ดาวพงษ์หวังใช้สะเต็มศึกษา ฝึกเด็กคิดวิเคราะห์เป็น ใช้เหตุผล
7 เม.ย.59 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษาในสถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ว่า การจัดการสอนสะเต็มศึกษาไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ผ่านมามีโรงเรียนได้นำไปใช้ในการเรียนการสอนมาไม่น้อยกว่า 2 ปีแล้ว ขณะเดียวกันก็มีหลายหน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องสะเต็ม ดังนั้น ตนจึงเห็นว่าควรจะมาร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและชัดเจน โดยร่วมกันวางระบบและแนวทางการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง
ทั้งนี้ หลักการสำคัญของสะเต็มศึกษา คือ การทำให้เด็กมีหลักในการรู้จักคิดวิเคราะห์ ใช้เหตุใช้ผล และนำความรู้พื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี คณิตศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ มาบูรณาการประยุกต์สู่การปฏิบัติจริงได้
"การจัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา จะเป็นการฝึกทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กเพื่อการทำงานในอนาคต หรือทักษะในศตวรรษที่ 21 ให้เด็กรู้จักคิดสร้างสรรค์แบบมีวิจารณญาณ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ฝึกนิสัยให้มีความรับผิดชอบอดทน เข้าใจและแก้ปัญหาชีวิตได้ และยังใช้ความคิดสร้างสรรค์สามารถสร้างนวัตกรรมออกมาเป็นชิ้นงาน เพื่อพัฒนาสังคมและประเทศได้ ส่วนครูผู้สอนนั้นจะต้องสร้างกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้สอดคล้องกับสะเต็มศึกษาด้วยการปฎิบัติมากขึ้น และต้องทำให้เด็กรู้ว่า เรียนแล้วเด็กจะนำไปประยุกต์ใช้กับอะไรได้บ้าง เช่น จัดกิจกรรมให้เด็กมีโอกาสตอบโจทย์สถานการณ์ชีวิตจริงแต่ละวัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเรียนสะเต็มศึกษาจะทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนวิธีการประเมินให้สอดคล้องกับการเรียนสะเต็มศึกษาด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จะต้องมีการพัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการสอนสะเต็มศึกษา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเป็นผู้ดำเนินการ
ด้าน นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.จะเริ่มดำเนินการขับเคลื่อนสะเต็มศึกษา ในปีการศึกษา 2559 ใน 2,250 โรงทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายจะอบรมครูใน 3 วิชา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี จำนวน 17,220 คน ในเดือน พ.ค.59 โดยมุ่งเน้นสร้างแรงบันดาลใจและสร้างความรู้เข้าใจถึงการจัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา ว่าจะมีส่วนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเด็กอย่างไรบ้าง เพื่อให้ครูเกิดความรู้สึกที่ดีกับเรื่องสะเต็มศึกษาก่อน ส่วนหลักสูตรที่นำมาใช้อบรมทางสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นผู้รับผิดชอบ
ขอบคุณข่าวจาก