ระทึกรายวัน! ผูกระเบิดใต้รถ อส.มายอ ปล้นปิคอัพยัดบึ้มจี้คนขับจอดกลางยะลา
ห้วงเวลาเพียง 2 วัน คือ วันอังคารที่ 5 และวันพุธที่ 6 เม.ย.59 มีเหตุระทึกขวัญสองเหตุการณ์ซ้อนที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือเหตุคนร้ายผูกระเบิดใต้ท้องรถกระบะคันหนึ่งที่ จ.ปัตตานี กับเหตุคนร้ายซุกระเบิดถังแก๊ส น้ำหนักรวม 160 กิโลกรัม ในรถที่จอดกลางเมืองยะลา โชคดีที่ทั้งสองกรณี เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดไว้ได้อย่างปลอดภัย
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 6 เม.ย. คนร้ายนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 11 กิโลกรัม ผูกไว้ใต้ท้องรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กค 9685 ยะลา โดยพนักงานร้านคาร์แคร์ บ้านโคกขี้เหล็ก หมู่ 6 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นผู้พบเห็น ขณะเจ้าของรถนำรถไปล้างที่คาร์แคร์ดังกล่าว
นายติลา มาโระ เจ้าของรถวัย 55 ปี ซึ่งเป็นอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลุโบะยิไร อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เผยว่า ได้นำรถไปล้างที่ร้านคารแคร์แห่งนี้ และพนักงานร้านคาแคร์โทรศัพท์เข้ามาบอกว่า พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดแขวนอยู่ใต้ท้องรถ พันด้วยเทปสีดำ ตนจึงรีบตามไปที่ร้าน หลังจากนั้นได้รีบแจ้งให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าทำการเก็บกู้
นายติลา บอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีลูกน้องของตนถูกลอบวางระเบิด และถูกลอบยิง 2 ราย จึงประกาศว่าไม่ชอบและไม่สนับสนุนกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน และต่อต้านกันมาตลอด คาดว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกผูกระเบิดใต้ท้องรถเพื่อหวังเอาชีวิต
ขณะเดียวกันมีรายงานจากปลัดอำเภอมายอว่า ปัจจุบันนายติลาเป็นอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.มายอ และใช้งานรถกระบะคันนี้ขับเข้าออกที่ว่าการอำเภอมายอเป็นประจำ โดยในวันพฤหัสบดีที่ 7 เม.ย. มีกิจกรรมตรวจเลือกทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ที่ อ.มายอ คาดว่า อส.ติลา อาจเตรียมนำรถไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยการตรวจเลือกทหาร คนร้ายจึงอาจฉวยจังหวะผูกระเบิดไว้ใต้ท้องรถ เพื่อเตรียมจุดชนวนระเบิดสร้างความวุ่นวายในการตรวจเลือกทหารซึ่งมีฝูงชนจำนวนมาก
เหตุกาณ์คนร้ายลอบผูกระเบิดใต้ท้องรถเพื่อหวังจุดระเบิดสังหารเจ้าของรถนั้น เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส คนร้ายผูกระเบิดใต้ท้องรถกระบะของ อส.ตากใบ ทำให้ อส.อิสมาแอ จิหามาตร์ เสียชีวิต เมื่อเย็นวันอังคารที่ 20 ต.ค.58
ปล้นรถ-จับตัวประกันใส่เสื้อระเบิด-ซุกบึ้มถังแก๊สกลางยะลา
เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 5 เม.ย. ซึ่งรายละเอียดของเหตุการณ์มีการรายงานค่อนข้างสับสน กระทั่งฝ่ายตำรวจได้สรุปข้อมูลอย่างเป็นทางการดังนี้
เมื่อเวลา 10.45 น. วันอังคารที่ 5 เม.ย. ศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา รับแจ้งจากประชาชนว่า มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ สีเทา แบบตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บต 1845 ยะลา ซึ่งเป็นรถต้องสงสัย จอดอยู่บริเวณด้านข้างปั๊มน้ำมันเชลล์ หน้าบริษัทโตโยต้า พิธานพาณิชย์ ยะลา ภายในรถมีวัถตุต้องสงสัยเป็นถังแก๊สตั้งอยู่ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ทางศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา จึงได้แจ้ง พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบก. และ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา นำกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา
ทั้งนี้ รถคันดังกล่าวจอดในพื้นที่ห้ามจอด ด้านหน้าทางเข้าบริษัทโตโยต้า พิธานพาณิชย์ยะลา เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงนำถังแก๊สขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัมจำนวน 2 ถังออกมาจากในรถได้อย่างปลอดภัย ตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักดินระเบิดถังละ 80 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 160 กิโลกรัม ต่อพ่วงด้วยชุดจุดระเบิดที่มีวงจรแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ 12 โวลต์ จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารและแบบตั้งเวลา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะคันนี้เป็นรถที่ถูกปล้นชิงมาจากเจ้าทรัพย์ เมื่อเวลา 05.10 น.วันเดียวกัน จากพื้นที่บ้านนิคมกือลอง หมู่ 2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยรถเป็นของ นายสุนัน ทองเนตร อายุ 53 ปี ซึ่งขณะเกิดเหตุ นายสุนัน และนางเรณู จิตบาล อายุ 61 ปี ภรรยา ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย ได้ขับรถไปซื้อกับข้าวในตัวเมืองยะลา เพื่อนำกลับไปขายที่บ้านในตลาดนิคมกือลอง
ขากลับเมื่อขับรถถึงที่เกิดเหตุ บนถนนชนบท ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าหมู่บ้านในนิคมกือลอง ได้มีกลุ่มคนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวนประมาณ 7-8 คน ยืนอยู่กลางถนน ทำทีเป็นตั้งด่าน ก่อนสั่งให้จอดรถ และบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จากนั้นคนร้ายได้ชิงรถโดยจับตัว นายสุนัน ใช้กระสอบสีดำคลุมศีรษะ และให้นอนมาในแค็บ ส่วนนางเรณู คนร้ายอีกกลุ่มได้จับตัวไปด้วย
จากนั้นคนร้ายได้นำรถไปประกอบระเบิด แล้วบังคับให้ นายสุนัน เป็นคนขับรถเข้าไปในเขตเทศบาลนครยะลา และยังบังคับให้ใส่เสื้อที่ผูกระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กไว้ด้วย โดยให้นำรถไปจอดที่หน้าบริษัทโตโยต้า พิธานพาณิชย์ยะลา ที่มีคนร้ายอีกรายขี่รถจักรยานยนต์นำเข้าไปยังจุดจอดรถ ปรากฏว่าหลังจากจอดรถ นายสุนันได้วิ่งลงจากรถพร้อมตะโกนแจ้งชาวบ้านในย่านดังกล่าวว่าในรถมีระเบิด กระทั่งมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จนสามารถเก็บกู้ไว้ได้สำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่นำระเบิดไปทำลายทิ้งบริเวณที่โล่งริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 นอกเมืองยะลา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง อ.บันนังสตา ได้พบตัวนางเรณู ภรรยาของนายสุนัน ซึ่งไม่ได้ถูกคนร้ายทำร้าย แต่ถูกปล่อยทิ้งไว้กลางทางในท้องที่ อ.กรงปินัง จ.ยลา จึงนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.บันนังสตา ส่วนนายสุนัน ก็ถูกตำรวจ สภ.เมืองยะลา สอบสวนเช่นกัน
เปิดข้อมูลเสื้อกั๊กติดระเบิด – บึ้มถังแก๊ส 160 กิโลฯ
สำหรับเสื้อที่ผูกระเบิดไว้ ลักษณะเป็นเสื้อกั๊กสีเหลืองตัวใหญ่ สามารถสวมได้จากทางศีรษะ นายสุนันได้ใช้กรรไกรในรถที่พกไว้ตัดหนวด ตัดเสื้อออก และแอบโยนทิ้งออกนอกรถขณะขับรถเข้าไปในเขตเทศบาลนครยะลา โดยจุดทิ้งเสื้ออยู่ในป่าไผ่ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ข้างบ้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีต ส.ส.ยะลา
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่ามีระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กประกอบในกระป๋องเหล็ก 2 กระป๋อง จุดระเบิดแบบหัวล้านชนกัน โดยคนร้ายใส่ระเบิดไว้ในกระเป๋าเสื้อกั๊ก เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดลากเสื้อออกมาจากจุดที่พบ ก็เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
ส่วนระเบิดถังแก๊ส 2 ถังที่พบในรถกระบะ และเก็บกู้ได้สำเร็จนั้น เจ้าหน้าที่อีโอดี ให้ข้อมูลว่า คนร้ายได้นำระเบิดพ่วงต่อกัน 2 ถัง น้ำหนักถังละ 80 กิโลกรัม จุดชนวน 2 ระบบ คือวิทยุสื่อสารและระบบตั้งเวลา ไอซีไทม์เมอร์ โดยติดตั้งเป็นสองชั้น ถ้าเกิดวิทยุไม่ทำงาน ระบบจำเวลาก็ทำหน้าที่ต่อ ส่วนระบบจับเวลา จะซ้อนอยู่ข้างใต้แผนวงจนอีกชั้น โดยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิดเก็บกู้ไว้ได้ทันถ่วงที
รองผบ.ตร.ลงพื้นที่ – ชาวบ้านขอบคุณอีโอดี
วันพุธที่ 6 เม.ย. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเรียกประชุมด่วนหลังคนร้ายก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ โดยเฉพาะเหตุการณ์ปล้นรถของประชาชนนำมาประกอบระเบิด และนำไปจอดกลางเมืองยะลา โดยสั่งการให้ปฏิบัติการเชิงรุก, ตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเข้มข้น และเฝ้าระวังพื้นที่เขตเมืองอย่างเต็มที่
วันเดียวกัน ประชาชนและกลุ่มเยาวชนลูกเหรียง จำนวนกว่า 30 คน เดินทาง ไปให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่อีโอดี ที่เก็บกู้ระเบิดและสามารถระงับเหตุที่อาจเกิดขึ้นบริเวณหน้าบริษัทพิธาน อำเภอเมืองยะลา เมื่อวันที่ 5 เม.ย. จนทำให้ไม่มีเหตุรุนแรงที่ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิต
ยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน – ชรบ.ดับคู่ที่ระแงะ
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ในห้วงเวลาเดียวกันยังมีอีกหลายเหตุการณ์ เริ่มจาก วันพุธที่ 6 เม.ย. เวลา 09.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง 1.นายรอซีดีน อุแซดอเลาะ อายุ 36 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านสโล ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ นายดีร์มัน จิยือแร อายุ 29 ปี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านสโล เสียชีวิตทั้งคู่ โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ของผู้ตายไปด้วย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
วันอังคารที่ 5 เม.ย. เวลา 18.42 น. คนร้าย 3 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนยิง นายยุลกิฟลี ยูโซะ อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 1 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จงปัตตานี โดย นายยุลกิฟลี เป็นลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาทของรัฐ
บึ้มถี่ยิบกำลังพลชุด รปภ.ตรวจเลือกทหาร
ช่วงเช้าวันอังคารที่ 5 เม.ย. คนร้ายลอบวางระเบิดทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4503 กรมทหารพรานที่ 45 ขณะเดินทางไปรักษาความเรียบร้อยการตรวจเลือกทหาร ณ ที่ว่าการอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส โดยใช้เส้นทางถนนในหมู่บ้านฮูลูปาเระ ทั้งนี้ คนร้ายวางวัตถุระเบิดแสวงเครื่องไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมทาง ในท้องที่หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ แต่แรงระเบิดไม่ได้ทำให้ผู้ใดได้รับอันตราย
วันจันทร์ที่ 4 เม.ย. เวลา 07.10 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการของทหาร สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 ขณะนั่งรถกระบะไปปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยการตรวจเลือกทหาร ณ ที่ว่าการอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ระหว่างบ้านเกาะสะท้อน กับบ้านชุมบก หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ แรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ พลทหารนาสรี หลงโซ๊ะ อายุ 23ปี พลทหารศักดิ์สิทธิ์ ชัยพิมล อายุ 22 ปี พลทหารสาธิต บินอาหวา อายุ 21 ปี นอกจากนั้นยังมีเยาวชนหญิงถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บด้วย
ทั้งนี้ ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊สหุงต้ม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายนำไปซุกในกระสอบปุ๋ย ใส่ไว้ในรถเข็น แล้วเข็นไปจอดดักข้างทาง ก่อนจุดชนวนเมื่อรถของทหารแล่นผ่าน
วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. เวลา 08.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้ายิง นายอับดุลกอเด สาหะ อายุ 51 ปี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะ นายอับดุลกอเด กำลังขับรถกระบะพร้อมภรรยาอยู่บนถนนในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ส่วนภรรยาปลอดภัย
ทลายฐานผู้ก่อความไม่สงบที่ระแงะ
ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. กำลังทหารพรานได้บุกทลายแหล่งหลบซ่อนพักพิง และที่ตั้งฐานของสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่บ้านบือแจง หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบพบสิ่งปลูกสร้าง ทั้งที่พัก โรงครัว สถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา และสถานที่ออกกำลังกาย โดยยึดอุปกรณ์การดำรงชีพในป่าและเวชภัณฑ์ได้เป็นจำนวนมาก จึงยึดไว้ส่งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์เก็บหลักฐานต่อไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ใต้ท้องรถกระบะของ อส.มายอ ที่ถูกคนร้ายผูกระเบิดแสวงเครื่องเอาไว้
2 ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิงขนาดเล็กที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้จากใต้ท้องรถ
3 ระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังแก๊ส ซุกรถกระบะที่คนร้ายปล้นจากบันนังสตา แล้วบังคับให้เจ้าของรถนำไปจอดกลางเมืองยะลา ก่อนเจ้าหน้าที่เก็บกู้ไว้ได้สำเร็จ