คปท.เตรียมจัดเวทีขายนโยบายที่ดินให้พรรคการเมืองหลังยุบสภาฯ
นางสาวพงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ที่ปรึกษาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) เปิดเผยกับโต๊ะข่าวเพื่อชุมชนถึงความคาดหวังต่อนโยบายพรรคการเมืองในช่วงหาเสียงเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่ ต่อการแก้ปัญหาชาวบ้านในประเด็นลดความเหลื่อมล้ำเรื่องที่ดินทำกิน
โดยหวังว่าเรื่องโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน และการเก็บภาษีอัตราก้าวหน้าซึ่ง คปท.ผลักดันมาตั้งแต่แรกและยังค้างอยู่ในรัฐบาลนี้ จะได้รับการสานต่อ ซึ่ง คปท.จะเสนอนโยบายนี้ให้กับทุกพรรคการเมือง
“ทุกพรรคมีสิทธิ์นำนโยบายเหล่านี้ไปใช้ไม่ใช่แค่ประชาธิปัตย์ บางคนอาจเข้าใจว่าประชาธิปัตย์เป็นเจ้าของจริงๆไม่ใช่ และใครก็ตามที่จะขึ้นมาเป็นรัฐบาล เท่ากับเขาได้เสนอตัวว่าจะดูแลประชาชนก็ต้องสนใจต่อนโยบายที่มาจากภาคประชาชนด้วย”
ที่ปรึกษา คปท. กล่าวอีกว่า นอกเหนือจาก 3 นโยบายหลักข้างต้น คปท.ยังเห็นความจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น กรณีที่ดินโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งชาวบ้านกำลังจะถูกอพยพ เนื่องจากการประกาศแผนพิทักษ์ป่าดงใหญ่ของกรมป่าไม้และกองทัพ โดย คปท.เห็นว่าต้องมีการพัฒนากลไกการทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวนี้
“อย่างโฉนดชุมชนผลในทางปฏิบัติยังไม่เกิดขึ้น ทำได้แค่ 2 แห่งคือที่คลองโยงและแม่อาว ยังเหลืออีก 33 แห่ง ต้องผลักดันอย่างต่อเนื่อง ถ้ารัฐบาลไม่มีกลไกร่วมกับประชาชนเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ต้องจับตาตรวจสอบเพื่อให้เป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ”
นางสาวพงษ์ทิพย์ กล่าวต่อไปว่า เครือข่ายฯยังจะผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจ เนื่องจากบทเรียนที่ผ่านมาพบว่าปัญหาที่ดินที่แก้ไม่ได้หลายจุดติดขัดอยู่ที่การรวมศูนย์อำนาจ การตัดสินใจอยู่ที่กระทรวงต่างๆ อย่างเรื่องโฉนดชุมชนทุกวันนี้ยังไม่ถึงฝั่ง ด้วยเหตุที่ว่าหน่วยงานเจ้าของที่ดินไม่ปล่อยที่ดินออกสู่ประชาชน แม้รัฐบาลมีนโยบายแต่คนกุมอำนาจที่แท้จริงกับเป็นเจ้ากระทรวง จึงคิดว่านโยบายที่ชัดเจนเรื่องการกระจายอำนาจจะเป็นจุดสำคัญที่ คปท.จะเสนอ ไม่เช่นนั้นการปฏิรูปโครงสร้างการกระจายการถือครองซึ่งเป็นเป้าประสงค์ของการแก้ปัญหาที่ดินจะไม่เกิดขึ้น
ทั้งนี้หลังจากรัฐบาลประกาศยุบสภาอย่างเป็นทางการ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยจะจัดเวทีสาธารณะเพื่อนำเสนอประเด็นการแก้ไขปัญหาที่ดินชาวบ้านต่อพรรคการเมือง โดยเชิญนักการเมืองทุกพรรคมาร่วมรับฟังข้อเสนอ .