เจาะรายได้ 4 ปี 2.7 ล.‘บ.เมียธาริต’เอาเงินจากไหนไปซื้อทอง 9.2 แสน
เจาะรายได้ บ.ธนวรรษ แอสโซซิเอท ‘ภรรยาธาริต’ หุ้นส่วน พบ 4 ปีแค่ 2.7 ล้าน มากสุดปี’53 1.2 ล้าน กำไรแต่ละปีไม่เคยเกิน 4 แสน พบมีการกู้ยืมเงินบริษัทกว่าล้านบาท ก่อน ถูก ป.ป.ช. ระบุถอนไปซื้อทอง 9.2 แสน
หลายคนอาจจะทราบไปแล้วว่า บริษัท ธนวรรษ แอสโซซิเอท จำกัด ที่มีนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นหนึ่งในเอกชนที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า พัวพันกับคดีร่ำรวยผิดปกติของนายธาริต เนื่องจากนางวรรษมล ถอนเงินของบริษัทนำไปซื้อทองคำ 9.2 แสนบาท
อย่างไรก็ดีเงื่อนปมสำคัญประการหนึ่งคือ ในการแจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2555 (บริษัทเลิกกิจการเมื่อปี 2556) พบว่า มีรายได้ทั้งหมด 7.9 แสนบาท และมีกำไรทั้งหมดประมาณ 2.6 หมื่นบาทเท่านั้น ?
(อ่านประกอบ : บ.เมียธาริต ถอนเงินซื้อทอง 9.2 แสนพันคดีรวยผิดปกติ-เลิกกิจการปี’56)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลบริษัท ธนวรรษ แอสโซซิเอท จำกัด พบว่า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2552 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 115/115 ม.6 ถ.นาวงประชาพัฒนา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. แจ้งประกอบธุรกิจ รับเป็นที่ปรึกษา ให้ความรู้และคำแนะนำด้านการขาย การบริหารงาน และการส่งเสริมการขาย
ปรากฏชื่อ น.ส.ธนัญชพร น้อยหิรัญ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ มี น.ส.ธนัญชพร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 997 หุ้น (หุ้นละ 1,000 บาท) นางวรรษมล 1 หุ้น นางสุธาทิพย์ เฉลยศักดิ์ 1 หุ้น และนายมงคล เฉลยศักดิ์เนติกุล 1 หุ้น
จดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2556
จากการตรวจสอบงบการเงินตั้งแต่ช่วงปี 2552-2556 พบรายละเอียด ดังนี้
เมื่อปี 2552 (เพิ่งตั้งบริษัท) มีรายได้ทั้งหมด 1,600 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 18,000 บาท ขาดทุน 16,400 บาท มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 489,100 บาท แบ่งเป็น เงินสด 7,500 บาท ดอกเบี้ยค้างรับ 1,600 บาท และเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกัน 4.8 แสนบาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 5,500 บาท
ปี 2553 มีรายได้ทั้งหมด 1,283,432 บาท เป็นรายได้จากค่าบริการ 1,278,632 บาท รายได้อื่น 4,800 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 880,845 บาท กำไร 364,698 บาท มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 969,075 บาท แบ่งเป็น เงินสด 161,644 บาท ลูกหนี้การค้า 87,030 บาท ดอกเบี้ยค้างรับ 6,400 บาท เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกียวข้องกัน 6.8 แสนบาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 120,776 บาท
ปี 2554 มีรายได้ทั้งหมด 704,782 บาท เป็นรายได้จากค่าบริการ 699,682 บาท รายได้อื่น 5,100 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 404,253 บาท กำไร 277,949 บาท มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 1,161,018 บาท แบ่งเป็นเงินสด 175,748 บาท ลูกหนี้การค้า 160,089 บาท เงินให้กู้ยืมระยะสั้น 7.8 แสนบาท และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 11,500 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 25,711 บาท
ปี 2555 มีรายได้ทั้งหมด 791,688 บาท เป็นรายได้จากค่าบริการ 787,788 บาท รายได้อื่น 3,900 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 741,285 บาท มีกำไร 26,057 บาท มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 1,152,837 บาท แบ่งเป็น เงินสด 83,410 บาท ลูกหนี้การค้า 32,208 บาท เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกัน 1,030,000 บาท และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 15,400 บาท มีหนี้สิน 26,588 บาท
ขณะที่จากการตรวจสอบทรัพย์สินอื่น ๆ พบว่า มีเครื่องใช้สำนักงาน มูลค่า 42,500 บาท เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีที่ดิน หรืออาคาร และอุปกรณ์อื่น ๆ แต่อย่างใด
รวม 4 ปี ที่บริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจ มีรายได้ทั้งสิ้น 2,781,502 บาท มีรายจ่ายทั้งสิ้น 2,044,283 บาท มีกำไรทั้งสิ้น 1,321,008 บาท
ทั้งนี้ผู้สอบบัญชีระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. 2552-เลิกกิจการ มีการกู้ยืมเงินระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกัน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ต่อปี และสามารถเรียกคืนได้เมื่อบริษัทต้องการ วงเงินล่าสุดก่อนเลิกกิจการคือ 1,030,000 บาท
น่าสังเกตว่า รายได้ของบริษัทที่ผ่านมา ถึงระดับหลักล้านบาทแค่ครั้งเดียวคือในปี 2553 นอกจากนั้นไม่เคยแตะหลักล้านบาทอีกเลย ส่วนกำไรไม่เคยเกิน 4 แสนบาทมาโดยตลอดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ขณะที่ข้อมูลเส้นทางการเงินจาก ป.ป.ช. ระบุว่า นางวรรษมล มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 145,320,329 บาท และดำเนินการถอนเงินบริษัท ธนวรรษ แอสโซซิเอท จำกัด ไปซื้อทองคำ 9.2 แสนบาท
ซึ่งหากดูตามสินทรัพย์ของบริษัทแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่า นางวรรษมล เรียกคืนเงินที่บริษัทปล่อยกู้บุคคลที่เกี่ยวข้อง วงเงินกว่า 1 ล้านบาท แล้วถอนเงินดังกล่าวมาซื้อทองคำ
ก็เป็นไปได้ ?
อ่านประกอบ :คลี่เงื่อนงำคำโต้แย้ง‘ธาริต’ทำไมไม่แจง ป.ป.ช.-รวยด้วยธุรกิจจริงหรือ?