โชว์ชัดๆ หนังสือลาออก'กุนซือศรีราชา' เซ่นปมขายที่ ‘ศุภชัย’ กับคำตอบที่ยังไม่เคลียร์?
"...กระผมได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ถึงแม่ข้อเท็จจริงจะไม่ตรงตามข่าวที่เสนอ แต่ผมเกรงว่า หากผลอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาจะเกิดความเสียหายต่อท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะในข่าวต่างๆ พยายามเชื่อมโยงกับท่านประธาน กระผมจึงขอพิจารณาตนเองด้วยการลาออกจากที่ปรึกษาท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2559..."
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษาด้านกฎหมายประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน (นายศรีราชา วงศารยางกูร) ได้รับแคชเชียร์เช็ค 60 ล้านบาท จากการขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ในการดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ที่มีคณะกรรมการประสานฯจากตัวแทนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยนายณฐพร เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า เป็นค่านายหน้าจากกลุ่มนายหน้าซื้อที่ดิน โดยตนได้รับเงิน 15 ล้านบาท ส่วน 40 ล้านบาทคืนให้กลุ่มนายหน้า และอีก 5 ล้านบาทให้กับผู้ร่วมงาน
(อ่านประกอบ : 'อดีตนายแบงก์'เอี่ยว! เปิดหนังสือลับ'ณฐพร'แจงหยิบค่านายหน้าขายที่ศุภชัย 60 ล.)
ขณะที่ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2559 ที่ผ่านมา นายณฐพร โตประยูร ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าว อิศรา ว่า ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนายศรีราชาแล้ว โดยมีผลในวันที่ 1 พ.ค. 2559 เนื่องจากไม่อยากให้ชื่อของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายศรีราชามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดียืนยันว่า เข้าไปทำงานภายหลังจากเกิดกรณีการขายที่ดินนานมากแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกัน
(อ่านประกอบ : กุนซือ ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดินไขก๊อก-เซ่นค่านายหน้าขายที่ดิน ‘ศุภชัย’)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2559 นายณฐพร โตประยูร ได้ทำบันทึกข้อความ กราบเรียนนายศรีราชา เพื่อขอลาออกจากที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นทางการ โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2559
โดยในบันทึกข้อความแจ้งขอลาออกดังกล่าว ระบุว่า "ตามที่สำนักข่าวอิศราลงข่าวว่ากระผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายที่ดินของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร รายละเอียดปรากฎตามข่าวแล้วนั้น
"กระผมได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ถึงแม่ข้อเท็จจริงจะไม่ตรงตามข่าวที่เสนอ แต่ผมเกรงว่า หากผลอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาจะเกิดความเสียหายต่อท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะในข่าวต่างๆ พยายามเชื่อมโยงกับท่านประธาน กระผมจึงขอพิจารณาตนเองด้วยการลาออกจากที่ปรึกษาท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2559"
เบื้องต้น นายศรีราชา ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงนามอนุมัติการขอลาออกเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2559 (ดูบันทึกข้อความขอลาออกประกอบ)
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สาธารณชน ได้รับทราบข้อเท็จจริงนอกเหนือจากคำชี้แจงของนายณฐพร เกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างถูกต้องครบถ้วนรอบด้านมากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขอย้อนข้อมูลข่าวที่เกี่ยวข้องกับกรณี นายณฐพร โตประยูร ปรากฎชื่อเป็นผู้รับเช็คค่านายหน้าขายที่ดินวงเงิน 60 ล้านบาท ของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร มานำเสนออีกครั้ง ดังนี้
16 เม.ย. 2559 - ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปี 2556 มีการประชุมการดำเนินการคุ้มครองสิทธิพิเศษของผู้เสียหาย กรณีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยักยอกทรัพย์สินในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีตัวแทนพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และนายศุภชัย กับพวก เข้าร่วมประชุมด้วย
โดยกรณีนี้เกิดขึ้นจากที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ในคดีรายนายศุภชัย กับพวก และแนะนำให้เลขาธิการ ปปง. (ขณะนั้น) ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย โดยได้แจ้งไปยังนายศุภชัย นายลภัส โสมคำ และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด เพื่อมาประชุมแสดงความยินยอมในบันทึกยินยอมให้ขายทรัพย์สิน เพื่อนำเงินที่จากการขายดังกล่าว ให้แก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งผู้เสียหาย อันเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย โดยปฏิบัติตามระเบียบ ปปง. ว่าด้วยการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด พ.ศ.2544 โดยอนุโลม ทั้งนี้นายศุภชัย กับพวก ได้เข้าใจข้อความดังกล่าว และยินยอมตามข้อความดังกล่าวข้างต้นแล้ว
สำหรับทรัพย์สินที่นำมาขายนั้น พบว่า เป็นที่ดินจำนวน 1,838 ไร่ มีนายศุภชัยเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด โดยทำสัญญาขายให้กับบริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด มีนายชนะ อัษฎาธร และนายณัฐพล อัษฎาธร กรรมการผู้มีอำนาจเป็นตัวแทน รวมวงเงินทั้งสิ้น 477,880,000 บาท โดยจะไม่มีการเรียกร้องค่าที่ดินเพิ่มขึ้นหรือลดลงแต่ประการใด
ทั้งนี้ นายศุภชัย ได้ขอให้บริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด จัดเตรียมเช็คไว้ทั้งหมด 6 รายการ มาส่งมอบให้นายศุภชัย เพื่อเป็นการชำระเงินค่าซื้อขายที่ดินดังกล่าว ได้แก่
1.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย กระทรวงการคลังผ่านสำนักงานการคลังจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 19,877,327 บาท
2.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 100 ล้านบาท
3.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย นายธรรมนูญ โชติจุฬางกูร จำนวน 55,650,684 บาท
4.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย น.ส.พัชรา สงวนไชยกฤษณ์ จำนวน 27,344,500 บาท
5.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย นายสุรินทร์ ศีลพิพัฒน์ จำนวน 25,223,000 บาท
6.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย นายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำนวน 249,784,489 บาท
(อ่านประกอบ : โชว์ชัดๆ สัญญา ‘ศุภชัย’ขายที่ดินได้เงิน477ล. ไฉนคืนส.คลองจั่นแค่100 ล.? , เปิดตัวบ.ซื้อที่ศุภชัย 477ล. ที่แท้คนตระกูล 'อัษฎาธร' บิ๊กธุรกิจน้ำตาลไทย, ระดมกู้บริษัทในเครือ!เจาะแหล่งเงินคนตระกูล'อัษฎาธร' รับซื้อที่ ‘ศุภชัย’ 477ล. , ดีเอสไอไม่เคยแจ้งข้อมูล! ปปง.ปัดเอี่ยวปมคืนเงินขายที่249 ล.ให้ศุภชัย , ปปง.-ดีเอสไอ ขายที่'ศุภชัย' 477ล. ตีเช็คให้ตัวเอง249 ล. คืนสหกรณ์แค่100 ล.)
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบหลักฐานแคชเชียร์เช็คดังกล่าว พบว่า มีรายชื่อใหม่เพิ่มเติมด้วย โดยสั่งจ่ายเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2557 ทั้งหมด 4 ฉบับ ออกโดยธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว มีสุนันทา อมรลาภ และสุมนา บุญปาน เจ้าหน้าที่ธนาคารประจำสาขาดังกล่าวเป็นผู้ลงนามรับทราบ
1.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 100 ล้านบาท
2.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย นายธรรมนูญ โชติจุฬางกูร จำนวน 55,650,684 บาท
3.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย น.ส.พัชรา สงวนไชยกฤษณ์ จำนวน 27,344,500 บาท
4.แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย นายสุรินทร์ ศีลพิพัฒน์ จำนวน 25,223,000 บาท
รวมวงเงิน 208,218,184 บาท
ขณะเดียวกันปรากฏแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย นายณฐพร โตประยูร เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2557 จำนวน 3 ฉบับ ฉบับละ 20 ล้านบาท รวมวงเงิน 60 ล้านบาท ออกโดยธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะซีน ทาว์น อิน ทาว์น (1166) มีอิ่มใจ นิยมรษฎร์ เจ้าหน้าที่ธนาคารประจำสาขา และวีรพงศ์ กาญจนัมพร ผู้จัดการสาขา เป็นผู้ลงนามรับทราบ
ขณะที่ ในระเบียบ ปปง. ไม่ได้ระบุถึงค่านายหน้าแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หลังรับทราบข้อมูลดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายณฐพร เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงทันที่ โดยนายณฐพร กล่าวยอมรับสั้น ๆ ว่า ได้รับเช็คดังกล่าวรวมวงเงิน 60 ล้านบาทจริง โดยเงินดังกล่าวมีลักษณะเป็นค่านายหน้า เนื่องจากในช่วงปลายปี 2556 มีกลุ่มนายหน้าที่ดินมาติดต่อให้ดำเนินการให้ โดยจะให้ค่านายหน้า 15 ล้านบาท ส่วน 40 ล้านบาทโอนคืนให้กับกลุ่มนายหน้าขายที่ดินดังกล่าว ส่วนต่างอีก 5 ล้านบาทโอนให้แก่ผู้ร่วมงาน
ก่อนจะมีการนำเสนอข้อมูลและคำชี้แจงนายณฐพร พร้อมกัน ในวันที่ 19 เม.ย.2559
(อ่านประกอบ : กุนซือ ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เช็ค 60 ล.อ้างค่านายหน้าขายที่ดิน‘ศุภชัย’ , กางระเบียบปปง.!จับพิรุธ กุนซือปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับค่านายหน้าขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 60 ล.?)
จากนั้นในวันที่ 20 เม.ย.2559 สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยจาก นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า นายณฐพร โตประยูร เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ต่อตนแล้ว โดยยืนยันว่าเข้าไปช่วยติดต่อซื้อขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร จริง ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทตนเอง อย่างไรก็ตาม วงเงินที่ได้รับจากการซื้อขายที่ดินครั้งนั้น มีจำนวนแค่ 15 ล้านบาท เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นเงินของกลุ่มนายหน้าที่เข้ามาติดต่อให้ช่วยทำงานนี้ ยืนยันได้จากเอกสารหลักฐานทางการเงินจากธนาคารกรงเทพฯ
"ผมไม่รู้หรอกว่า นายณฐพร ไปรู้จักกับกลุ่มนายหน้าที่มาติดต่อให้เดินเรื่องเอกสารขายที่ดินของนายศุภชัยได้อย่างไร แต่เท่าที่รับฟังข้อมูลก็คิดว่าพอรับฟังได้ ว่าเป็นการทำธุรกิจตามปกติ ซึ่งในระหว่างการชี้แจง นายณฐพร ก็หอบเอกสารหลักฐานจำนวนหนึ่งมาแสดงให้ดูด้วย"
เมื่อถามว่า จะต้องให้นายณฐพร ออกจากตำแหน่งไว้ก่อนหรือไม่ นายศรีราชา ตอบว่า "คงไม่จำเป็น เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด และอีกไม่นานผมก็จะพ้นวาระการทำงานในตำแหน่งนี้แล้ว เขาก็ต้องพ้นตำแหน่งไปพร้อมผมอยู่แล้ว"
นายศรีราชา ยังระบุด้วยว่า "รู้จักกับนายณฐพรมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเป็นลูกศิษย์ พอจะรู้หรือได้ยินข้อมูลมาบ้างว่าเป็นคนอย่างไร มีประวัติอะไรบ้าง แต่ที่ผ่านมาเขาจะช่วยทำงานให้ได้เยอะ เป็นนักกฎหมายมือดี ไม่ใช่กิ๊กก๊อก และงานบางเรื่องเราก็จำเป็นต้องใช้คนแบบนี้ทำงานให้"
(อ่านประกอบ : เชื่อทำธุรกิจปกติ!'ศรีราชา'ไม่ปลด'กุนซือ'พันคดีรับเช็คขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 60 ล.)
นั้นเป็นข้อมูลข่าวชิ้นเดียว ของสำนักข่าวอิศรา ที่ปรากฎชื่อ นายศรีราชา เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายณฐพร
จากนั้น สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องรับเงินค่านายหน้าขายที่ดิน ของ นายณฐพร ที่ยื่นต่อนายศรีราชา เป็นทางการและเปิดพื้นที่ให้นายณฐพร ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสำนักข่าวอิศรา ขอให้นายณฐพร ยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนายหน้าที่ได้รับเงินไปจำนวน 40 ล้านบาท อีกครั้ง
นายณฐพร ตอบว่า จำไม่ได้ ช่วงนั้นมีหลายคนมาที่มาติดต่อ แต่มีคนหนึ่งชื่อ 'โชคอนันต์' ลงชื่อเป็นพยานในสัญญาให้ด้วย
" มีคนหนึ่งชื่อโชคอนันต์ มาลงชื่อเป็นพยานในสัญญานายหน้าให้ แต่จำนามสกุลไม่ได้ รู้แค่เป็นอดีตผู้จัดการธนาคาร และหลังจากที่ผมสลักหลังแคชเชียร์เช็คให้ไปแล้ว ก็แยกย้ายกันไป"
นายณฐพร ยังชี้แจงว่า ส่วนเงินอีก 5 ล้าน เป็นค่าจ้างของผู้ร่วมงาน ซึ่งหลังจากที่ผมได้เงินค่านายหน้ามา 15 ล้านบาท ก็นำมาเข้าบัญชี และโอนเงินส่วนนี้ให้ไป ทุกอย่างมีหลักฐานตรวจสอบได้หมด
นายณฐพร ยังกล่าวด้วยว่า การขายที่ดินของนายศุภชัยครั้งนี้ เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ ช่วงนั้นทางปปง.ยังไม่ได้เข้ามา โดยดีเอสไอมีอำนาจในการอายัดทรัพย์ไว้จำนวน 60 วัน แต่ช่วงนั้นปัญหาหนี้สินของสหกรณ์คลองจั่นมีความรุนแรงมาก และอยู่ระหว่างการสอบสวนคดียังไม่แล้วเสร็จ ดีเอสไอ จึงต้องการหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินให้ โดยการให้นายศุภชัยนำที่ดินมาขาย เพื่อนำเงินไปใช้หนี้สหกรณ์ ซึ่งที่ดินที่นำมาขายบางส่วนก็ติดจำนองอยู่ ชื่อของบุคคลที่ปรากฎว่าได้รับแคชเชียร์เช็คไป ก็คงเป็นบรรดาเจ้าหนี้ของนายศุภชัยหรือสหกรณ์
"ผมเข้าไปเกี่ยวข้องในการดูเอกสารตรวจสอบสัญญา เป็นการทำธุรกิจตามปกติ ไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปหาประโยชน์อะไร ทุกอย่างทำแบบโปร่งใส มีหลักฐานยืนยันได้ ไม่ใช่ไปรับเงินมาสดๆ โดยไม่มีอะไรยืนยัน ไม่งั้นก็คงไม่บอกให้เขาระบุชื่อผมลงไปในแคชเชียร์เช็คหรอก"
(อ่านประกอบ : 'อดีตนายแบงก์'เอี่ยว! เปิดหนังสือลับ'ณฐพร'แจงหยิบค่านายหน้าขายที่ศุภชัย 60 ล.)
ขณะที่ จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมของสำนักข่าวอิศรา พบว่า ในงบการเงิน บริษัท อินเตอร์อลายแอนซ์กฏหมายธุรกิจ จำกัด ของนายณฐพร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2557 ไม่ปรากฎข้อมูลเงินค่าจ้างจำนวน 15 ล้านบาท ที่นายณฐพร อ้างว่า บริษัท ได้รับเงินตรวจสอบสัญญาจะซื้อจะขาย และดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารทำสัญญานายหน้าในการขายที่ดินให้นายศุภชัยแต่อย่างใด (ได้รับแคชเชียร์เช็ค วันที่ 8 ม.ค.57)
เบื้องต้น นาย ณฐพร โตประยูร ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราชี้แจง ว่า หลังจากได้รับแคชเชียร์เช็คจำนวน 60 ล้านบาท ตามสัญญานายหน้าค่าที่ดินแล้ว เช็คจำนวน 2 ใบ วงเงิน 40 ล้านบาท ได้เซ็นสลักหลังให้แก่กลุ่มนายหน้าไป ส่วนแคชเชียร์เช็คอีก 1 ใบ วงเงิน 20 ล้านบาท ได้นำเข้าบัญชีของตนเอง ซึ่งเป็นบัญชีเดียวกับบริษัท และมีการโอนเงินส่วนต่างให้กับผู้ร่วมงานไป 5 ล้านบาท
ขณะที่แหล่งข่าวในวงการนายหน้าค่าที่ดินรายหนึ่ง ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นกับสำนักข่าวอิศราว่า การปรากฎข้อมูลว่า นาย ณฐพร ได้รับจ่างค้านายหน้าเป็นเงินสูงถึง 60 ล้านบาท ขณะที่ตนเองได้รับเงินถึง 15 ล้านบาท ถือเป็นวงเงินที่สูงผิดปกติ เพราะตามหลักค่าธรรมเนียมของค่านายหน้าซื้อขายที่ดิน ตามราคาตลาดทั่วไปไม่ควรจะได้รับค่าจ้างสูงขนาดนี้
และน่าสนใจว่านาย ณฐพร หรือบริษัท แจ้งเสียภาษีกับกรมสรรพากรเป็นจำนวนเงินเท่าไรจากการทำธุรกิจครั้งนี้
(อ่านประกอบ :เจาะงบดุล บ.'กุนซือปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน' ไม่พบค่านายหน้าขายที่ ศุภชัย 15 ล.)
ล่าสุด ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 เม.ย.59 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามสอบถามนายณฐพร ถึงข้อสังเกตหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ดังนี้
@ กลุ่มนายหน้าที่เข้าติดต่อคือใคร
นายณฐพร ตอบว่า "เรื่องนี้ไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากนายหน้าติดต่อมาทางบริษัท อินเตอร์อลายแอนซ์กฎหมายธุรกิจ จำกัด ซึ่งมีตนเป็นเจ้าของ ทำแค่การเซ็นรายละเอียด และการร่างสัญญาทางกฎหมายเท่านั้น ไม่ได้ยุ่งเรื่องการใช้จ่ายเงิน ส่วนสาเหตุที่บริษัทเข้าไปทำงานดังกล่าว เพื่ออยากช่วยเหลือสหกรณ์ฯ แต่กลุ่มนายหน้าจะเป็นใคร ตรงนี้ไม่ทราบ" (ก่อนหน้านี้ นายณฐพร ระบุว่า จำได้แค่ว่าหนึ่งในตัวแทน ชื่อโชคอนันต์ แต่จำนามสกุลไม่ได้ ทั้งที่การซื้อขายที่ดินครั้งนี้ มีวงเงินค่าตอบแทนสูง และนายณฐพร ก็เป็นนักกฎหมาย แต่จำข้อมูลส่วนนี้ไม่ได้เลย ทำให้การตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินที่เหลืออยู่เป็นไปด้วยความยากลำบาก อ่านประกอบ : INFO:ขมวดเส้นทางเงินขายที่ดิน 477 ล. ‘ศุภชัย’ใครได้เท่าไหร่-อยู่ไหนบ้าง?)
@ เงิน 15 ล้านบาทที่ได้รับ ได้โอนเงินไปให้บริษัทตัวเองหรือไม่
นายณฐพร ตอบว่า เงินถูกโอนเข้าบัญชีตน แต่จำไม่ได้ว่าโอนให้ใครไปบ้าง ก็มีใช้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว แต่ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับพนักงาน หรือนักศึกษาที่เข้ามาฝึกงานกับบริษัท เพราะตนมีรายได้ทางเดียวคือค่าที่ปรึกษาด้านกฎหมายของประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เดือนหนึ่งประมาณ 25,000 บาท แต่ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนตกประมาณ 4-5 หมื่นบาท จึงนำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายในส่วนนี้ หรือบางครั้งนำมาเป็นค่าใช้จ่ายบางส่วนในบริษัทด้วย
@ การเสียภาษีเงินได้ ต่อกรมสรรพากร
นายณฐพร ตอบว่า เงินที่ได้รับมาจำนวน 15 ล้านบาท มีการจ่ายภาษีอย่างแน่นอน แต่เป็นเรื่องของพนักงานบัญชีของบริษัทที่เป็นคนดำเนินการ หากพบว่า มีการจ่ายภาษีไม่ครบ ก็พร้อมที่จะจัดการให้เรียบร้อย
“คนอย่างผม ผิดก็ยอมรับผิด เข้าใจในจุดนี้ หากตรวจสอบพบว่ายังจ่ายไม่ครบ ก็ยอมรับผิด แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ดำเนินการถึงไหน แต่พร้อมเสมอ” นายณฐพรระบุ
-----------
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลและกระบวนการเจาะข่าวของสำนักข่าวอิศรา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายณฐพร ตามที่นำเสนอให้สาธารณชนรับทราบไปแล้ว
ส่วนจะเหมือนหรือขัดแย้ง กับ เหตุผล การลาออก ของ นายณฐพร ที่แจ้งต่อ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่นั้น
โดยเฉพาะประเด็น ที่นายณฐพร ระบุว่า "หากผมอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาจะเกิดความเสียหายต่อท่านประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะในข่าวต่างๆ พยายามเชื่อมโยงกับท่านประธาน"
คงต้องให้สาธารณชนเป็นผู้ตัดสิน
อ่านประกอบ :
ดีเอสไอขยายผลสอบปมฟอกเงินขายที่ดิน‘ศุภชัย’-คนรับโดนด้วย
บ.อดีตพระธรรมกายโผล่รับเงินค่าที่ดิน‘ศุภชัย’ 40 ล.-อดีตนายแบงก์คนสั่งโอน
ขมวดปมพิรุธค่านายหน้าขายที่‘ศุภชัย’ 60 ล.ก่อน‘กุนซือ’ปธ.ผู้ตรวจฯ ไขก๊อก
พูดอย่างลูกผู้ชาย! ‘กุนซือ’ปธ.ผู้ตรวจฯเคลียร์ปมค่านายหน้าที่ดิน‘ศุภชัย’
กุนซือ ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดินไขก๊อก-เซ่นค่านายหน้าขายที่ดิน ‘ศุภชัย’
เบื้องหลัง‘ศุภชัย’โชว์สัญญาขายที่ดินกลางวงประชุมฯ-อ้างดีลคนซื้อได้
เจาะงบดุล บ.'กุนซือปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน' ไม่พบค่านายหน้าขายที่ ศุภชัย 15 ล.
'อดีตนายแบงก์'เอี่ยว! เปิดหนังสือลับ'ณฐพร'แจงหยิบค่านายหน้าขายที่ศุภชัย 60 ล.
ปูด! 'บิ๊กดีเอสไอ'ได้รับส่วนแบ่งขายที่ดิน'ศุภชัย'-ตั้ง กก.สอบปีกว่าไม่คืบหน้า
เปิดบันทึก กก.คุ้มครองสิทธิฯเทียบคำชี้แจง‘สีหนาท’ไฉนปล่อย‘ศุภชัย’ขายที่เอง
เชื่อทำธุรกิจปกติ!'ศรีราชา'ไม่ปลด'กุนซือ'พันคดีรับเช็คขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 60 ล.
กุนซือ ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เช็ค 60 ล.อ้างค่านายหน้าขายที่ดิน‘ศุภชัย’
กางระเบียบปปง.!จับพิรุธ กุนซือปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับค่านายหน้าขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 60 ล.?
โชว์ชัดๆ สัญญา ‘ศุภชัย’ขายที่ดินได้เงิน477ล. ไฉนคืนส.คลองจั่นแค่100 ล.?
เปิดตัวบ.ซื้อที่ศุภชัย 477ล. ที่แท้คนตระกูล 'อัษฎาธร' บิ๊กธุรกิจน้ำตาลไทย
ระดมกู้บริษัทในเครือ!เจาะแหล่งเงินคนตระกูล'อัษฎาธร' รับซื้อที่ ‘ศุภชัย’ 477ล.
ดีเอสไอไม่เคยแจ้งข้อมูล! ปปง.ปัดเอี่ยวปมคืนเงินขายที่249 ล.ให้ศุภชัย
ปปง.-ดีเอสไอ ขายที่'ศุภชัย' 477ล. ตีเช็คให้ตัวเอง249 ล. คืนสหกรณ์แค่100 ล.