'สภาเกษตรกรแห่งชาติ' รอครบองค์ประชุม มี.ค.55 จึงเดินเครื่องต่อได้
หลังจากที่ ก.เกษตรฯจัดเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรในระดับต่างๆแล้ว แต่ยังขาดผู้แทนองค์กรเกษตรกร 16 คน-ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คนจึงจะครบองค์ประกอบ 100 คนเปิดประชุมสภาเกษตรกรแห่งชาติได้
นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการจัดตั้งสภาเกษตรกรแห่งชาติว่า สำหรับภารกิจที่กระทรวงเกษตรฯยังจะต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือ จัดทำปฏิทินดำเนินการ รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการเลือกสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประเภทผู้แทนองค์กรเกษตรกร ตามมาตรา 5 (2) และประเภทผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 5 (3) จัดให้มีการประชุมเลือกสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติประเภทผู้แทนองค์กรเกษตรกร และประเภทผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้ได้สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติที่มีสมาชิกครบสมบูรณ์ เพื่อจะได้ขับเคลื่อนงานตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ. 2553
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดูเรื่องกฎหมายว่าสามารถยกเว้นข้อกำหนดที่ระบุให้ตัว แทนองค์กรเกษตรกรต้องเป็นสมาชิกองค์กรเป็นระยะเวลา 1 ปี จึงจะมีสิทธิลงสมัครคัดเลือกเข้าเป็นผู้แทนประเภทองค์กรเกษตรกรได้ เนื่องจากถ้าจะรอให้ครบ 1 ปีจะต้องรอให้ถึงเดือนมีนาคม 2555 จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบกลับมาว่าสามารถดำเนินการยกเว้นได้ คาดว่าภายในไม่เกินเดือนมีนาคม 2555 จะสามารถดำเนินการเลือกตั้งองค์กรเกษตรกรและผู้ทรงคุณวุฒิได้แล้วเสร็จ
โดยขณะนี้มีตัวแทนองค์กรเกษตรกรจาก 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ ด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ สมัครเข้าร่วมเป็นตัวแทนกว่า 1,400 องค์กร ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งให้เหลือเพียง 16 องค์กรเท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสมาชิกสภาเกษตรกรว่าจะเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเช่นไรเข้าไปร่วมเป็นองค์ประกอบของสภาเกษตรกรแห่งชาติ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ
เมื่อองค์ประกอบของสภาเกษตรกรแห่งชาติครบ 100 คน ก็จะถือว่าเป็นสภาเกษตรกรแห่งชาติที่สมบูรณ์ กระทรวงเกษตรฯ ก็จะดูแลในเรื่องของการจัดให้มีการประชุมสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อให้มีการเลือกตั้งประธานสภาและรองประธานสภา เพื่อเริ่มดำเนินการตามภารกิจของสภาเกษตรกรแห่งชาติได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในระหว่างนี้กระทรวงเกษตรฯ ยังคงต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลในเรื่องการบริหารจัดการตามบทเฉพาะ กาลเป็นเวลา 2 ปี จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2555 จากนั้นก็จะมีการถ่ายโอนภารกิจให้กับสภาเกษตรกรแห่งชาติทั้งหมด เพื่อให้สภาเกษตรกรทำหน้าที่เป็นตัวแทนเกษตรกร เป็นที่พึ่งพาของเกษตรกรไทยทั้งประเทศ นำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขที่เกษตรกรต้องการเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 ต่อไป
นายฉลอง กล่าวว่าแม้ว่าภารกิจในการดูแลสภาเกษตรกรแห่งชาติของกระทรวงจะจบลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่ก็เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานของกระทรวง และสภาเกษตรกรแห่งชาติ ยังคงต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำพาให้เกษตรกรไทยก้าวหน้าสู่ความเข้มแข็ง มั่นคง เป็นเสาหลักให้กับเศรษฐกิจชาติต่อไปในอนาคต .