เปิดไส้ในละเอียดยิบดาวเทียมหมื่นล้าน “ปลอดประสพ” ประเดิมงวดแรกค่าจ้างที่ปรึกษา 6 ล้าน
เปิดไส้ในเอกสารโครงการสร้างดาวเทียมสำรวจโลกดวงที่ 2 มูลค่าหมื่นล้าน“ปลอดประสพ” ประเดิมเบิกงวดแรก 520 ล้าน ค่าจ้างที่ปรึกษา 6 ล้าน บรรยายสรรพคุณ THEOS ละเอียดยิบ
กรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือในการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดาวเทียมสำรวจโลกดวงที่ 2 ของประเทศไทยโดยจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการภายในเดือนธันวาคม 2554
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ตั้งงบประมาณดำเนินโครงการไว้ที่ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณผูกพัน 4 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเอกสารแนบท้ายที่ระบุรายละเอียดโครงการมานำเสนอดังนี้
หลักการและเหตุผล ตอนหนึ่งระบุว่า
การดำเนินงานของดาวเทียม THEOS ที่ผ่านมา พบว่าก่อให้เกิดประโยชน์มากมายทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติและความมั่นคง โดยดาวเทียม THEOS ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการนำไปประยุกต์ใช้ในสาขาต่างๆ อาทิ ด้านการเกษตร/พืชเศรษฐกิจ การป่าไม้ ทรัพยากรน้ำ และการชลประทาน การผังเมือง การวางแผนพัฒนาจังหวัดและด้านความมั่นคง นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการติดตามและบรรเทาปัญหาด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ รวมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงตามแนวชายฝั่ง ทะเล ซึ่งทำให้สามารถนำข้อมูลมาแก้ไขภาวะวิกฤตได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
ด้านภัยพิบัติ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทภอ.) ได้มีบทบาทในการจัดหาและวิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม THEOS และดาวเทียม RADARSAT ของบริเวณที่ประสบภัยและส่งผลข้อมูลดังกล่าวให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ประกอบการแก้ไขปัญหา การฟื้นฟูพื้นที่และการพิจารณาเบิกจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับความเสียหายตมข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้จากภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณของประเทศได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2554 ที่มีภาวะอุทกภัยครั้งร้ายแรงครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วประเทศไทย สทภอ.ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาและวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมและภูมิสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)
นโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง
คณะรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) นายกรัฐมนตรี กำหนดนโยบายข้อ 6 นโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม ข้อ 6.5 ส่งเสริมการใช้ข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การวางแผนการผลิตด้านการเกษตร การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นอกจากนี้ข้อมูลจากดาวเทียมภูมิสารสนเทศยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลข้ออื่นๆ เช่น 1.4 ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณราการ และเร่งรัดขยายพื้นที่ชลประทานข้อ 2 .4 พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ข้อ 5.1 อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ข้อ 5.7 สร้างภูมิคุ้มกันและเตรียมความพร้อมในการรองรับและปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศและภัยพิบัติ
ความคุ้มค่าในการมีระบบดาวเทียมเป็นของประเทศไทย
การสำรวจข้อมูลด้วยดาวเทียม มีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ ดาวเทียมสามารถถ่ายภาพได้เป็นบริเวณกว้างในเวลาเดียวกัน (Simultaneous) และถ่ายภาพซ้ำบริเวณเดิมทำให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการบริหารจัดการและการตัดสินใจ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพบริเวณทุรกันดารหรือมความลำบากในการเข้าถึง ดังนั้นการมีดาวเทียมเป็นของตนเองจึงทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆลงได้ ดังนี้
แนวทางในการดำเนินงาน
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ตระหนักว่าการพัฒนาดาวเทียมสำรวจโลก เป็นกิจกรรมที่ใช้งบประมาณในการดำเนินการสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทางที่มีความก้าวหน้าและใช้วิชาการหลายด้าน รวมทั้งมีองค์ประกอบหลายส่วน ทั้งภาคอวกาศ (ตัวดาวเทียม ,อุปกรณ์บันทึกภาพ ฯลฯ ) และภาคพื้นดิน (อุปกรณ์ควบคุมดาวเทียม ,รับสัญญาณ ,ผลิตข้อมูล ฯลฯ) ระบบการประมวลผลข้อมูลและแบบจำลอง และระบบการบริการข้อมูลและผลิตภัณฑ์ พร้อมใช้แบบครบวงจร ดังนั้นในการดำเนินโครงการนี้ สทอภ.จึงได้นำประสบการณ์จากการดำเนินโครงการพัฒนาดาวเทียม THEOS มาศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งประเมินข้อดีข้อเสียเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเห็นควรจัดหาระบบดาวเทียมในรูปแบบ Engineering Procurement Construction –Satellite Solutions System (EPC-SSS) กล่าวคือคู่สัญญาจะต้องมีขีดความสามารถครบในทุกด้าน ตั้งแต่การสร้างดาวเทียม และระบบภาคพื้นดิน การส่งดาวเทียม การควบคุมดาวเทียม การพัฒนาระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียมและแบบจำลองเพื่อการพยากรณ์ต่างๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมใช้และการพัฒนาธุรกิจโดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศ โดยคู่สัญญาจะต้องรับผิดชอบต่อระบบดาวเทียมและระบบวิเคราะห์ข้อมูลและพยากรณ์รวมทั้งระบบบริการผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดอายุการใช้งาน เพื่อไม่ให้ วท.ต้องแบกภาระด้านการบำรุงรักษาและการปรับปรุงต่างๆในระยะยาว
รายละเอียดแผนงาน/โครงการ
แผนการดำเนินงานปีงบประมาณ 2555-2558 มีขั้นตอนการดำเนินงานทั้งหมด 17 ขั้นตอน เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบและขอผูกพันงบประมาณข้ามปี อยู่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ,แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการพัฒนาดาวเทียมสำรวจโลกดวงที่ 2 และแต่งตั้งผู้จัดการโครงการอยู่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ,ประกาศเชิญชวนหน่วยงานอยู่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2555 , ลงนามในสัญญาเพื่อการดำเนินการพัฒนาระบบดาวเทียมสำรวจโลกอยู่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2555
งบประมาณ
งบประมาณรวมทั้งโครงการ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณผูกพัน 4 ปี (ปี 2555-2558)
ปีงบประมาณ 2555 จำนวน 520 ล้านบาท กิจกรรมหลักได้แก่ ลงนามในสัญญา ออกแบบระบบดาวเทียม ระบบภาคพื้นดิน ระบบประมวลผลและแบบจำลอง และระบบบริการข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ
ปีงบประมาณ 2556 จำนวน 2,130 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 3,220 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 4,130 ล้านบาท
หมวดรายจ่ายสำหรับปีงบประมาณปี 2555 ทั้งหมด 520 ล้านบาท จำนวนนี้เป็นค่าจัดจ้างที่ปรึกษาโครงการ 6 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายงวดแรดหลังลงนามสัญญา 500 ล้านบาท
กล่าวสำหรับดาวเทียมธีออส รัฐบาลไทยได้ว่าจ้าง บริษัท เอียดส์ แอสเตรียม ประเทศฝรั่งเศส เป็นคู่สัญญา แต่ไม่สามารถยิงดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรได้ตามกำหนดภายในวันที่ 19 มกราคม 2551 กลับส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในวันที่ 1 ตุลาคม 2551 เนื่องจากประสบปัญหาการเจรจากับประเทศคาซัคสถานที่ไม่ยินยอมให้เศษชิ้นส่วนดาวเทียมตกยังประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นว่าบริษัทคู่สัญญาต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายประมาณ 160 ล้านบาท