโยชน์ด้านเงินสมทบที่จะได้รับจากรัฐบาล และโอกาสในอนาคตที่จะได้รับบำนาญตลอดชีวิต
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลาง โดยสำนักงานคลังเขตทั้ง 9 แห่ง และสำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วทั้ง 76 จังหวัด จะเป็นหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ที่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ กอช. แก่ชาวบ้าน และยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนภารกิจการส่งเสริมการออม โดยร่วมกับ กอช. ในการจัดกิจกรรมกลุ่มย่อยให้กับชุมชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ชาวบ้านตระหนักถึงความจำเป็นของการออมเพื่อชีวิตวัยเกษียณ และจะได้มีการตัดสินใจออมตอนที่ยังมีแรงทำงาน เพื่อให้มีโอกาสได้รับบำนาญในอนาคต