สภาพัฒนาการเมืองชี้ “เลือกตั้งไม่ใช่ทางออกปัญหาชาติ” ต้องเป็น “รากหญ้าเข้มแข็ง”

ประชาธิปไตยต้องตั้งมั่นจากสำนึกพลเมือง เตรียมเปิดประชาพิจารณ์แผนพัฒนาการเมืองปี 2555-2559 เพิ่มยุทธศาสตร์สิทธิสตรี-บทบาทสื่อสาธารณะ-เชื่อมแผนลงชุมชน เน้นปฏิบัติได้จริง

สืบเนื่องจากสภาพัฒนาการเมือง(สพม.) ได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นยกร่างแผนปฏิบัติการประจำปี ภายใต้แผนพัฒนาการเมืองครั้งที่ 1 เมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดแผนที่สามารถขับเคลื่อนสนับสนุนการเมืองภาคพลเมืองที่เข้มแข็งเป็นรูปธรรมฉบับแรก โดยมีข้อสรุปเป็นแนวทางคือต้องเป็นแผนที่เป็นไปได้จริง ต่อเนื่องและเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

วันที่ 19-20 พ.ย. 54 ที่วังรีรีสอร์ท จ.นครนายก สพม.จัดประชุม “ยกร่างแผนปฏิบัติการประจำปี ภายใต้แผนพัฒนาการเมือง ครั้งที่ 2” เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมยกร่างเพิ่มเติมในประเด็นโครงการหรือกิจกรรมนำปฏิบัติที่สอดคล้องกับ 6 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมความเข้มแข็งของภาคประชาสังคม 2.การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมือง 3.คุณธรรมและจริยธรรมของผู้นำและนักการเมือง 4.ธรรมาภิบาลทางการเมืองและการบริหาร 5.ความมั่นคงการจัดการความขัดแย้งและการสร้างสังคมสมานฉันท์ และ 6.การกระจายอำนาจและการสร้างความเป็นธรรมในการบริหารทรัพยากร รวม 27 พันธกิจภายใต้แผนพัฒนาการเมือง

ศ.ดร.สุจิต บุญบงการประธาน สพม. กล่าวว่า ปรากฏการณ์ทางการเมืองวันนี้สะท้อนว่าบ้านเมืองยังไม่สงบและการเลือกตั้งก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เห็นได้จากข้อสังเกตของหลายฝ่าย การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีลักษณะต่อสู้แบบแพ้ไม่ได้ มีความเสี่ยงสูงต่อประชาชน เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นรัฐบาลอีกฝ่ายจะสูญเสียมาก

“การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยต้องพัฒนามาจากฐานล่าง ซึ่งเป็นแก่นของปัญหา ตราบใดที่ข้างล่างมั่นคงจะไม่ว่าการเมืองจากการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรจะเป็นแรงต้านได้ วันนี้ได้ยินข่าวหนาหูว่าซื้อเสียงกันราคาสูง ซึ่งถ้าชาวบ้านมีสำนึกพลเมืองตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาเรื่องนี้”

ศ.ดร.สุจิต กล่าวด้วยว่า แผนพัฒนาการเมืองมีความจำเป็นในการสร้างฐานวัฒนธรรมทางการเมือง แต่ที่ผ่านมา สพม.มีเพียงแผนใหญ่ที่ไม่ได้เน้นการปฏิบัติมากนัก ทั้งนี้การสร้างแผนปฏิบัติการขึ้นจะเป็นการวางกรอบแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ไม่ใช่แผนที่วางไว้แล้วไม่เกิดประโยชน์ ส่วนประเด็นที่ถามว่าทำไม สพม.ไม่หยิบประเด็นร้อนมาพูดในช่วงนี้ เพราะปัญหาความขัดแย้งมีความซับซ้อนลึกซึ้ง ไม่ควรลงไปทำโดยไม่มีข้อมูล

พลโทนิวัติ บูรณะกุล ประธานกรรมการแผนพัฒนาการเมือง สพม. เปิดเผยกับศูนย์ข่าวเพื่อชุมชนว่า นอกเหนือจากแผนปฏิบัติการที่กำลังยกร่างนี้ สพม.ยังเตรียมเปิดประชาพิจารณ์แผนพัฒนาการเมืองที่จะใช้ในปี 2555-2559 โดยจะเพิ่มเติมอีก 3 ยุทธศาสตร์สำคัญได้แก่ สิทธิสตรีต่อการพัฒนาการเมือง, บทบาทของสื่อสาธารณะต่อการพัฒนาการเมือง และการเชื่อมประสานแผนพัฒนาการเมืองเข้ากับแผนระดับอื่นๆ โดยประเด็นหลังนี้เป็นปัญหาการนำแผนสู่การปฏิบัติที่ผ่านมา

พลโทนิวัติ กล่าวด้วยว่า แผนที่ผ่านการปรับปรุงจากเวทีครั้งนี้ จะนำไปเปิดเวทีสาธารณะ ซึ่งแม้ไม่ทันในปีนี้ แต่ก็จะทำให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด โดยหลังจากผ่านกระบวนการทั้งหมดแล้ว ก็จะนำเสนอต่อ สพม. ก่อนส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา.