เช็คชื่อจำเลย-ผู้ต้องหาติดแบล็คลิสต์ คสช.-‘บิ๊กตู่’สั่งรอบ 2 ล่าตัวกลับประเทศ
“…ทั้งหมดเป็นเพียงผู้ต้องหา-จำเลย บางส่วนเท่าที่ตรวจสอบพบ ซึ่งหลบหนีไปเคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างประเทศ และใช้วิธีปลุกระดมมวลชนจากสื่อสังคมออนไลน์ ต่อต้านการรัฐประหาร ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องสั่งการเป็นครั้งที่ 2 ให้ประสานตัวกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศ…”
อุณหภูมิการเมืองยังร้อนระอุไม่แพ้สภาพอากาศ!
ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จับกุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าปรับทัศนคติเป็นรอบที่ 4 โดยให้เหตุผลว่า โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ท่ามกลางมวลชนบางฝ่ายมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายวัฒนา เนื่องจากขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน
กระทั่ง คสช. ออกมาระบุทำนองว่า มีคนบางกลุ่ม ‘ชักใย’ การเคลื่อนไหวทางการเมืองดังกล่าว ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาย้ำว่า ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี คือผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของมวลชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงที่ผ่านมา
รวมถึงกระบวนการประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กลุ่มการเมืองแทบทุกฝ่าย รวมถึงแกนนำม็อบ และประชาชนบางกลุ่มนำมาโจมตี พร้อมยืนยัน ‘โหวตโน’ ไม่รับร่างดังกล่าวด้วย
แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เรื่องนี้ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ร้อนใจถึงขนาดมีข้อสั่งการผ่านกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมภายในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 แล้ว !
โดยข้อสั่งการเรื่องนี้ ระบุว่า ตามที่ได้มีข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรี ในคราวประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2557 เกี่ยวกับการนำตัวผู้กระทำผิดกฎหมายที่หลบไปพำนักในต่างประเทศกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นั้น ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้น และสร้างความเข้าใจแก่สังคมว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายด้วย
(อ่านประกอบ : 'บิ๊กตู่' สั่งรอบ2 จี้นำตัวคนทำผิดกม.หลบหนีตปท.กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม)
บุคคลดังกล่าวมีใครบ้าง ? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมบุคคลทั้งนักการเมือง นักวิชาการ หรือนักกิจกรรมที่หลบหนีขอลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศเนื่องจากเหตุทางการเมือง และคดีทุจริตติดหลังอยู่ ดังนี้
หนึ่ง บุคคลที่กระทำความผิดฐานขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ยอมเข้ามารายงานตัวภายหลังการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 หรือบางคนถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และหลบหนีไปภายหลังการรัฐประหารดังกล่าว
บุคคลกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองฟากพรรคเพื่อไทย นักกิจกรรม-นักวิชาการบางส่วน และมีอดีตผู้สื่อข่าวรวมอยู่ด้วย ได้แก่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.มหาดไทย ไม่เข้ามารายงานตัวต่อ คสช. ซึ่งเชื่อกันว่าหลบหนีไปก่อนที่จะเกิดการรัฐประหาร และคาดว่าไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านบุตรสาวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมา ได้ตั้งขบวนการเสรีไทยใหม่ เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร และเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยที่ผ่านมาได้พูดปราศรัยผ่านหลายประเทศในทวีปยุโรปเพื่อโจมตีการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนผู้สื่อข่าวที่ไม่เข้ามารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. และหลบหนีไปต่างประเทศเท่าที่ตรวจสอบพบมีเพียงรายเดียว คือ นายจอม เพ็ชรประดับ อดีตนักข่าวช่อง ITV และอดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ที่ออกมายืนยันจุดยืนในการต่อต้านการรัฐประหาร ปัจจุบันดำเนินรายการสัมภาษณ์นักวิชาการ-นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (Facebook, Youtube)
นอกเหนือจากนั้นส่วนใหญ่เป็นนักกิจกรรม-นักวิชาการ ที่ผิดตามมาตรา 112 และหลบหนีตอนช่วงเกิดรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็นนายนิธิวัต วรรณศิริ หรือ ‘ป๋าจอม’ นักกิจกรรมคนเสื้อแดง ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง (รวมนักโทษคดีตามประมวลกฎหมายมาตรา 112 ด้วย) นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ ‘อั้ม เนโกะ’ อดีตนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ที่ก่อนหน้านี้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และร่วมกิจกรรมทางการเมืองต่าง ๆ
นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่ปัจจุบันถูกคำสั่งไล่ออกจากราชการ และอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาลปกครอง นางสุดา รังกุพันธ์ อดีตอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปัจจุบันร่วมเคลื่อนไหวอยู่กับขบวนการเสรีไทยใหม่ เป็นต้น
สอง บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามมาตรา 116 ร่วมด้วย
บุคคลกลุ่มนี้ส่วนใหญ่หลบหนีออกไปนอกประเทศตั้งแต่ก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีทั้งอดีตนักการเมือง และนักกิจกรรมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นเพียงไม่กี่คนที่ร่วมต่อสู้ในการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 แต่ถูกยึดอำนาจไปในที่สุด ต่อมาเมื่อปี 2550 ได้ปาฐกถาเกี่ยวกับอุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ จนถูกออกหมายจับ เนื่องจากตำรวจมองว่าการปฐกถาดังกล่าวผิดตามมาตรา 112 ปัจจุบันเคลื่อนไหวด้านการเมืองอยู่ต่างประเทศ และร่วมกลุ่มกับนายจารุพงศ์เพื่อต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนนักกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีบทบาทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น นายเอกภพ เหลือรา หรือ ‘ตั้ง อาซีวะ’ ที่ปราศรัยบนเวทีกลุ่มประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ช่วงปี 2556 มีเนื้อหาผิดตามมาตรา 112 นายจรัล ดิษฐาภิชัย อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน นายเสน่ห์ ถิ่นแสน หรือ ‘ดร.เพียงดิน’ นายมนูญ ชัยชนะ หรือ ‘เอนก ซานฟรานซิสโก’ นายริชาร์ด สายสมร นายจุติเทพ วิไชยคำมาตย์ หรือ ‘โจ กอร์ดอน’ อดีตผู้ต้องหาตามมาตรา 112 ที่พ้นโทษออกมาช่วงปี 2556 นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ ‘สุรชัย แซ่ด่าน’ อดีตผู้ต้องหาตามมาตรา 112 เช่นกัน นายพุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือ ‘โกตี๋’ อดีตแกนนำฮาร์ดคอร์คนเสื้อแดงฝั่งปทุมธานี ที่เคยปะทะกับกลุ่มมือปืนป๊อปคอร์นที่แยกหลักสี่เมื่อต้นปี 2557 ยังรวมไปถึงนักคิดนักเขียนอย่าง นายวัฒน์ วรรลยางกูร ก็ติดร่างแหในส่วนนี้ด้วย
สำหรับนักกิจกรรมเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นผู้ดำเนินรายการเผยแพร่อุดมการณ์ทางการเมือง และเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และบางคนมีแชนแนลในเว็บไซต์ Youtube ด้วย
(อ่านประกอบ : รายชื่อ 29 ผู้ต้องหา ‘คดี 112’ ในต่างแดน ‘แบล็คลิสต์’รัฐบาล-คสช. )
สาม บุคคลที่หลบหนีเพราะถูกคำพิพากษาของศาล หรือคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ
แน่นอนบุคคลกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาว ที่หลบหนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (ขณะนั้น) ที่นายทักษิณถูกพิพากษาว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียในกรณีดังกล่าว โดยปัจจุบันนายทักษิณอาศัยอยู่ต่างประเทศ และเป็นผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองระดับสูงสุดของพรรคเพื่อไทย
นอกเหนือจากนั้นมีนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ที่หลบหนีไปก่อนศาลฎีกาฯพิพากษามีส่วนร่วมทุจริตในการก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน นายประวิทย์ มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย ที่หลบหนีไปก่อนศาลฎีกาฯพิพากษามีส่วนร่วมในการทุจริตโครงการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม.
(อ่านประกอบ : พลิกปูม“บิ๊กนักการเมือง”หนีคดีศาลฎีกาฯก่อน“เลขาฯบุญทรง”ตัวเอกข้าวจีทูจี)
ขณะที่คดีทุจริตที่ถูกสังคมจับตาที่สุดในปัจจุบันไม่พ้นคดีที่เกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยในคดีการระบายข้าวแบบจีทูจีโดยมิชอบนั้น มีจำเลยที่ถือเป็น ‘จิ๊กซอว์’ ชิ้นสำคัญหลบหนีไปแล้ว ได้แก่ พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) ซึ่งฝ่ายอัยการสูงสุด (อสส.) ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ ตรวจสอบแล้วคาดว่า อยู่ระหว่างกบดานในประเทศกัมพูชา
(อ่านประกอบ : ออกหมายจับ'วีระวุฒิ'ไม่มาศาลฯคดีข้าวจีทูจี “บุญทรง-พวก”ปฏิเสธข้อกล่าวหา)
ทั้งหมดเป็นเพียงผู้ต้องหา-จำเลย บางส่วนเท่าที่ตรวจสอบพบ ซึ่งหลบหนีไปเคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างประเทศ และใช้วิธีปลุกระดมมวลชนจากสื่อสังคมออนไลน์ ต่อต้านการรัฐประหาร ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องสั่งการเป็นครั้งที่ 2 ให้ประสานตัวกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศ
ท้ายสุดจะทำได้สำเร็จ หรือต้องออกแรงสั่งเป็นครั้งที่ 3 ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด !