เครือข่ายชาวพุทธแถลงสาปแช่งผู้ใช้ความรุนแรงต่อคนบริสุทธิ์
เครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานี ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังเกิดเหตุรุนแรงทีมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ อันเป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
แถลงการณ์ฉบับนี้ลงวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2559 ขึ้นหัวเรื่องว่า “เรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชาวพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนมา” และ “ความเงียบที่ชายแดนใต้เมื่อคนพุทธถูกทำร้ายและเป็นเหยื่อของความรุนแรง”
เนื้อหาของแถลงการณ์ระบุว่า นับจากปี 2547-2558 หรือ 12 ปีของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้อมูลของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ระบุว่า ความรุนแรงและความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 6,543 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 11,919 ราย ในจำนวนนี้หากคิดเป็นร้อยละ พบว่าชาวพุทธเสียชีวิตร้อยละ 40 และบาดเจ็บร้อยละ 60 มีพระสงฆ์มรณภาพ 19 รูป และบาดเจ็บ 25 รูป
สำหรับในช่วง 2 เดือนกว่าของปี 2559 มีการสูญเสียของชาวพุทธกว่า 10 ราย และมีกรณีเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญซึ่งทำให้พี่น้องชาวพุทธเสียขวัญอย่างหนักมากขึ้น เช่น กรณีการเสียชีวิตของสองสามีภรรยา นายชา มณีอร่าม และ นางน้อย มณีอร่าม ขณะกรีดยางในอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี, กรณียิง นายสมศักดิ์ ดุษฎีพิริยะ เจ้าของอู่เพชรเกษมยางยนต์ อำเภอเมืองปัตตานี แล้วปล้นรถยนต์ไปติดตั้งระเบิด แล้วนำไปจุดระเบิดในอำเภอเมืองปัตตานีจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย
หรือกรณีการกระทำการอันโหดร้ายป่าเถื่อนต่อเด็ก ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มลูกจ้างรับจ้างเกี่ยวข้าว ขณะกำลังเกี่ยวข้าวในทุ่งนาใน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ทำให้ นายจิรพล ศรีนอก อายุ 19 ปี ชาวอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิต, กรณี นายฉัตรชัย แซ่ท่อง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เสียชีวิตคาที่ขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยาง โดยหลังก่อเหตุคนร้ายยังได้ราดน้ำมันจุดไฟเผาทำลายศพก่อนจะหลบหนีไป, กรณี พ.ต.อ.องอาจ ทองมา อายุ 82 ปี อดีตผู้กำกับการ สภ.ยะรัง จังหวัดปัตตานี เสียชีวิตและจุดไฟเผาทำลายศพในอำเภอยะรัง ขณะกำลังปั่นจักรยานออกกำลังกายอยู่บนถนนในตำบลยะรัง จังหวัดปัตตานี
และ นายสุทัศน์ ไกรวรรณ อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดปัตตานี เสียชีวิตคาที่ขณะกำลังปฏิบัติงานเตรียมย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูงริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ท้องที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ท่ามกลางสายตาผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นถนนสายหลัก เป็นต้น
ในฐานะเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดปัตตานี ขอเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆ ดังนี้
ฝ่ายกระทำการที่ป่าเถื่อนโหดเหี้ยม
1.ไม่ว่าคุณเป็นใคร ฝ่ายใด คุณโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ สมควรได้รับการประณามจากสังคม และขอให้กรรมที่คุณก่อไว้ ได้รับการลงโทษ อยู่อย่างทุกข์ทรมาน เหมือนตกนรกทั้งเป็น กรรมติดตัวคุณไปทุกชาติทุกภพ หากคุณยังคงเป็นคนมีศาสนาใดๆ ขอให้ได้รับโทษทัณฑ์ตามหลักของศาสนานั้นๆ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ทั้งในขณะเป็นมนุษย์และหลังความตายที่คุณไม่มีทางหนีพ้น
2.หยุดการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์นี้เสีย เพราะมนุษย์ผู้ยังมีหัวใจรักต่อเพื่อนมนุษย์ในทุกหย่อมหญ้า นับหมื่น นับแสน นับล้าน จะมีส่วนในการสาปแช่งการกระทำที่เลวร้ายของคุณ
3.ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐทำเพราะหวังผลทางการเมือง ถือเป็นการกระทำที่เลวร้ายที่สุด ไม่สมควรเป็นเยี่ยงอย่างและต้องหยุดการกระทำเช่นนี้อย่างเด็ดขาด เพราะคุณไม่มีทางได้ผลดีใดๆ มีแต่ความเกลียดชัง สิ้นศรัทธา และไม่มีทางได้มวลชนที่คุณต้องการ
4.ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐไม่ว่ากลุ่มใดก็ตามที่ต้องการหวังผลทางการเมือง ก็ถือว่าคุณมาผิดทาง นี่ไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง คุณคิดว่าจะชนะ แต่คุณจะพ่ายแพ้ คุณจะตกนรกหมกไหม้ในนรกภูมิ คุณจะตอบคำถามของพระเจ้าได้อย่างไร
ฝ่าย ศอ.บต. กองทัพ และตำรวจ
1.ขอให้มีการประสานงานกันเป็นพิเศษเพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน การกระทำอันโหดเหี้ยมนี้ว่ามาจากการกระทำของใครโดยเร็วที่สุด และนำคนที่ทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยไม่มีการยกเว้นและเห็นแก่ใคร และโดยเร่งด่วนที่สุด
2.ขอให้จัดการดูแล ประสานงาน ร่วมพลังกันกับทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ และร่วมมือกับชุมชน ปกป้อง ป้องกันชีวิต ทรัพย์สิน ความเป็นอยู่ของพี่น้องอย่างเข้มงวดในทุกชุมชน โดยเฉพาะในชุมชนชาวพุทธ และชุมชนผสมชาวพุทธมุสลิมที่ถือว่าเปราะบางที่สุดในเวลานี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของผู้กระทำการทุกฝ่าย และเพื่อป้องกันการบาดหมางและความแค้นที่อาจแปลงเป็นความรุนแรงต่อกัน
3.ขอให้ทหาร ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี มีทั้งนิติธรรมและคุณธรรม ไม่จับคนผิดตัว เพราะเกือบทุกครั้งที่ท่านจับกุมคนทำผิด ไม่ว่าทางกฎหมายจะสิ้นสุดแล้วหรือไม่ คนพุทธจะกลายเป็นกลุ่มแรกที่ถูกทำร้าย เสมือนการถูกเอาคืนเสมอ
4.ขอให้ ศอ.บต (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) และหน่วยงานพลเรือนต่างๆ ดูแลจิตใจพี่น้องที่รับผลกระทบทุกครอบครัวชาวพุทธที่ประสบเหตุร้ายในห้วงเวลาที่ผ่านมาเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นกลุ่มเปราะบาง
ชาวพุทธในพื้นที่
1.ขอให้ท่านออกมาแสดงบทบาทของคนพุทธในพื้นที่อย่างมีศักดิ์ศรี เพื่อไม่ให้การตาย การบาดเจ็บ และการสูญเสียของชาวพุทธเงียบงันเหมือนที่ผ่านมา ต้องส่งเสียงเพื่อให้สังคมได้เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิพลเมืองของคนพุทธในพื้นที่
2.ขอให้คนพุทธไม่เพียงแต่บ่น ก่นด่าคนทำผิด หรือเรียกร้องให้คนอื่นแสดงบทบาทแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ขอให้ร่วมแสดงบทบาทใดๆ ที่ท่านเห็นควร เพื่อร่วมเยียวยาสังคม แก้ปัญหาความรุนแรง และมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพร่วมกับกลุ่มคนอื่นๆ ในสังคม
บึ้มชุด รปภ.ครูตันหยงมัส เจ็บ 2
สถานการณ์ความรุนแรงที่ชายแดนใต้ยังคงปรากฏอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 4 มี.ค.59 เวลา 08.10 น. เกิดเหตุระเบิดดักสังหารชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) โรงเรียนบ้านทำนบ หมู่ 1 ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ โดยใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน กำลังพล 8 นาย ใช้เส้นทางสาย 4107 ท้องที่บ้านวัดร่อน หมู่ 2 ตำบลตันหยงมัส โดยหลังจากเกิดระเบิด คนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ข้างทางยังใช้อาวุธสงครามยิงโจมตีซ้ำ จนเกิดการยิงตอบโต้กันนานประมาณ 5 นาที คนร้ายจึงล่าถอยไป ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ นายปรีชา มาน๊ะ อายุ 36 ปี กับ นายอรรถพล เหมพันธ์ อายุ 40 ปี โดยทั้งคู่เป็นอาสารักษาดินแดน (อส.) และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตตำบลตันหยงมัส
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เหตุคนร้ายยิงและเผาร่างซ้ำ พ.ต.อ.องอาจ ทองมา อดีตตำรวจวัย 82 ปี ในอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
หมายเหตุ : ใช้เทคนิคพรางภาพเพื่อเคารพสิทธิ์ผู้เสียชีวิต