คลี่เงื่อนงำคำโต้แย้ง‘ธาริต’ทำไมไม่แจง ป.ป.ช.-รวยด้วยธุรกิจจริงหรือ?
คลี่คลายเงื่อนงำคำโต้แย้ง คำชี้แจง‘ธาริต’ทำไมไม่แจง ป.ป.ช.- ใช้โกดังที่ตั้งบริษัท เอาเงินจากไหนไปซื้อทองคำ 9.2 แสน
เป็นประเด็นร้อนที่สังคมยังจับตาอย่างต่อเนื่อง!
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด ‘ธาริต เพ็งดิษฐ์’ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานร่ำรวยผิดปกติ โดยมีการให้ ‘ภรรยา-หลาน-เครือญาติ’ เป็นผู้ถือครองทรัพย์สินแทน รวมเบ็ดเสร็จยอดเงินกว่า 346 ล้านบาท พร้อมส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) ส่งฟ้องศาลให้ยึดทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช. ชี้มูล 'ธาริต เพ็งดิษฐ' ร่ำรวยผิดปกติ346 ล. ส่งอัยการฟ้องยึดทรัพย์)
อย่างไรก็ดี ‘ธาริต’ ร่อนหนังสือชี้แจงถึงสื่อทุกสำนัก ยืนยันว่า ทรัพย์สินที่ได้มาทั้งหมด ทำด้วยความ ‘สุจริต’ และหลักฐานของ ป.ป.ช. ก็คลุมเครือไม่ชัดเจน แต่กลับรีบชี้มูลความผิด ทั้งที่ร่ำรวยด้วยการประกอบธุรกิจต่าง ๆ
“ทุกรายการก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า การมีหรือได้มาทรัพย์สินตามที่กล่าวหานั้น เป็นการไม่ชอบหรือไม่มีเหตุอันควรหรือมีพฤติการณ์ ที่ร่ารวยผิดปกติอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น บัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ภรรยาของข้าพเจ้าใช้ฝากเงิน เพื่อหมุนเวียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 6 ล้านบาท ตลอดเวลา 5 ปี ที่ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่ง ย่อมมีการถอนออกแล้วฝากเข้าเป็นปกติของการซื้อขายหุ้น
แต่อนุกรรมการ ป.ป.ช. ใช้วิธีนำเอาเฉพาะรายการฝากทุก ๆ ครั้งบวกทบ ๆ กัน จึงทำให้ยอดบัญชีสูงถึง 86 ล้านบาท ทั้งที่ตัวเงินจริงมีเพียง 6 ล้านบาทที่หมุนเวียนเป็นต้น การกล่าวหาว่าข้าพเจ้าร่ารวยผิดปกติ”
“ประการสำคัญ อนุกรรมการ ป.ป.ช. ใช้วิธีคิดคำนวณรายได้จากเงินเดือน และค่าตอบแทนเฉพาะการรับราชการของข้าพเจ้าและภรรยาเท่านั้น ไม่ได้ตรวจสอบถึงรายได้จาก การทำธุรกิจเช่น การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายที่ดิน และการลงทุนในทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น ทองคำ และอัญมณี
ซึ่งในปัจจุบันการมีรายได้จากธุรกิจต่าง ๆ ของข้าราชการเป็นเรื่องปกติ ที่กระทำได้โดยชอบ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีพยานหลักฐานหรือพฤติการณ์ใด ๆ เลยที่แสดงว่า ข้าพเจ้ามีทรัพย์สินเหล่านั้น หรือได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือโดยไม่ถูกต้อง”
เป็นถ้อยความยืนยันความ ‘บริสุทธิ์’ ของนายธาริตต่อสาธารณชน !
(อ่านประกอบ : ‘ธาริต’ซัดกลับ! ป.ป.ช.ยึดทรัพย์หลักฐานคลุมเครือ ลั่นรวยด้วยธุรกิจ)
อย่างไรก็ดี ข้อชี้แจงของ ‘ธาริต’ มีความ ‘ไม่ชัดเจน’ อยู่หลายประการ ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีข้อสังเกต ดังนี้
หนึ่ง ในการตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางการเงินของ ป.ป.ช. ในส่วนบัญชีเงินฝากที่ไว้ซื้อขายหลักทรัพย์ นายธาริต ระบุว่า มีบัญชีเงินฝากไว้สำหรับฝากเงินเพื่อหมุนเวียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีการถอนออกและฝากเข้าเป็นปกติของการซื้อขายหุ้น แต่ ป.ป.ช. กลับนำรายการทุก ๆ ครั้งบวกทบกัน ทำให้ยอดบัญชีมีเงินสูงกว่า 86 ล้านบาท ทั้งที่มีเงินหมุนเวียนแค่ 6 ล้านบาท
แต่ตามข้อเท็จจริงคือ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายหุ้นโดยตรง หรือผ่านบริษัทหลักทรัพย์ หรือที่เรียกว่า ‘โบรกเกอร์’ ไม่ว่าจะจ่ายผ่านเป็นเช็ค หรือจ่ายผ่านบัญชีเงินฝาก ข้อมูลทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ในระบบการซื้อขาย และในบัญชีธนาคารอยู่แล้ว
ดังนั้น ‘ธาริต’ จึงสามารถขอข้อมูล หรือนำหลักฐานในการซื้อขายหลักทรัพย์มาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับ ป.ป.ช. ได้
สอง นายธาริต ระบุว่า ร่ำรวยด้วยการประกอบธุรกิจต่าง ๆ เช่น การซื้อขายที่ดิน รวมถึงลงทุนในทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น ทองคำ และอัญมณี
ซึ่งตามข้อเท็จจริงในการประกอบธุรกิจ หากบริษัทดังกล่าว มีรายได้จากการประกอบธุรกิจสูง ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัท หรือเข้าไปถือหุ้นในบริษัทก็ตาม จะได้รับเงินปันผลมากไปด้วย ส่วนบริษัทดังกล่าวต้องแจ้งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ อยู่แล้ว
ดังนั้นนายธาริตสามารถนำรายได้ดังกล่าวมากรอกในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) เพื่อมาชี้แจงกับ ป.ป.ช. ได้ว่า มีรายได้จากการทำธุรกิจเท่าไหร่บ้าง
จากการตรวจสอบข้อมูลของบริษัท ปิยธนวรรษ จำกัด ที่มีนายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ (หลานนายธาริต) และนางกานดา เผือดจันทึก (น้องสาวนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยานายธาริต) เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้น ซึ่งถูก ป.ป.ช. ระบุว่า เป็นผู้ถือทรัพย์สินแทนนายธาริตนั้น แจ้งว่า ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
แต่พบว่า ไม่ได้มีการแจ้งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2556
เป็นไปได้หรือไม่ว่า บริษัทดังกล่าว ไม่ได้มีการประกอบธุรกิจอะไรเลยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ?
และเมื่อลงพื้นที่ที่ตั้งบริษัท พบว่า เป็นโกดัง และร้านขายไม้ ของ ‘อดีตสามี’ นางกานดา ที่ยืนยันว่า เลิกกันไปนานแล้ว
(อ่านประกอบ : บ.หลานธาริตไม่แจ้งงบการเงิน 3 ปี ก่อน ป.ป.ช.ฟันเป็นนอมินีถือทรัพย์แทน, ลุยพิสูจน์ บ.อสังหาฯ'หลานธาริต'ที่แท้!โกดัง-เจ้าของขายวัสดุก่อสร้าง)
ขณะเดียวกันที่นายธาริต ระบุว่า มีการลงทุนในเรื่องทองคำ และอัญมณีนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบพบว่า นางวรรษมล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ธนวรรษ แอสโซซิเอท จำกัด โดยมีพฤติการณ์ถอนเงินของบริษัทนำไปซื้อทองคำ 9.2 แสนบาทนั้น
จากการตรวจสอบข้อมูลของบริษัท ธนวรรษ แอสโซซิเอท จำกัด แจ้งว่า จดทะเบียนเมื่อปี 2552 (ก่อนนายธาริตเข้ารับตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอเพียง 1 วัน) ก่อนแจ้งเลิกกิจการเมื่อปี 2556 ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับที่ปรึกษาด้านการขาย หรือการบริหารงาน
เมื่อตรวจสอบงบการเงินนับตั้งแต่ปี 2552-2556 พบว่า มีรายได้ประมาณหลัก 500,000-1.2 ล้านบาท เท่านั้น และมีกำไรเพียงแค่ 2-4 แสนบาท
คำถามคือ ในเมื่อบริษัทดังกล่าวมีรายได้เพียงหลักล้านต้น ๆ และมีกำไรไม่ถึง 5 แสนบาทด้วยซ้ำ แล้วนางวรรษมล เอาเงินจากไหนไปซื้อทองคำ 9.2 แสนบาท ?
ทั้งหมดคือข้อสังเกตในถ้อยคำชี้แจงของ ‘ธาริต’
แต่เงื่อนปมสำคัญคือ เหตุใด ‘ธาริต’ จึงไม่นำหลักฐานเหล่านี้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับคณะอนุกรรมการไต่สวนฯของ ป.ป.ช. เสียแต่เนิ่น ๆ ทำไมถึงต้องมาชี้แจงภายหลังที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดไปแล้ว
โดยนายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาฯ ป.ป.ช. ระบุว่า นายธาริต อ้างว่า ไม่เข้าใจกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช.
ทั้งที่เป็นถึงอดีตอัยการ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ย่อมต้องทราบข้อกฎหมายอยู่แล้ว?
การอ้างอย่างนี้ ดูจะฟังไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่นัก!
อ่านประกอบ :
บ.เมียธาริต ถอนเงินซื้อทอง 9.2 แสนพันคดีรวยผิดปกติ-เลิกกิจการปี’56
ชีวิตเปลี่ยนสี 'ธาริต เพ็งดิษฐ์' จากสูงสุดสู่โดนยึดทรัพย์ 346 ล.
เส้นทางเงิน‘ธาริต’ก่อน ป.ป.ช.เชือดรวยผิดปกติ 346 ล.ให้นอมินีถือแทน
อัพเดท ขรก.รวยผิดปกติ ‘ธาริต’รายที่ 13 ลุ้นอีก 2 ระดับบิ๊ก?
เจาะไส้ใน! บ.อสังหาฯ‘หลานธาริต’ไม่แจ้งงบการเงิน-ป.ป.ช.ฟันนอมินี