ภาคพลเมืองเสนอยกเครื่องกระบวนการเลือกตั้งไทย
มูลนิธิองค์กรกลาง ร่วมกับเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล) และ ตัวแทนเครือข่ายพีเน็ต จากทุกภาค และผู้ชำนาญการการเลือกตั้ง 40 คน เดินหน้าเสริมสร้างอำนาจประชาชน โดยเสนอให้มีการปฏิรูปกระบวนการเลือกตั้ง เพื่อเพิ่มดุลอำนาจให้การเมืองภาคพลเมืองที่มีความเข้มแข็ง เป็นธรรม ควบคู่ไปกับการเมืองที่มีเสถียรภาพในระบบตัวแทน โดยเสนอแนวทางที่เป็นรูปธรรม ดังต่อไปนี้
1. ปฏิรูประบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ให้สะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง
1.1 ควรเปลี่ยนระบบเสียงข้างมากธรรมดา หรือระบบคะแนนนำกำชัย ให้เป็นระบบใหม่ที่สะท้อนจำนวนคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างแท้จริงและเป็นธรรม ให้เกิดรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เคารพเสียงส่วนน้อย และลดการซื้อขายเสียง ส่งเสริมการมีตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. จากทุกภาคส่วน
1.2 การเลือกตั้งในระบบสัดส่วน กำหนดเขตเลือกตั้งไม่เกินห้าเขต ให้เป็นระบบบัญชีรายชื่อแบบเปิด โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้กำหนดลำดับที่ และเลือกข้ามพรรคได้
1.3 ส.ส. ระบบเขต ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค
2. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการใช้สิทธิ
ให้จัดทำบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยสมัครใจ และให้มีการลงทะเบียนก่อนวันเลือกตั้งทุกครั้ง รวมทั้งยกเลิกการจำกัดสิทธิของผู้ต้องขัง ภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (แม่ชี ภิกษุณี) รวมทั้งกำหนดให้มีวันเลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่าหนึ่งวัน
3. การปฏิรูป คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
3.1 องค์ประกอบของ กกต. ต้องประกอบด้วยบุคคล ที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ มีประสบการณ์ที่หลากหลาย มีสัดส่วนหญิงชายที่ใกล้เคียงกัน
3.2 ปรับบทบาท กกต. ให้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งเป็นหลัก
3. 3 ส่งเสริมให้องค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างแท้จริง
3.4 กกต. เป็นผู้ผลิตสื่อและดำเนินการประชาสัมพันธ์การหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมืองอย่างเท่าเทียม
4. ปฏิรูป กฏหมายพรรคการเมือง
4.1 เสนอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร (head of government) มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ผู้ชนะต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง (ใช้ระบบเลือกตั้งสองรอบได้)
4.2 ไม่ควรให้มีการยุบพรรค เมื่อกรรมการและสมาชิกพรรคทำผิด
4.3 ควรมีกฏหมายกำหนดให้ทุกพรรคการเมืองมีสัดส่วนผู้สมัครสตรีเป็นจำนวนที่ชัดเจน และมีบทลงโทษหากไม่มีการปฏิบัติตาม รวมทั้งเปิดโอกาสให้ตัวแทนชนกลุ่มน้อย หรือผู้ด้อยโอกาส มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรด้วย
4.4 ควรกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน และทำการลงโทษหากพรรคการเมืองไม่เปิดเผยข้อมูลการรับจ่ายเงิน และข้อมูลของนักการเมืองในพรรคที่ตนสังกัดอยู่ต่อสาธารณะ
5. พระราชบัญญัติ องค์กรเอกชนตรวจสอบการเลือกตั้ง
ภาคประชาชน เสนอให้มี พรบ. องค์กรเอกชนตรวจสอบการเลือกตั้ง เพื่อให้ ประชาชน สามารถตรวจสอบการเลือกตั้งในทุกระดับอย่างอิสระ และตรวจสอบพรรคการเมืองได้ โดยปราศจากอุปสรรคใดๆ รัฐจำเป็นต้องกำหนดให้องค์กรตรวจสอบดังกล่าวมีกองทุนพัฒนาองค์กรเอกชน โดยมีสัดส่วนเท่าเทียมกับกองทุนพัฒนาการเมือง
6. ศาลเลือกตั้ง
เพื่อให้การทำงานของ กกต. มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่ประชุมเสนอให้มีการแก้ปัญหาการร้องเรียน การฉ้อฉลในการเลือกตั้ง โดยมี “ศาลชำนัญพิเศษคดีเลือกตั้ง” ขึ้นมาดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยรับการร้องเรียนจากหน่วยงาน ผู้เสียหาย และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ศาลเลือกตั้งดังกล่าวจะปฏิบัติงานอย่างเต็มเวลา
เพื่อให้ข้อเสนอข้างต้นนี้มีความเป็นไปได้ ตัวแทนภาคพลเมืองจะส่งผู้แทนเข้าพบรัฐบาล กกต. กรรมการปฏิรูปกฏหมาย และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง รวมทั้งรณรงค์ให้กับประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนในการขับเคลื่อนให้การปฏิรูปการเลือกตั้งเป็นจริง
มูลนิธิองค์กรกลางฯ พีเน็ต และ มูลนิธิอันเฟรล
18 ธันวาคม 2554