8 หน่วยงาน เปิดมิติใหม่ในการบูรณาการบริหารจัดการคดีการทุจริต
วันที่ 17 มีนาคม 2559 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ ห้องนนทบุรี 1 สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานการแถลงข่าว ผู้แถลงข่าวมิติ ใหม่ในการบูรณาการภายใต้คณะทำงานโครงการบูรณาการร่วมเพื่อการบริหารจัดการ คดีระหว่างองค์กรอิสระ และหน่วยงานการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันภาครัฐ รวม 8 หน่วยงาน โดยผู้แถลงข่าวประกอบด้วย นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นายธาวิน อินทร์จำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นางภิรมย์ ศรีประเสริฐ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. และนายสมโภชน์ โตรักษา เป็นผู้ดำเนินรายการ
การจัดกิจกรรมครั้งนี้ สืบเนื่องจากกระบวนการของการปราบปรามการทุจริต มีการดำเนินงานที่เหลื่อมซ้อนทับกันระหว่างหน่วยงานด้วยกัน โดยเฉพาะในเชิงของข้อมูล ทำให้การติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ เพื่อวางมาตรการเป็นไปได้ยาก รวมทั้งการไม่ทราบถึงสถานะของคดีในแต่ละคดีที่มีการส่งต่อระหว่างหน่วยงาน ดังนั้น คณะอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติด้านการประชาสัมพันธ์ได้นำเสนอโครงการการบูรณาการร่วมระหว่างองค์กรอิสระ และหน่วยงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันภาครัฐในคดีเกี่ยวกับการทุจริตที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ให้สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบดำเนินการภายใต้งบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙
สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานบูรณาการร่วมระหว่างองค์กรอิสระ และหน่วยงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันภาครัฐ ประกอบด้วย 8 หน่วยงาน คือ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ
การทำงานร่วมกันในลักษณะบูรณาการ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรวบรวมและบูรณาการข้อมูล การร้องเรียนเกี่ยวกับคดีคอร์รัปชัน และความคืบหน้าการดำเนินคดีคอร์รัปชันที่อยู่ในความสนใจของประชาชนแล้วสามารถเชื่อมโยงลักษณะการกระทำความผิดในการทุจริตได้ทั้งที่เกิดจากนักการเมือง นักธุรกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ และนำข้อมูลไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ อันจะเป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนถึงการดำเนินการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลไทย
๒
และที่สำคัญนับเป็นมิติใหม่ในการสร้างเจตจำนงค์ทางการเมืองที่รัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นวาระเร่งด่วนและให้เป็นวาระแห่งชาติ ด้วยการใช้กลไกประสานความร่วมมือกับภาครัฐ เป็นรากฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่ยั่งยืน ซึ่งในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในประเทศไทย จะดำเนินงานโดยลำพังเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นไปไม่ได้ หากแต่ละหน่วยงานการทำงานภายใต้บริบทของแต่ละหน่วยงาน และบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว การปราบปรามการทุจริตก็จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในสายตาต่างประเทศก็จะเชื่อมั่นในกระบวนการปราบปรามการทุจริตของไทย เชื่อว่าการทำธุรกรรมกับไทยโปร่งใสปราศจากการทุจริตรับสินบน และจะส่งผลให้ค่า CPI สูงขึ้นด้วย
