แห่เซลฟี่ปอเนาะญิฮาด ชาวบ้านสมทบทุน 1.4 ล้านซื้อที่ดินใหม่
วันเสาร์ที่ 19 มี.ค.59 มีการจัดงานกินข้าวยำเพื่อระดมทุนบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวแวมะนอ หลังจากคดียึดที่ดินปอเนาะญิฮาดสิ้นสุดลงเพราะไม่มีการยื่นอุทธรณ์
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.58 ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดง ฟ.26/2556 ให้ที่ดินอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือปอเนาะญิฮาด เลขที่ 699 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนการก่อการร้าย เพราะใช้เป็นสถานที่ฝึกของนักรบในขบวนการแบ่งแยกดินแดน โดยที่ นายดูนเลาะ แวมะนอ อดีตครูใหญ่ของโรงเรียน ถูกทางการฟ้องร้องกล่าวหาในคดีก่อการร้ายและกบฏแบ่งแยกดินแดน
ผลของคำพิพากษาได้สร้างความไม่เข้าใจให้กับฝ่ายครอบครัวแวมะนอ นำโดย นางยาวาฮี ภรรยาของนายดูนเลาะ และ นายบัลยาน ลูกชาย รวมทั้งศิษย์เก่าของโรงเรียน และประชาชนในพื้นที่ เพราะเห็นว่าที่ดินอันเป็นที่ตั้งของปอเนาะญิฮาดซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 นั้น เป็นมรดกที่ตกทอดถึงยาวาฮีและพี่น้องรวม 5 คน ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของนายดูนเลาะซึ่งเป็นเขยเข้ามาแต่งงานกับนางยาวาฮี และนางยาวาฮีกับพี่น้องคนอื่นๆ ที่มีชื่ออยู่ในเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก็ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีก่อการร้ายด้วย
กระทั่ง 14 ก.พ.59 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดขยายเวลายื่นอุทธรณ์คดี ทางครอบครัวแวมะนอตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์ และเก็บข้าวของออกจากปอเนาะไปอาศัยอยู่ที่มัสยิดบ้านท่าด่านซึ่งอยู่ห่างจากปอเนาะราวๆ 1 กิโลเมตรเป็นการชั่วคราว ทั้งๆ ที่ตลอดมาหน่วยงานรัฐในพื้นที่พยายามประสานขอให้ครอบครัวสู้คดีให้ถึงที่สุดก่อน จากนั้นหากแพ้ โดนยึดที่ดินจริงๆ ก็จะพัฒนาปอเนาะญิฮาดให้เป็นสถานศึกษาของชุมชน และให้ครอบครัวได้อาศัยอยู่ต่อไป
ทว่าครอบครัวแวมะนอไม่ยินยอม...
ตลอดช่วงเวลาเดือนเศษที่ทางครอบครัวย้ายไปอาศัยที่มัสยิดบ้านท่าด่าน มีประชาชนในพื้นที่เดินทางไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก กระทั่งมีการจัดกิจกรรมกินข้าวยำ หรือ "มาแกนาซิกราบู" สมทบทุนให้ได้ 4 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน สร้างปอเนาะญิฮาดใหม่ พร้อมสร้างที่อยู่ให้กับครอบครัวแวมะนอ และซ่อมแซมมัสยิดบ้านท่าด่าน
งานเลี้ยงจัดขึ้นที่สนามกีฬาประจำหมู่บ้านท่าด่าน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มีประชาชน ตัวแทนองค์กรภาคประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอ และหน่วยงานรัฐ เข้าร่วมหลายพันคน รถราติดเป็นแถวยาว
ด้วยความที่งานนี้มีประชาชนในพื้นที่ไปร่วมเยอะ ทำให้ พ.อ.ทักษิณ เจียมทอง ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กองทัพบก นำหน่วยแพทย์พร้อมเตียงสนามไปให้บริการตรวจโรคทั่วไปให้ประชาชนด้วย โดยเฉพาะโรคที่มากับความร้อน เพราะอากาศร้อนจัดมากในช่วงนี้
ใกล้จบงาน มีการสรุปยอดบริจาครวมทั้งสิ้นกว่า 1.4 ล้านบาท ขณะที่ นายบัลยาน แวมะนอ ลูกชายของนายดูนเลาะ กล่าวว่า ดีใจและขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาร่วม รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจเป็นอย่างมาก ครอบครัวจะไม่ลืมเหตุการณ์ในวันนี้เลย ถึงแม้จะมีความพยายามของบางหน่วยงานที่จะสร้างเงื่อนไขกีดกันพี่น้องประชาชนที่จะมาช่วยงานตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ หวังว่าวันนี้ทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือและคอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาร่วมงานสมทบทุน
ด้านบรรยากาศที่ปอเนาะญิฮาด ซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่จัดงานออกไปราว 1 กิโลเมตร ปรากฏว่าชาวบ้านได้แห่กันไปถ่ายรูปตัวเองกับปอเนาะ (เซลฟี่) โดยแต่ละคนบอกว่าอยากไปดูปอเนาะที่ถูกยึด ดูแล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก รวมทั้งนำกลับไปให้เพื่อนบ้านที่ไม่ได้มาได้ดูบ้าง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงหลายคนได้แวะไปเก็บภาพปอเนาะญิฮาดเป็นที่ระลึกเช่นกัน ทั้งยังคุยกันเองในหมู่เจ้าหน้าที่ว่า ขอเก็บภาพไว้ก่อนจะมีการรื้อเพื่อสร้างเป็นสาธารณะประโยชน์
ผู้นำศาสนาชงตั้ง "กก.พิเศษ" ใช้ประโยชน์ที่ดิน
ก่อนหน้านี้มีการพยายามหาทางออกให้กับครอบครัวแวมะนอ และปอเนาะญิฮาด โดยเมื่อ 26 ก.พ.59 คณะผู้นำองค์กรทางศาสนาจังหวัดชายแดนใต้ ได้ร่วมกันแถลงเรื่อง "กรณีศาลแพ่งสั่งยึดที่ดินและทรัพย์สินโรงเรียนญิฮาดวิทยา" ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี (หลังใหม่) ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ผู้ร่วมแถลง 10 คน ประกอบด้วย
1.นายสะมะแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา
2.นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี
3 นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส
4.นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา
5.ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักงานจุฬาราชมนตรีประจำภาคจังหวัดชายแดนภาคใต้
6.นายอับดุลการีม นาคนาวา ประธานสภาอูลามาฟาฏอนีย์ด่ารุสสลาม
7.นายอับดุลเลาะ เจ๊ะแว ประธานชมรมมุสลิมภราดรภาพ
8.นายอับดุลอาซิส ยานยา นายกสมาคมสถาบันศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
9. นายอาแว เต๊าะซาตู บาบอปอเนาะน้ำดำ
10. นายอับดุลฮาฟิซ หิเล นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
ภายในงานมี พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วมงานด้วย
นายแวดือราแม กล่าวว่า หลังมีกรณีปอเนาะญิฮาด ได้มีกลุ่มเครือข่ายองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้ความช่วยเหลือ พร้อมจัดเวทีแสดงความคิดเห็นในประเด็นการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม และถูกนำไปขยายผลเพื่อกระตุ้นความรู้สึกร่วมว่ารัฐได้ใช้อิทธิพลเข้าคุกคามโรงเรียนปอเนาะ
"การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นลักษณะของการชี้นำและบิดเบือนไปจากแก่นแท้ของความจริง ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอย่างกว้างขวาง"
เขากล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้ คณะผู้นำองค์กรทางศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอสร้างความเข้าใจเพื่อนำไปสู่การหาทางออกจากปัญหาร่วมกัน กล่าวคือ การยึดที่ดินถึงแม้เป็นเรื่องอ่อนไหวและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนแค่ไหน เจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เพราะเป็นการตัดสินของศาล หลังจากจำเลยไม่ขอยื่นอุธรณ์ ทำให้ที่ดินตกเป็นที่สาธารณประโยชน์
แต่เนื่องจากเจตนารมณ์เดิมของเจ้าของที่ดินต้องการให้เป็นที่ก่อตั้งสถานศึกษาแก่ลูกหลาน ทางราชการจึงจะพยายามรักษาเจตนารมณ์เดิมเอาไว้ โดยจะให้ที่ดินเป็นที่ตั้งสถานศึกษาตามเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง เห็นว่าที่ดินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางศาสนาและการศึกษา ทางราชการไม่อนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อทำอย่างอื่น นอกจากเพื่อการศึกษาตามศาสนาอิสลามเท่านั้น หลังจากนี้จะมีการตั้ง "คณะกรรมการพิเศษ" เพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อนงานต่อไป
คณะกรรมการพิเศษจะต้องมาจากองค์กรนำทางศาสนาในพื้นที่ และจะมีการเข้าไปทำความเข้าใจกับครอบครัว ถ้าเป็นไปได้เราอยากให้คนที่จะมาดูแลเป็นครอบครัวแวมะนอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของทางครอบครัวด้วย ในส่วนของฝ่ายความมั่นคงก็เห็นด้วยที่จะทำแบบนี้ และได้มอบอำนาจกับองค์กรนำทางศาสนาอย่างเต็มที่ในการดูแลเรื่องนี้
ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ กล่าวว่า "เมื่อเป็นที่ดินวอกัฟ ก็ต้องไม่มีเจ้าของ ตอนนี้ที่ดินตรงนั้นไม่มีเจ้าของ ยังเป็นที่ดินวอกัฟ อยากให้เข้าใจคำนี้...ที่ดินวอกัฟ"
ขณะที่ นายบัลยาน แวมะนอ ลูกชายนายดูนเลาะ กล่าวเอาไว้ในวันนั้นว่า ที่ดินปอเนาะญิฮาดเป็นของรัฐแล้ว ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับเขาและครอบครัว รัฐจะเอาไปทำอะไรก็ทำไป เป็นเรื่องของรัฐ แต่ถ้ารัฐจะให้ไปดูแล ทางครอบครัวคงไม่รับ ส่วนอนาคตของครอบครัว ตอนนี้ทางศูนย์ประสานงานช่วยเหลือจะมีการเรียกชาวบ้านกินน้ำชาทำบุญในวันที่ 19 มี.ค.59 เพื่อหางบมาซื้อที่ดินจำนวน 10 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านท่าด่านเหมือนเดิม ตามเจตนารมณ์ที่ชาวบ้านและลูกศิษย์ปอเนาะต้องการ
นายมะยูโซ๊ะ ยีเต๊ะ ชาวบ้านปัตตานี กล่าวว่า รัฐก็สร้างปอเนาะขึ้นใหม่ ครอบครัวแวมะนอก็สร้างโรงเรียนใหม่ เรื่องนี้ถือว่าเสมอกัน ไม่มีใครแพ้หรือชนะ ดีเสียอีกลูกหลานในอนาคตจะได้มีที่เรียน และมีทางเลือกมากกว่าเดิม
ขณะที่ พล.ต.ชินวัฒน์ กล่าวว่า การแถลงวันนี้ไม่ได้เป็นการกดดัน แต่เป็นการแก้ปัญหาภายใน และเห็นด้วยกับข้อสรุปที่องค์กรนำทางศาสนาฯได้แถลง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1, 5, 6 บรรยากาศชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปกับปอเนาะญิฮาดเป็นที่ระลึก
2-4 บรรยากาศในงานกินข้าวยำหาทุนสร้างปอเนาะแห่งใหม่
7-9 ผู้นำศาสนาในพื้นที่ร่วมกันแถลงหาทางออกคดีปอเนาะญิฮาด