กรมอนามัย เผย ผลสุ่มตรวจตลาด 4 ภาค พบปลาหมึกปนเปื้อนฟอร์มาลีนมากสุด
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลตรวจตลาดสด ตลาดนัด 4 ภาค พบปลาหมึกกรอบปนเปื้อนมากที่สุด แนะให้ประชาชนเลือกซื้ออาหารทะเลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดสด น่าซื้อ ของกรมอนามัย สถานที่จำหน่ายอาหารที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ
นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า อาหารทะเลเป็นอาหารสด เน่าเสียได้ง่าย จึงต้องการเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อป้องกันการเน่าเสีย แต่หากมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค เช่น เชื้ออหิวาต์เทียม (Vibrio parahaemolyticus) ซึ่งมักพบมากในฤดูร้อน จะก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจจาระร่วง ผู้ประกอบการหลายรายจึงได้คิดหาวิธีการต่างๆ เพื่อเก็บรักษาอาหารทะเลให้คงความสด และขยายเวลาจำหน่ายออกไปให้นานขึ้น ด้วยการนำมาแช่สารฟอร์มาลีน
โดยในปี 2558 กรมอนามัยได้สุ่มตรวจอาหารทะเลในตลาดสด ตลาดนัด ใน 4 ภาค จำนวน 39 แห่ง 273 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนฟอร์มาลีน จำนวน 35 ตัวอย่าง ร้อยละ 12.82 โดยอาหารทะเลที่พบการปนเปื้อนมากที่สุดคือ ปลาหมึกกรอบ ร้อยละ 34.62 รองลงมาคือ ปลาหมึกสด ร้อยละ 20.51
และหากกินอาหารที่ปนเปื้อนฟอร์มาลินเข้าไปในปริมาณมาก จะเกิดพิษต่อระบบทางเดินอาหาร อาจมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก ปากและคอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายท้อง ปวดท้องอย่างรุนแรง กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ปัสสาวะ ไม่ออก หมดสติ ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจเสียชีวิตเพราะระบบหมุนเวียนเลือดล้มเหลว
นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า ประชาชนควรเลือกซื้ออาหารทะเลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดสด น่าซื้อของกรมอนามัย โดยผู้ประกอบการมีบทบาทหลักที่ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของอาหารทะเลด้วย จำหน่ายอาหารทะเลที่สดใหม่ มีการแช่เย็นหรือแช่น้ำแข็งที่สะอาดปริมาณเพียงพอในภาชนะที่ใส่น้ำแข็งสำหรับแช่อาหารทะเลเท่านั้น และต้องทำความสะอาดภาชนะด้วยน้ำผสมน้ำคลอรีนที่มีความเข้มข้น 100 ppm. เพื่อฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อย 2 นาที ซึ่งน้ำแข็งที่แช่อาหารสดนั้นต้องไม่นำมาบริโภค และเมื่อซื้ออาหารทะเลมาแล้ว หากไม่กินทันทีควรเก็บใส่ตู้เย็นเพื่อชะลอการเน่าเสีย ก่อนนำมาปรุงอาหารต้องล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง อีกทั้งการกินอาหารทะเลให้เลือกกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงการกินอาหารทะเลดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ และควรแยกอาหารทะเลที่ปรุงสุกและยังไม่สุกออกจากกัน ที่สำคัญยึดหลัก กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ เพื่อลดความเสี่ยงโรคอาหารเป็นพิษและอุจจาระร่วง
“ทั้งนี้ จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคจากสำนักระบาดวิทยา ปี 2558 พบว่าผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ 129,638 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 199.06 ต่อแสนประชากร และผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 1,097,751 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 1685.61 ต่อแสนประชากร และมีผู้เสียชีวิต 12 ราย คิดเป็นอัตราตาย 0.02 ต่อแสนประชากร การกินอาหารทะเล หรืออาหารปรุงประกอบต่างๆ ควรใส่ใจด้านความสะอาด ปลอดภัยเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกิดจากอาหารและ น้ำเป็นสื่อ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
ที่มาภาพ:http://www.bigza.com/news-125990