'สถานทูตแคนาดา' แถลงไม่เห็นด้วยคำสั่ง คสช. ห่วงละเมิดสิทธิมนุษฯ
สถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย โพสต์ Facebook แถลงการณณ์ ไม่เห็นด้วยคำสั่ง คสช. ที่ 13/59 ระบุขยายอำนาจทหาร บั่นทอนหลักนิติรัฐ เพิ่มความเป็นไปได้ในการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2559 สถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย เผยแพร่บันทึกแถลงการณ์ เรื่อง คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2559 ระบุเนื้อหาว่า
แคนาดามีความกังวล ที่ประเทศไทยได้มีการนำคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2559 มาใช้เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งได้ขยายอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับเจ้าหน้าที่ทหารของไทย โดย การบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว แสดงถึงการบั่นทอนหลักนิติรัฐ และกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่มความเป็นไปได้ในการละเมิดสิทธิมนุษยชน
แคนาดายังขอกล่าวย้ำถึงความกังวลอย่างสำคัญ เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิพลเมือง และการเมืองพื้นฐานของรัฐบาลทหาร รวมทั้ง ความตั้งใจที่รัฐบาลได้แจงไว้ว่า จะขยายการใช้การปรับทัศนคติ เพื่อเป็นเครื่องมือทำให้ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และนักกิจกรรมหวาดกลัว แคนาดายังติดตามความคืบหน้าของกฎหมายประชามติอย่างใกล้ชิด และเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของไทยรับรองว่า ประชาชนชาวไทยจะสามารถเข้าร่วมการอภิปรายอย่างเสรี และมีส่วนร่วมเกี่ยวกับคุณค่าของร่างรัฐธรรมนูญ
แคนาดาเรียกร้องให้ประเทศไทยเคารพพันธกรณี ด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติของประเทศ รวมทั้ง ที่เกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการชุมนุม และหลักนิติรัฐ ลงวันที่ 11 เมษายน 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้อ้างอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 เพื่อประกาศใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 ซึ่งกำหนดให้แต่งตั้ง "เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม" และผู้ช่วยจากข้าราชการทหาร ซึ่งมียศร้อยตรี รวมถึง ทหารประจำการ ทหารกองประจำการ และอาสาสมัครทหารพราน โดยมอบอำนาจหลายประการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด 27 ประเภท รวมทั้ง ปราบปรามผู้กระทำการให้เกิดความไม่สงบในที่สาธารณะ ความผิดต่อเสรีภาพและชื่อเสียง การตรวจคนเข้าเมือง การค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด และการค้าอาวุธ