เงื่อนปมในงบการเงิน 7.6 พันล. บ.ค้าคอมฯ ‘พี.เจน’ ผู้ถูกสอบภาษีฯ รายได้วูบ 600 ล.
พลิกงบการเงิน 'บ.พี.เจน ฯ' ผู้ค้าคอมพิวเตอร์ย่านปทุมวัน ติดบ่วงกรมสรรพากรสอบภาษี คำสั่งลอตเดียวกลุ่ม 'ฐาณุพงศ์' แจ้งรายได้รวมกว่า 7.6 พันล. มากสุดช่วงปี 52-55 ปีละกว่า พัน ล.วูบเหลือ 300 ล.หลังโดนคำสั่งระงับจดทะเบียนชำระบัญชี
นิติบุคคลอีกรายที่มีชื่อติดกลุ่มถูกกรมสรรพากรตรวจสอบภาษีอากร คือ บริษัท พี.เจน (1999) จำกัด ผู้ประกอบการค้าคอมพิวเตอร์ มีสำนักงานเป็นอาคารพาณิชย์ 3 คูหา ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นพบข้อมูล ดังนี้
บริษัท พี.เจน (1999) จำกัด จดทะเบียน 25 กันยายน 2549 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ๊นเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ที่ตั้งเลขที่ 2017 ถนนพระรามที่ 6 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร นางสุนันทนา สุเมธกิจการ อยู่บ้านเลขที่ 11/2 ถ.เจริญเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เป็นกรรมการผู้ขอจดทะเบียน ผู้ถือหุ้น 7 คน ได้แก่
นางสุนันทา สุเมธกิจการ 26,000 หุ้น น.ส.ภริตา พุฒซ้อน 5,500 หุ้น น.ส.อัจนา พุฒซ้อน 5,500 หุ้น นายกิตติ ศักดิ์สวัสดิ์ 5,500 หุ้น นางศิริอร แจ้งพลู 5,500 หุ้น นายกรรณเลิศ พุฒซ้อน 1,000 หุ้น ด.ช.กทัศน์ พุฒซ้อน 1,000 หุ้น รวม 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
28 ม.ค. 2553 จดทะเบียนเพิ่มทุนเป็น 10 ล้านบาท นางจรวย ผ่างเจริญ อยู่บ้านเลขที่ 11/2 ถ.เจริญเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพ ฯ ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท มีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 8 คน นางสุนันทา สุเมธกิจการ ถือ 26,000 หุ้นเท่าเดิม และ นางจรวย ผ่างเจริญ เป็นกรรมการแทน นางสุนันทนา สุเมธกิจการ
30 เม.ย. 2556 มีผู้ถือหุ้น 6 คน นางจรวย ผ่างเจริญ จำนวน 50,000 หุ้น น.ส.กวิตา พุฒซ้อน ,น.ส.อัจนา พุฒซ้อน ,นางศิริอร แจ้งพลู ,นายกรรณเลิศ พุฒซ้อน และ ด.ช.กทัศน์ พุฒซ้อน คนละ 10,000 หุ้น กระทั่งปัจจุบัน นางจรวย ผ่างเจริญ ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการ
จากการตรวจสอบงบการเงินของบริษัท ฯ แจ้งผลประกอบการตั้งแต่รอบปี 2549-2557 หรือ 9 ปี รายได้รวม 7,638,922,660.97 บาท จำแนกเป็น
รอบปี 2549 (31 ธันวาคม) รายได้ 28,309.73 บาท ขาดทุนสุทธิ 28,309.73 บาท
รอบปี 2550 รายได้ 250,437,160.57 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,113,425.78 บาท
รอบปี 2551 รายได้ 700,855,951.53 บาท กำไรสุทธิ 3,342,011.97 บาท
รอบปี 2552 รายได้ 1,009,948,858.49 บาท กำไรสุทธิ 4,312,222.05 บาท
รอบปี 2553 รายได้ 1,481,785,271.50 บาท กำไรสุทธิ 6,682,592.93 บาท
รอบปี 2554 รายได้ 1,502,305,119.46 บาท กำไรสุทธิ 11,648,719.50 บาท
รอบปี 2555 รายได้ 1,465,766,646.84 บาท กำไรสุทธิ 12,746,172.53 บาท
รอบปี 2556 รายได้ 924,402,816.63 บาท ขาดทุนสุทธิ 5,532,022.13 บาท
รอบปี 2557 รายได้ 303,392,526.22 บาท ขาดทุนสุทธิ 17,500,947.48 บาท สินทรัพย์ 258,329,700.64บาท หนี้สิน 233,772,686.78 บาท กำไรสะสม 14,557,013.86 บาท
น่าสังเกตว่า บริษัท ฯ แจ้งมีรายได้จาก 250 ล้านบาทในรอบปี 2550 เพิ่มเป็น 700 ล้านบาทในปี 2551 และเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาทในปี 2552 จากนั้น ลดเหลือ 924 ล้านบาทในปี 2556 กระทั่ง เหลือ 303 ล้านบาทในรอบปี 2557
ทั้งนี้ หากพิจารณา ข้อมูลคำสั่งตรวจสอบของกรมสรรพากร พบว่า สำนักตรวจสอบภาษีกลาง มีหนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้ระงับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ครั้งแรก วันที่ 13 ก.พ. 2556 ครั้งที่สอง 6 ส.ค. 2556 ครั้งที่สาม 12 ก.พ. 2557 และ ครั้งล่าสุด 20 ม.ค. 2558
เท่ากับ ก่อนมีคำสั่งระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี กรมสรรพากรเข้าไปตรวจสอบก่อนแล้ว
กระนั้น เห็นได้ว่า หลังถูกสอบภาษีช่วงปี 2556-2557 ตัวเลขทางบัญชีบริษัท ฯ มีรายได้ลดลง 600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริง เป็นผลมาจาก ‘ปัจจัย’ อย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ เป็นเรื่องที่นิติบุคคลรายดังกล่าวต้องอธิบาย?
อ่านประกอบ:
เปิดตัว บ.พี.เจนฯ อาคาร 3 คูหา ติดกลุ่มถูกแช่แข็ง-สอบภาษี แจ้งมีรายได้ 7.6 พันล.
สอบภาษี'บ.พี.เจนฯ'ค้าคอมฯใหญ่ย่านปทุมวัน ลอตเดียวกลุ่มขอคืนแวต‘ฐาณุพงศ์’
กรณีถูกสอบภาษี 'ณัฏฐ์'เปิดโกดัง บ.แอดไวซ์ ฯ แจงที่มารายได้หมื่น ล.-ไม่ได้ขอคืน
ผู้บริหาร บ.แอดไวซ์ฯ แจงไม่เคยขอคืนภาษีฯ-ปัดใช้อดีต รมว.คลัง เคลียร์กรมสรรพากร
พลิกงบการเงิน บ.แอดไวซ์ ฯ สินทรัพย์ 1.2 พันล. ระบุมี ‘ลูกหนี้กรมสรรพากร’
พลิกบัญชีผู้ถือหุ้น บ.แอดไวซ์ฯ ผู้ค้าคอมฯใหญ่ เปลี่ยน 7 รอบ
เผยโฉม บ.แอดไวซ์ฯผู้ค้าคอมฯหมื่นล. ชื่อติดกลุ่มถูกสอบภาษี โรงงานใหญ่ -กก.ไม่อยู่
เจาะขุมข่าย 8 บ.กลุ่ม‘แอดไวซ์ โฮลดิ้งส์’ผู้ค้าคอมฯใหญ่ ถูก‘สรรพากร’สอบภาษี
‘ทนง’แจงไม่รู้เรื่องปม บ.แอดไวซ์ฯถูกสอบภาษี ยัน‘รับไม่ได้’ ยื่นลาออกทันที
พลิกข้อมูล บ.แอดไวซ์ฯ อดีตขุนคลัง-พวก กก. ถูกสอบลอตเดียวกลุ่มขอคืนภาษี
สอบภาษี-ระงับจดทะเบียน บ.ขายคอมฯใหญ่ อดีต รมว.คลัง นั่ง กก.- ขอคืน 21 ล.