มะแซ อุเซ็ง เจ้าของแผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอน แกนนำกลุ่มแยกดินแดนเสียชีวิตแล้ว
ฝ่ายความมั่นคงไทยยืนยันข่าวการเสียชีวิตของ นายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหาคดีกบฏแบ่งแยกดินแดนคนสำคัญ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้สั่งการให้ปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 12 ปี
จากข้อมูลทะเบียนราษฎร พบว่า นายมะแซ เกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2502 อายุได้ 57 ปี โดยก่อนเสียชีวิตเขาป่วยหนักด้วยโรคปอด วัณโรค และเบาหวาน มีรายงานว่าเขาเสียชีวิตที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปลายเดือน เม.ย.59 แต่ก็มีข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงบางหน่วยระบุว่า อาจจะเสียชีวิตตั้งแต่เดือน มี.ค.
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับญาติของนายมะแซก็ยืนยันข่าวนี้ และให้ข้อมูลว่าร่างของนายมะแซ ถูกฝังตามหลักศาสนาอิสลามแล้วที่ประเทศมาเลเซีย ไม่ได้นำกลับมาทำพิธีฝังที่บ้านเกิดใน ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
นายมะแซ เคยเป็นครูสอนศาสนาโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง และทางการไทยเชื่อว่าเป็นแกนนำคนสำคัญของขบวนการบีอาร์เอ็นที่ต่อสู้กับรัฐบาลไทยเพื่อแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เป็นเอกราช
ฝ่ายความมั่นคงไทยเชื่อว่า นายมะแซ คือคนที่เขียน "แผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอน" หรือที่เรียกกันติดปากว่า "แผนบันได 7 ขั้น" เพราะเจ้าหน้าที่สามารถยึดเอกสารนี้ได้จากบ้านของเขา เป็นลายมือเขียนที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นของนายมะแซเอง และยังเคยยึดเอกสารแบบเดียวกันได้อีกหลายครั้ง จากหลายๆ สถานที่ที่เข้าตรวจค้นในเวลาต่อมา
นายมะแซ ถูกรัฐบาลไทยออกหมายจับในข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดน และอั้งยี่ ซ่องโจร เคยมีรางวัลนำจับกว่า 10 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าเป็นผู้สั่งการให้ปล้นอาวุธปืนจำนวน 413 กระบอกจากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 ซึ่งเป็นดั่ง "วันเสียงปืนแตก" หรือปฐมบทของเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในลักษณะการก่อเหตุรุนแรงรายวัน
ในแผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอน ในข้อ 6 ระบุว่าคือขั้น "จุดดอกไม้ไฟ" มีการตีความว่าหมายถึงการก่อเหตุรุนแรงเหมือนจุดดอกไม้ไฟไปทั่วพื้นที่ ก่อนจะประกาศเอกราช
แผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอน เป็นแผนตั้งแต่เริ่มการเคลื่อนไหวจนเอาชนะฝ่ายรัฐได้ โดยกำหนดเป็นขั้นตอนแต่ละขั้นว่าต้องทำอะไรบ้าง และมีเงื่อนเวลาระบุไว้ด้วย โดยหลังจากขั้นตอนที่ 6 จุดดอกไม้ไฟ ซึ่งตีความว่าหมายถึงการก่อเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ ทั่วพื้นที่แล้ว ในแผนระบุว่าจะใช้เวลาอีก 3 ปีก็จะประกาศเอกราช ปลดปล่อยแผ่นดินปัตตานีจากรัฐไทยได้ โดยหากนับจากวันปล้นปืนเมื่อปี 2547 ตามแผนจะประกาศเอกราชในปี 2550 แต่ฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนทำไม่สำเร็จ และมีการขยายกรอบเวลาออกไป
นายมะแซ อุเซ็ง มักถูกพูดถึงในฐานะแกนนำฝ่ายทหารของขบวนการบีอาร์เอ็น โดยมีผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณคือ นายสะแปอิง บาซอ อดีตครูใหญ่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวมาตลอดว่า นายสะแปอิง มีอาการป่วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บางหน่วย ได้พยายามประสานผ่านญาติของนายมะแซ เพื่อแสดงความปรารถนาดี ให้มีความมั่นใจกลับมาต่อสู้คดีในประเทศไทย และกลับมาใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตที่บ้านเกิด มีรายงานว่านายมะแซ ได้เขียนจดหมายตอบกลับมายังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเพื่อแสดงการขอบคุณ แต่ปฏิเสธที่จะกลับประเทศไทย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ภาพถ่ายนายมะแซ อุเซ็ง เท่าที่เจ้าหน้าที่รัฐมีหลักฐษน
2 แผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอน
3 ภาพถ่ายเอกสารบัตรประชาชนของนายมะแซ
ขอบคุณ : ภาพจากฝ่ายความมั่นคง
อ่านประกอบ : ฟัง กอ.รมน.วิเคราะห์ "จุดอ่อน-จุดแข็ง" กลุ่มป่วนใต้และฝ่ายความมั่นคง