เปิดแผนประทุษกรรมคาร์บอมบ์ถล่มฐานตำรวจปัตตานี
พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) ชี้ว่า เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านอาหารมีตติ้ง ติดกับฐานตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 11 ปัตตานี (มว.ฉก.นปพ.ปน.11) ใกล้ด่านตรวจหน้าบริษัทปัตตานีคอนกรีต ทางเข้าเมืองปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ก.พ.59 นั้น เป็นเหตุต่อเนื่องจากกรณีปล้นรถยนต์เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน
"คนร้ายยิง นายสมศักดิ์ ดุษฏีพิริยะ อายุ 51 ปี เจ้าของร้านเพชรเกษมยางยนต์ ก่อนในช่วงเช้า บริเวณใต้สะพานกลับรถตะลุโบะ อีกด้านหนึ่งของตัวเมืองปัตตานี จากนั้นก็ปล้นรถมา เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฉ 3815 กรุงเทพมหานคร แล้วก็นำรถไปใส่ระเบิด รวมทั้งน้ำมันแกลลอนใหญ่ และใช้เส้นทางสายรองที่ไม่มีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ขับรถลัดเลาะนำมาจอดที่หน้าร้านอาหารข้างฐานปฏิบัติการของตำรวจ ก่อนจะจุดระเบิดขึ้น"
พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ บอกด้วยว่า คนร้ายที่ลอบวางระเบิดมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ถูกเจ้าหน้าที่บุกทลายฐานประกอบระเบิดและฐานฝึกในป่าโกงกางริมทะเล บ้านตันหยงเปาว์ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยึดอุปกรณ์ประกอบระเบิดได้จำนวนมาก รวมทั้งจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน ส่วนอีก 4-5 คนที่หลบหนีไปได้ ตามรายชื่อเชื่อว่าเป็นมือประกอบระเบิดทั้งสิ้น
สำหรับมูลเหตุจูงใจอื่นๆ นอกจากการตอบโต้เจ้าหน้าที่ ก็คือการแสดงศักยภาพว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ยังสามารถปฏิบัติการได้ และยังเป็นการแสดงจุดยืนคัดค้านกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำลังมีการจัดงานครบรอบ 3 ปีพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ในวันที่ 28 ก.พ.ด้วย
"หลายเรื่องที่เป็นมูลเหตุจูงใจ สามารถโยงถึงกันได้หมด และมีความเป็นไปได้ด้วยกันทั้งสิ้น" ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าว และว่าขณะนี้ทราบตัวคนร้ายแล้ว กำลังเร่งติดตามจับกุม
ย้อนเหตุคาร์บอมบ์เขย่าปัตตานี
สำหรับเหตุคาร์บอมบ์ใกล้ฐานปฏิบัติการของตำรวจ ริมถนนทางเข้าเมืองปัตตานี เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.40 น.วันเสาร์ที่ 27 ก.พ.59 บริเวณลานจอดรถหน้าร้านอาหารมีตติ้ง ด้านหลังฐานปฏิบัติการตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 11 ปัตตานี ท้องที่หมู่ 4 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้เกิดไฟลุกเผาฐานปฏิบัติการของตำรวจซึ่งปลูกเป็นเพิงมุงจากจนวอด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย เป็นตำรวจ 7 นาย ที่เหลือเป็นประชาชน
รายชื่อผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย 1.ส.ต.ท.สุรศักดิ์ สังข์นวล 2.ส.ต.ท.ปกป้อง ชุมขา 3.ส.ต.ท.มงคลชัย นุ่นเกลี้ยง 4.ส.ต.ท.สุรเดช ทรัพย์สมบัติ 5.ส.ต.ท.ธีรพงษ์ เกื้อหล่อ 6.ส.ต.ท.ปิยะพงษ์ เกื้อหล่อ 7.ส.ต.ท.อรรพล นิ่มวุ้น
8.นางสาวพรชนก อักษรชู พนักงานร้านอาหารมีตติ้ง 9.นายซอปี สอเฮาะ 10.นายอับดุลรอฮิม สามะอาลี และ 11.นายอิสมาแอ อาแย
สำหรับรถที่คนร้ายใช้ทำคาร์บอมบ์ คือ รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส หมายเลขทะเบียน ฆฉ 3815 กรุงเทพมหานคร ที่เพิ่งปล้นมาหลังก่อเหตุยิงนายสมศักดิ์ ดุษฏีพิริยะ อายุ 51 ปี เจ้าของร้านเพชรเกษมยางยนต์ ช่วงเช้าวันเดียวกัน ทั้งนี้ ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ส
จากการสอบถามพนักงานร้านมีตติ้ง ทราบว่า ร้านอาหารดังกล่าวเปิดมาได้เพียง 1 เดือน เปิดให้บริการในช่วงค่ำ เนื่องจากเป็นร้านที่ขายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งเบียร์สด หากเกิดระเบิดในช่วงที่ร้านเปิด จะมีผู้บาดเจ็บมากกว่านี้ ส่วนรถคาร์บอมบ์ที่คนร้ายนำมาจอดไว้หน้าร้าน พนักงานในร้านไม่ทันสังเกตว่าขับนำมาจอดไว้เมื่อใด รู้อีกทีก็เกิดระเบิดแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุพุ่งเป้าให้เกิดความเสียหายกับฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ โดยเป็นการวางแผนก่อการ 2 เหตุในวันเดียว คือปล้นรถยนต์ช่วงเช้า แล้วนำไปประกอบระเบิด ก่อนจุดชนวนระเบิดถล่มฐานทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีฐานข้อมูลรถที่ถูกปล้น
สั่งสร้างฐานใหม่เรียกขวัญกำลังใจ จนท.
เหตุคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดเพลิงไหม้ฐานปฏิบัติการของตำรวจวอดแทบไม่เหลือซาก นอกจากนั้นยังมีรถยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน ข้าวของในร้านอาหารมีตติ้งเสียหายเกือบทั้งหมด
ตลอดคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถแบ็คโฮเข้าปรับพื้นที่ในฐาน เพื่อสร้างใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อเรียกขวัญกำลังใจของกำลังพล โดยมีรายงานว่าสิ่งของภายในฐาน รวมทั้งอาวุธปืนถูกเพลิงเผาเสียหายทั้งหมด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 กลุ่มควันหนาจากฐานปฏิบัติการของตำรวจที่ถูกเพลิงไหม้หลังโดนคาร์บอมบ์
2 ซากคาร์บอมบ์
3 ร้านมีตติ้ง
4 เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรกลหนักเข้าไปปรับพื้นที่เพื่อเตรียมสร้างฐานใหม่