ประมวลข้อสันนิษฐานปมสังหาร"มุคตาร์ กีละ"
เหตุการณ์ความรุนแรงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเท่ากรณีสังหาร นายมุคตาร์ กีละ อีกแล้ว เพราะนายมุคตาร์นั้นไม่เพียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไปของคนในพื้นที่ แต่เขายังเป็น "คนการเมือง" ที่อยู่ในแวดวงการเมืองมายาวนาน เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นราธิวาส ทั้งยังเป็นหัวหน้าพรรคประชาธรรม ซึ่งชูความเป็น "พรรคของคนมลายู" อีกด้วย
หลังเกิดเหตุ ทีมข่าว "ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา" ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้พูดคุยกับบุคคลหลายฝ่าย กระทั่งได้ข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจบางแง่มุมที่เชื่อมโยงเป็นสาเหตุการสังหาร
เปิดรายงานฝ่ายความมั่นคง : ข้อเท็จจริงเรื่องอาวุธปืนและคนร้าย
จากรายงานของศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ซึ่งมีทั้งรายงานหลังเกิดเหตุทันที และรายงานความคืบหน้าในเวลาต่อมา สรุปได้ว่า เหตุการณ์สังหารนายมุคตาร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 15 ธ.ค. โดยคนร้ายมีด้วยกัน 6 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามจ่อยิงนายมุคตาร์ที่ศีรษะจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านลูโบ๊ะกาย๊ะ หมู่ 5 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
สำหรับข้อมูลส่วนตัวของนายมุคตาร์ เขาอายุ 47 ปี เป็นหัวหน้าพรรคประชาธรรม อยู่บ้านเลขที่ 173/2 หมู่ 5 ต.เฉลิม ใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุนั่นเอง โดยก่อนจะตั้งพรรคประชาธรรม นายมุคตาร์เคยทำพรรคการเมืองมาก่อน และเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.มาแล้วหลายครั้ง เช่น เคยเป็นเลขาธิการพรรคสันติภาพไทยที่มี นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค
หลังคนร้ายลั่นไกสังหารนายมุคตาร์ เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมหมู่บ้าน (ชคบ.) บ้านลูโบ๊ะกาย๊ะ ออกมาสกัดกั้นคนร้าย และยิงตอบโต้กัน ทำให้คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย คือ
1.นายดอรอโอ๊ะ ปิเย๊าะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 บ้านกูจิงลือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ มีประวัติเป็นผู้ต้องหาคดีกรุ้มรุมทำร้าย ครูจูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2549 จนครูจูหลิงได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในอีกหลายเดือนต่อมา นอกจากนั้นนายดอรอโอ๊ะยังมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียิงเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในท้องที่ อ.ระแงะ อีกด้วย
2.นายซาฮีรัน วาด๊ะ จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้น ยังไม่พบหมายจับหรือหมาย พ.ร.ก. (หมายเชิญตัวที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดอาวุธปืนของคนร้ายได้จำนวน 2 กระบอก ได้แก่
1.อาวุธปืนเอ็ม 16 แบบสั้น ท้ายสไลด์ หมายเลขทะเบียนปืน 9114548 พร้อมเครื่องกระสุน เป็นอาวุธปืนที่ถูกปล้นมาจากฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 15121 (ร้อย ร.15121) หรือฐานพระองค์ดำ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ตั้งอยู่ริมถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ ท้องที่บ้านมะรือโบตก หมู่ 1 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2554
2.อาวุธปืนอาก้า หรือเอเค 47 หมายเลขทะเบียนปืน 561-26051004 พร้อมเครื่องกระสุน เป็นอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาสันติที่ 38-3 เสียชีวิตจำนวน 2 นาย เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2553 ที่หน้าโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะกาย๊ะ หมู่ 5 ต.เฉลิม อ.ระแงะ
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะได้อีก 1 คัน (พาหนะของคนร้ายที่เสียชีวิต) เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีน้ำเงิน-เทา หมายเลขทะเบียน กจจ 319 สตูล
ข้อมูลทหาร-ผู้นำศาสนา : หนึ่งในสองคนร้ายเป็นหลานมุคตาร์
จากการตรวจสอบข้อมูลกับฝ่ายความมั่นคงหลายหน่วยทั้งในคืนเกิดเหตุและวันถัดๆ มา เจ้าหน้าที่หลายรายยอมรับว่า รู้สึกโล่งใจที่คนร้าย 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เพราะมิฉะนั้นจะถูกขบวนการข่าวลือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างแน่นอน โดยมีข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบางหน่วยระบุว่า หนึ่งในสองคนร้ายสวมเสื้อยืดลายพรางคล้ายทหารด้วย
นอกจากนั้น ข้อมูลของฝ่ายทหารยังสอดคล้องกับชาวบ้านในตำบลข้างเคียงและผู้นำศาสนาใน จ.นราธิวาส ว่า นายดอรอโอ๊ะ ปิเย๊าะ หนึ่งในคนร้ายที่เสียชีวิต มีศักดิ์เป็นหลานชายของนายมุคตาร์เอง
"นายดอรอโอ๊ะเป็นจำเลยในคดีกรุ้มรุมทำร้ายครูจูหลงจนเสียชีวิต และยังเกี่ยวข้องกับคดียิงเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ แต่ศาลยกฟ้อง เพิ่งได้รับการปล่อยตัวไม่นานนี้เอง จากนั้นก็มาก่อเหตุสังหารนายมุคตาร์" เจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่งระบุ ซึ่งข้อมูลนี้สอดรับกับข้อมูลของฝ่ายปกครองระดับสูงในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ทหารยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายดอรอโอ๊ะมีพฤติกรรมเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นหลานชายของนายมุคตาร์ ซึ่งนายมุคตาร์เองก็มีความรู้ทางกฎหมาย และได้ให้ความช่วยเหลือนายดอรอโอ๊ะเรื่องคดีในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย ทำให้คดีสังหารนายมุคตาร์มีความซับซ้อนอย่างมาก
ขณะที่ผู้นำศาสนาใน จ.นราธิวาส กล่าวว่า สาเหตุการสังหารนายมุคตาร์ต้องคลายปมระหว่างช่วงเวลาที่นายมุคตาร์ช่วยหลานชายคนนี้จนหลุดคดี แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มาก่อเหตุยิงนายมุคตาร์ แสดงว่าช่วงเวลาระหว่างนั้นมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น และนั่นคือชนวนสังหาร
คลี่ปมการเมือง-สายสัมพันธ์กับฝ่ายความมั่นคง
ขณะเดียวกัน ข้อมูลหลายแหล่งจากหน่วยงานความมั่นคงและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงแต่ไม่ประสงค์ออกนาม ยืนยันตรงกันว่า ระยะหลังนายมุคตาร์มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ และให้ความร่วมมือกับทางราชการเป็นอย่างดีในหลายๆ เรื่อง ทำให้เชื่อว่าจุดนี้อาจเป็นชนวนสังหารโดยฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบก็ได้ ทว่าก็ยังมีเงื่อนปมที่น่าขบคิดก็คือ เหตุใดหนึ่งในมือสังหารจึงเป็นหลานชายของเขาเอง
กระนั้นก็ตาม ก็ยังมีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะการที่นายมุคตาร์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธรรมซึ่งชูจุดขายความเป็นพรรคการเมืองของ "คนมลายูมุสลิม" ก็เป็นจุดที่หลายคนมองว่าสาเหตุการสังหารอาจจะเป็นเรื่องอื่น โดยเฉพาะปมขัดแย้งทางการเมือง เพราะเสียงสนับสนุนที่นายมุคตาร์และพรรคประชาธรรมได้รับ ทำให้ผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 ในหลายเขตของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ผิดไปจากความคาดหมายพอสมควร
นั่นหมายถึงว่าคะแนนของนายมุคตาร์และผู้สมัครสังกัดพรรคของเขาเป็นตัวตัดคะแนนผู้สมัครบางราย บางพรรค ทำให้ผู้สมัครและพรรคเหล่านั้นพ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่พรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะกลับเป็นพรรครัฐบาลในขณะนั้น และมีเสียงร่ำลือว่าได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจากฝ่ายความมั่นคง
ปิดล้อมตรวจค้นบ้านกูจิงลือปะ-รวบ 1 ผู้ต้องสงสัย
ตลอด 3 วันหลังเกิดเหตุสังหารนายมุคตาร์ ได้มีปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคงเพื่อพยายามคลี่คลายคดีนี้ ทั้งลงพื้นที่หาข่าวและปิดล้อมตรวจค้นอย่างเร่งด่วน กระทั่งสามารถสรุปข้อมูลเพิ่มเติมรายงานต่อหน่วยเหนือ ดังนี้
1.กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ลงมือปฏิบัติการเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่บ้านกูจิงลือปะ หมู่ 5 ต.เฉลิม ซึ่งในคืนเกิดเหตุเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอย่างน้อย 6 คน สามารถหลบหนีไปได้ 4 คน คาดว่าบางคนน่าจะได้รับบาดเจ็บ และซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่บ้านกูจิงลือปะ
2.วันเสาร์ที่ 17 ธ.ค.เวลาเที่ยงคืน กำลังผสม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ตำรวจ สภ.ระแงะ และฝ่ายปกครอง ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกุมกลุ่มบุคคลเป้าหมายในพื้นที่บ้านกูจิงลือปะ โดยวางกำลังควบคุมเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านและบริเวณภูเขาท้ายหมู่บ้าน แล้วให้กำลังเข้าตรวจค้นทุกหลังคาเรือน ตั้งแต่เช้าตรู่วันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.
ผลการตรวจค้น สามารถเชิญตัวบุคคลต้องสงสัยที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จำนวน 1 ราย อายุ 25 ปี เป็นผู้ต้องหาคดียิงเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาสเพิ่งมีคำพิพากษายกฟ้องและปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาพร้อมพวกรวม 14 คน เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมานี้เอง โดยบุคคลต้องสงสัยรายนี้มีสายสัมพันธ์โดยตรงกับคนร้ายสังหารนายมุคตาร์ที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน และได้คุมตัวไปซักถามที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายมุคตาร์ กีละ เมื่อครั้งยังโลดแล่นอยู่ในวงการเมือง (ภาพจากแฟ้มภาพอิศรา)