‘บุญยอด’แนะ‘สุขุมพันธุ์’ควรลาออกหากเรื่องถึงชั้นป.ป.ช.ชี้มูล
‘บุญยอด’แนะ‘สุขุมพันธุ์’ควรลาออก หากเรื่องถึงชั้นป.ป.ช. ชี้มูล ระบุไม่ควรใช้ ม.44 ปลดผู้ว่าฯ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ
วันที่ 5 พฤษภาคม 2559 นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ออกมาชี้แจงกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลตรวจสอบโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งอุโมงค์ไฟแอลอีดี กทม. วงเงิน 39.5 ล้านบาท ว่า เท่าที่ตนฟังนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ได้อธิบายเรื่องที่ส่อไปทางการฮั้วประมูลตามที่ สตง. ตั้งขอสังเกตมา แต่เรื่องนี้ก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอน เมื่อ สตง. มีความเห็นไปแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า จะรับเรื่องไหม ซึ่งที่ผ่านมาทางพรรคได้ติดตามโครงการต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน เช่น เรื่องโครงการจัดซื้อรถดูดเลน เรื่องการต่อสัญญารถไฟฟ้าบีทีเอสเรื่องการติดกล้องซีซีทีวี เป็นต้นซึ่งสมาชิกพรรคบางคนก็ได้ตั้งคำถามเหล่านี้มาตั้งแต่ต้น จนถึงเรื่องจัดแสดงอุโมงค์ไฟ 39.5 ล้านบาท. โดยทางพรรคได้พยายามขอให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ได้เข้ามาอธิบายแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับ จนนำไปสู่การแถลงตัดความสัมพันธ์ระหว่างพรรค กับทีมบริหารท้องถิ่น กทม. ซึ่งทางทีมบริหาร กทม. ต้องอธิบายเรื่องนี้กับประชาชนเอง โดยไม่ควรพาดพิงอะไรกับพรรคอีก
เมื่อถามว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ นายบุญยอดกล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องไปถึงขั้น ป.ป.ช. ก่อน แต่ถ้าดูจากกรณีของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. ที่ลาออกเพราะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีรถดับเพลิง แล้ว เมื่อถึงจุดนั้นแล้วทางผู้บริหารควรพิจารณาตัวเองเช่นเดียวกัน พูดง่ายๆ ก็คือหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรอพิสูจน์ตัวเองก่อน โดยเป็นเรื่องที่ควรจะทำ ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนก็ตาม
เมื่อถามถึงการใช้มาตรา 44 ปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตามข้อเสนอของนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นายบุญยอด กล่าวว่า นั่นเป็นความเห็นส่วนตัวของนายวิลาศ แต่ทางพรรคไม่ได้มีความเห็นอะไร และส่วนตัวเห็นว่า เรื่องนี้ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการ โดยสามารถดำเนินไปตามปกติได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ซึ่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็ต้องมีโอกาสเข้าไปอธิบายว่ามีการดำเนินงานอย่างไร ใช้งบประมาณอย่างไร หรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร และก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ส่วนทางพรรคก็ไม่มีอำนาจหน้าที่อะไรแล้ว เพราะได้แสดงออกถึงกรณีนี้ทางการเมืองอย่างชัดเจนไปแล้วซึ่งมีมาก่อนเรื่องงานแสดงอุโมงค์ไฟด้วย
นอกจากนี้นายบุญยอด ยังได้กล่าวถึงกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ระบุให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีนี้ด้วยว่า ตนขอถามกลับว่านายอนุสรณ์เคยส่องกระจกดูตัวเองบ้างไหมก่อนที่จะถามคนอื่น ขอให้ส่องกระจกดูตัวเองก่อนว่า ผู้บริหารพรรคของตัวเองมีความประพฤติอย่างไร เนื่องจากการถามหาความรับผิดชอบกรณีนี้กับพรรคประชาธิปัตย์ แสดงให้เห็นว่า นายอนุสรณ์ไม่ได้ศึกษาหรือดูอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ขอบคุณข่าวจาก