โปรดระวัง! ซื้อรถ MAZDA ป้ายแดง อาจได้รถที่ถูกเฉี่ยวชน มามอบให้?
"..ผมติดตามเรื่องนี้มาเกือบสองปีแล้ว แต่ก็ไม่รับความเป็นธรรมอะไรเลย พยายามติดต่อไปยังหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ก็ถูกดองเรื่องไว้นาน แต่ไม่ว่าอย่างไรผมจะต่อสู้ต่อไป เพราะมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องของระบบที่มีปัญหา สิทธิของผู้ซื้อรถ ถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรม จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข.."
โปรดระวัง! ซื้อรถ MAZDA ป้ายแดง อาจได้รถที่ถูกเฉี่ยวชน มามอบให้?
คือ คำพูดประโยคโปรยหัว ในหนังสือร้องเรียนฉบับหนึ่งที่ถูกส่งมาให้กองบรรณาธิการสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ช่วยตรวจสอบ
พร้อมบรรยายข้อมูลเพิ่มเติมว่า
"เมื่อประมาณเดือนเม.ย.2557 ผมจองซื้อรถใหม่ป้ายแดง MAZDA CX5 2.2 ดีเซล จากบริษัทขายรถยนต์แห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว (ขอสงวนชื่อเพิ่มความเป็นธรรม) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เสียค่าจอง 5,000 บาท ค่ามัดจำ 100,000 บาท และจ่ายค่ารถที่เหลืออีก 1,560,000 (ส่วนลด 5,000 บาท) รวมเป็นเงิน 1,670,000 บาท จ่ายเงินให้เสร็จแล้วพอรับรถใหม่ป้ายแดง แถมประกันชั้น 1 มาขับระยะหนึ่ง บังเอิญขับไปเฉี่ยวชนเสาที่จอด รถฯ จึงเรียกเจ้าหน้าที่ บริษัท สินมั่นคง ประกันภัย จำกัด มาเพื่อออกใบแคลมประกัน ตามขั้นตอนปกติ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายการ เลขที่กรมธรรม์ , ทะเบียนรถ, ตัวถังรถ แล้วแจ้งว่า รถคันนี้เคยเฉี่ยวชน หรือได้รับความเสียหายมาแล้ว 5 รายการ ก่อนทำประกัน หรือ วันเดียวกันกับที่ได้มอบรถใหม่ครั้งแรก
ผมตกใจมากที่ได้ยินข้อมูลแบบนี้ เพราะผมเพิ่งซื้อรถป้ายแดงมา ทำไมถึงมีบาดแผลรถเกิดขึ้นมาก่อนแล้วถึง 5 แผล
หลังจากได้รับทราบข้อมูล ผมจึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่กลับไปที่บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด เพื่อตรวจสอบรายละเอียด เลขที่กรมธรรม์, ทะเบียนรถ, ตัวถัง พร้อมบาดแผล ว่า เป็นของรถคันนี้จริงหรือไม่
โดยให้กลับไปดูหลักฐานให้แน่ชัดก่อนว่าไม่ผิดคัน
หลังจากใช้เวลาตรวจสอบ 2 วัน ก็ได้ส่งไปเคลมฯ พร้อมรายละเอียดความเสียหายก่อนทำประกันฯ 5 รายการ มาให้ผมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมา ผมได้โทรศัพท์, ส่งอีเมล์ และไลน์ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดพร้อมหลักฐานทั้งหมด ไปยังผู้บริหารสูงสุดทั้งของบริษัทตัวแทนฯ ที่ขายรถให้ และบริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ขอความเป็นธรรม แสดงความรับผิดชอบ
แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง, โยนไปให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัยจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยของรถคันนี้ ชี้แจงแทน ดังนี้
1. หนังสือชี้แจงจากบริษัทสินมั่นคงฯ ฉบับที่ 1 แจ้งขออภัยว่าบริษัท ได้บันทึกบาดแผล, ความเสียหาย, ของรถผิดกรรมธรรม์ และเป็นของรถผิดคัน ที่ถูกต้องเป็นขอรถ TOYOTA Yaris กรมธรรม์ เลขที่ 57-1-0-301782
แต่ผมเห็นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะผิดทั้งยี่ห้อรถ และเลขที่กรมธรรม์ ก็ไม่ใกล้เคียงกับรถ MAZDA CX5 กรมธรรม์เลขที่ 57-1-3-201316 ของผมเลย
ผมจึงอีเมล์ แจ้งขอภาพถ่ายกรมธรรม์ ภาพบาดแผล จำนวน 5 รายการ และเบอร์โทรศัพท์เจ้าของรถ TOYOTA Yaris ที่อ้างมา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน
2. ต่อมาบริษัทสินมั่นคงฯ มีหนังสือชี้แจงมาเป็นฉบับที่ 2 แจ้งขออภัยเป็นครั้งที่ 2 ว่า บริษัท ได้บันทึกบาดแผลผิดคัน เป็นครั้งที่ 2 ที่ถูกต้องเป็นของรถ TOYOTA Vios กรมธรรม์เลขที่ 57-1-0221674 และรูปถ่ายบาดแผลของรถที่มีเพียง 5 รายการ
แต่จากการตรวจสอบดูก็มีบาดแผลเกินกว่า 5 รายการ และเป็นคนละด้านของรถ
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับทราบความจริง ผมได้เดินทางไปตรวจสอบความจริง โดยไปที่บ้านของเจ้าของรถ TOYOTA Vios และได้รับทราบความจริงทั้งหมดว่า รถ TOYOTA Vios ซื้อมาจากบริษัท โตโยต้า เมื่อประมาณปี 2551 โดยได้รับประกันภัยชั้น 1 ฟรีปีแรก ทำกับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย
ขณะที่เจ้าของก็ยืนยันว่า ความจริงรถคันนี้มีบาดแผลมากกว่า 5 รายการ แต่เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นในปี 2551 ไม่ได้เกิดขึ้นในปี 2557 ซึ่งผมได้เป็นซื้อรถ MAZDA ป้ายแดงจากบริษัทขายรถยนต์แห่งหนึ่งรายนี้ และเกิดการเฉี่ยวชนแต่อย่างใด
กรณีนี้ ชี้ให้เห็นว่า มีบุคคลบางกลุ่มพยายามทำหลักฐานปลอมขึ้นมา เพื่อปกปิดความจริงว่า รถยนต์ป้ายแดง ที่ผมซื้อมา แท้จริงแล้วเป็นรถมีตำหนิ ผ่านการเฉี่ยวชนมาแล้ว ก่อนจะนำมาขายต่อให้ผม ซึ่งที่ผ่านมาผมได้พยายามเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมอะไร โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐ
โดยเหตุและผลประการนี้ จึงอยากขอความเป็นธรรมต่อสำนักข่าวอิศรา ให้เข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ภายหลังได้รับข้อมูลกรณีนี้ ได้ติดต่อไปยังบุคคลที่ร้องเรียนเข้ามา ซึ่งพบว่ามีตัวตนอยู่จริง คือ นายบุญรัก อภิรติกุล ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง จึงได้ติดต่อกลับไปเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
เบื้องต้นได้รับการยืนยันจากนายบุญรัก ว่า ข้อมูลที่แจ้งให้สำนักข่าวอิศรา รับทราบเป็นความจริงทั้งหมด และตนพร้อมที่จะนำเอกสารหลักฐานทุกอย่างมาส่งมอบให้
นายบุญรัก ยังระบุด้วยว่า ปัญหาสำคัญของเรื่องนี้คือ รถที่ผมซื้อใหม่ เป็นรถที่มีการเฉี่ยวชนมาก่อน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเกิดขึ้นในช่วงการขนส่งรถ
"แต่ในความเป็นจริง เมื่อผมซื้อรถใหม่ ก็ควรที่จะได้รถใหม่ ไม่ใช่รถที่เคยมีปัญหามาแบบนี้ มันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของผู้บริโภค ซึ่งกรณีนี้ ผมจะทราบอะไรเลย ถ้าบริษัทประกัน ไม่ได้มาเป็นคนแจ้งผมเองว่า รถนี้มีบาดแผลมาก่อน และให้ผมออกค่าซ่อมด้วย 50% ขณะที่กระบวนการทำงานของบริษัทประกัน ดูเหมือนจะมีความพยายามในการปกปิดข้อมูลด้วย เอาหลักฐานที่ไหนมาอ้างเพิ่มว่าเป็นความเข้าใจผิดกัน ซึ่งทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง เพราะผมรู้หมดแล้วว่า รถมันมีปัญหามาก่อน"
"และที่ผ่านมา ก็ได้ติดต่อให้บริษัทเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบสภาพรถ มาตรวจสอบรถของผมแล้ว ก็ได้รับการยืนยันว่า เป็นรถที่เคยมีปัญหามาก่อนจริง"
@ เป็นใบแจ้งจากบริษัทสินมั่นคงประกันภัยฯ ที่มีการระบุว่า "รับผิดชอบ 50% เนื่องจากมีความเสียหายก่อนทำประกัน"
นายบุญรัก ยังระบุด้วยว่า "ผมติดตามเรื่องนี้มาเกือบสองปีแล้ว แต่ก็ไม่รับความเป็นธรรมอะไรเลย พยายามติดต่อไปยังหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ก็ถูกดองเรื่องไว้นาน"
"แต่ไม่ว่าอย่างไรผมจะต่อสู้ต่อไป เพราะมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องของระบบที่มีปัญหา สิทธิของผู้ซื้อรถ ถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรม จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข"
นายบุญรัก ยังระบุต่อไปว่า โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่า ไม่ใช่มีเขาคนเดียวที่เจอปัญหาแบบนี้ ยังมีอีกหลายคน และในขณะที่เขาพอมีการศึกษา รู้กฎหมายอยู่บ้าง ยังถูกกระทำขนาดนี้ คนตัวเล็ก ธรรมดา จะไม่ยิ่งถูกกระทำมากกว่านี้หรือ
"ไม่ว่าจะอย่างไร ผมจะเดินหน้าต่อสู้กับเรื่องนี้ต่อไปจนถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก" นายบุญรักกล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่ากรณีนี้ เคยมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการไกล่เกลียเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค (ชุดที่ 4) ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2558
โดยบริษัทขายรถยนต์ ที่เป็นคู่กรณีของ นายบุญรัก ยืนยันว่ามิได้ส่งมอบรถที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุตามที่ถูกร้องแต่อย่างใด และยินดีให้มีการตรวจสอบรถคันพิพากว่าเคยมีการซ่อมสีมาหรือไม่ด้วย
ส่วนข้อเท็จจริงเชิงลึกกรณีนี้ จะเป็นอย่างไรนั้น สำนักข่าวอิศรา จะนำข้อมูลมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป