เปิดตัว บ.สิงคโปร์ปริศนา คู่ค้าข้าวจีทูจี สยามอินดิก้า ก่อนเวียนขายต่อในปท.
เปิดตัว บ.สิงคโปร์ปริศนา 'ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป' โผล่ซื้อข้าวจีทูจี บ.จีน ก่อนเวียนขายต่อในไทย 'สยามอินดิก้า' อ้างพยานชั้นศาล ยืนยันความบริสุทธิ์? แต่เบี้ยวอัยการส่งสัญญาซื้อขายหลายหน
ในการนัดไต่สวนพยานคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 21 ราย เป็นจำเลย กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2559 ที่ผ่านมา
ชื่อของ บริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ที่ปรากฎขึ้นในระหว่างการไต่สวนพยานคดี ของ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด กำลังได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก
ในฐานะ 'ตัวละครใหม่' ที่เกิดขึ้นในคดีนี้
เนื่องจาก บริษัท สยามอินดิก้าฯ กล่าวอ้างว่า ข้าวในสต็อกรัฐบาลที่นำมาขายต่อให้กับผู้ส่งออกในประเทศไทย ได้มาจากการทำสัญญาซื้อขายจากบริษัทเอกชนรายนี้
(อ่านประกอบ : ศาลไฟเขียวเครือสยามอินดิก้าขอวีดีโอลิงค์ถามสถานะเอกชนจีนสู้คดีข้าว)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ บริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด พบว่า เป็นบริษัทเอกชนในประเทศสิงคโปร์ ปรากฎข้อมูลเป็นทางการในคำให้การ ของบริษัทสยามอินดิก้าฯ
โดย บริษัท สยามอินดิก้า ระบุด้วยว่า ในช่วงที่รัฐบาลเปิดระบายข้าว ได้พยายามติดต่อผู้ค้า หรือหยง (ตัวแทนซื้อขายข้าว) และผู้ประกอบการค้า เพื่อหาซื้อข้าวเหมือนกัน ก่อนที่จะสามารถติดต่อซื้อข้าวจาก บริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ประกอบธุรกิจอยู่ในประเทศสิงคโปร์ แจ้งทำธุรกิจนายหน้าหรือตัวแทนการค้า
บริษัทสยามอินดิก้าฯ ยังระบุด้วยว่า ก่อนที่จะตกลงซื้อขายข้าวกัน ได้ตรวจสอบข้อมูลของ บริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด แห่งนี้ พบว่า สามารถที่จะขายข้าวให้ได้จริง เนื่องจากบริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด แจ้งว่า ซื้อข้าวมาจากบริษัทจีน
ส่วนการรับข้าวที่ซื้อ ให้ติดต่อกับตัวแทนฝ่ายผู้ขาย ส่วนการชำระเงินนั้น ให้ทำเป็นแคชเชียร์สั่งจ่ายให้แก่กรมการค้าต่างประเทศโดยตรง
ทั้งนี้ คำให้การของบริษัทสยามอินดิก้าฯ ดังกล่าว ถูกมองว่า เป็นความพยายามของบริษัทสยามอินดิก้าฯ ที่จะยืนยันต่อศาลว่า บริษัทสยามอินดิก้า ทำธุรกิจขายค้าตามปกติ ขณะที่การระบายข้าวจีทูจี ก็มีอยู่จริง กล่าวคือ บริษัทเอกชนจีน ที่เข้ามาซื้อข้าวในสต็อกรัฐบาล มีการนำขายไปขายต่อให้กับบริษัทเอกชนในต่างประเทศ ไม่ได้นำข้าวมาเวียนขายให้กับผู้ส่งออกในไทยโดยผ่านบริษัทสยามอินดิก้า ตามที่ถูกกล่าวหา
และทำไมแคชเชียร์เช็คซื้อข้าวของกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งป.ป.ช.ใช้เป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้ ถึงมาจากบริษัท สยามอินดิก้า
อย่างไรก็ตาม ในการนัดไต่สวนคดีข้าวจีทูจี หลายครั้งที่ผ่านมา ทางฝ่ายอัยการ ได้ร้องขอให้ บริษัท สยามอินดิก้า แสดงหลักฐานการทำสัญญาซื้อขายข้าวกับบริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง มาแสดงเป็นหลักฐาน
แต่บริษัทสยามอินดิก้า ก็ไม่เคยนำมาส่งมอบให้
จนกระทั่ง ในการนัดไต่สวนพยานครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2559 ที่ผ่านมา อัยการได้ขอให้ศาลได้มีคำสั่งให้บริษัทสยามอินดิก้า รีบนำพยานหลักฐานมาให้โดยเร็ว
ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในช่วงบ่ายวันที่ 2 มี.ค.2559 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้พยายามตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ แต่ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด แต่อย่างใด
เมื่อพยายามติดต่อไปที่บริษัท สยามอินดิก้า ก็ไม่มีผู้รับสายเช่นกัน
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทสยามอินดิก้า ไม่ยอมส่งมอบสัญญาการซื้อขายข้าว กับ บริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ขณะที่การตรวจสอบข้อมูลในโลกออนไลน์ ก็ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ แห่งนี้
อาจมีความเป็นไปได้ใน 2 เหตุผล คือ
1. บริษัทไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ไม่มีอยู่จริง และก็ไม่ได้มีการทำสัญญาซื้อขายจริง
2. บริษัทไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด มีตัวตนอยู่จริง แต่อาจเป็นบริษัทเล็กๆที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจข้าว จึงไม่ค่อยปรากฎข้อมูลในโลกออนไลน์มากนัก
และเมื่อเกิดปัญหาคดีระบายข้าว บริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ก็ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรด้วย ทำให้การประสานงานขอข้อมูลมาแสดงต่อศาล จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
แถมนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง และผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ก็อยู่ระหว่างการควบคุมตัวในเรือนจำ
(อ่านประกอบ : คุก-เครียด-ป่วย! วิบากกรรม‘เสี่ยเปี๋ยง’ จากพ่อค้าข้าวชื่อดังสู่จำเลยจีทูจีเก๊)
แต่ไม่ว่าบริษัทไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด จะมีตัวตนอยู่จริง หรือไม่มีตัวตนอยู่ก็ตาม
เมื่อบริษัทสยามอินดิก้า กล่าวอ้างว่า ได้ไปทำสัญญาซื้อขายข้าว กับบริษัทแห่งนี้จริง
ในทางปฏิบัติก็จะต้องมีสัญญาเก็บไว้ที่บริษัท 1 ชุด ซึ่งน่าที่จะสามารถนำมาแสดงต่อศาลได้ ยิ่งถ้าเห็นว่าเป็นหลักฐานสำคัญ ที่จะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ในการทำธุรกิจของตนเองได้ ก็ยิ่งจะต้องรีบนำมาแสดง เพื่อทำความจริงให้ปรากฎโดยเร็ว
รวมถึงไปข้อมูลการซื้อขายข้าวระหว่างบริษัทจีน กับ บริษัทไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ที่สามารถนำมาแสดงได้ด้วย
เพราะฝ่ายบริษัทสยามอินดิก้าอีกเช่นกัน ที่แจ้งต่อศาลว่า ก่อนหน้าที่จะทำสัญญาซื้อขายข้าว กับ บริษัทไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ได้ตรวจสอบข้อมูล พบว่า สามารถที่จะขายข้าวให้ได้จริง เนื่องจากบริษัท ไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด แจ้งว่า ซื้อข้าวมาจากบริษัทจีน ข้อมูลส่วนนี้น่าจะมีอยู่ และนำมาแสดงได้ (กรณีนี้มีข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่ที่ บริษัทสยามอินดิก้า ติดต่อกับ บริษัทไฟน์ คอนทิเนนตัล เทรดดิ้ง คอร์ป จำกัด ผ่านช่องทางใด มีใครเป็นตัวกลางประสานงานหรือไม่)
แต่ถ้าไม่สามารถหาหลักฐานอะไรมาแสดงได้เลย ก็เป็นเรื่องยาก ที่จะทำให้ศาลเชื่อถือในข้อมูลว่าบริษัทสยามอินดิก้า เป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการทุจริตคดีระบายข้าวจริง
และอาจถูกมองว่ามีความพยายามในการสร้างหลักฐานเท็จ ซึ่งจะมีผลเสียหายต่อการสู้คดีของบริษัทสยามอินดินก้าในอนาคตด้วย