18 ปีคดีทุจริตสร้างสนามกีฬาคลอง 6 เริ่มต้นที่ ป.ป.ช. (ยัง) ไม่จบที่ศาลปกครอง?
มหากาพย์ 18 ปีคดีก่อสร้างสนามกีฬาคลอง 6 จุดเริ่มต้น ส.ส. โคราช ขอนแก่น ร้องป.ป.ช.ตั้งคณะอนุไต่สวนฯ ชุดใหญ่ฟันหนักวินัย อาญา 11 ขรก. ผู้รับเหมาทุจริต อัยการสั่งฟ้อง 2 ศาลตัดสิน ไม่ผิด ซี 7 ฟ้องเพิกถอนคำสั่งไล่ออก ไม่ชดใช้ 25 ล. เป็น 2 คดีความในศาลปกครอง ตุงนังอาจยังไม่จบ?
กลายเป็นเรื่องยาวไปเรียบร้อยแล้วกรณีนายวิทยา วงษ์สมาน อดีตข้าราชการระดับ 7 สังกัดกรมพลศึกษา ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอนคำสั่ง สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (กรมพลศึกษา) ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ที่มีคำสั่งไล่ออกจากราชการตามคำวินิจฉัยชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) คดีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ (สนามกีฬาคลอง 6) กรมพลศึกษา วงเงิน ประมาณ 2 พันล้านบาท โดยมีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ยื่นคำร้องสอด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อ 8 พ.ค.57 ยกฟ้องนายวิทยา จำเลย กับพวก 11 คน ไม่มีความผิดในคดีอาญาข้อหาทุจริตตามคำชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องยื่นคำให้การในศาลปกครองในฐานะผู้ร้องสอด และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ในศาลปกครองอีกครั้ง
สำนักข่าวอิศรา ลำดับความเป็นมากรณีทุจริตก่อสร้างสนามกีฬา 2 พันล้านบาท ดังนี้
30 มิ.ย.42 นายรักษ์ ด่านกุล ส.ส. นครราชสีมา และนายพงศกร อรรณนพพร ส.ส. ขอนแก่น มีหนังสือร้องเรียน กล่าวหา เจ้าหน้าที่กรมพลศึกษาว่ามีการเบิกเงินให้ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารพลศึกษาซึ่งส่อไปในทางไม่สุจริต
18 เม.ย.43 นายปรีชา คุณะกฤดาธิการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอพเพอตี้ แพลนนิ่ง แอนด์ ดีเวลล้อปเม้นท์ จำกัด ได้มีหนังสือร้องเรียน กล่าวหาคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ (คลอง 6) และโครงการก่อสร้างอาคารเรียนและอาคารประกอบ (อาคารเอนกประสงค์) สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ กรมพลศึกษา ว่ากระทำโดยมิชอบส่อไปในทางทุจริตไม่เป็นไปตามสัญญาจ้างและระเบียบของทางราชการ
ต่อมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จำนวน 158 รายการ บันทึกการตรวจสถานที่ ภาพถ่ายการก่อสร้าง และพยานบุคคล จำนวน 11 ปาก เรียกผู้ถูกกล่าวหามาแจ้งข้อกล่าวหา
6 พ.ย.50 คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ ชี้มูล 2 กรณี
1.นายสุวรรณ กู้สุจริต รองอธิบดีกรมพลศึกษา ต่อมาเป็นอธิบดีกรมพลศึกษา
2.นายสมเกียรติ ตงศิริ เจ้าหน้าที่ออกแบบก่อสร้าง
3.นายบัณฑิต ปลีจินดา เจ้าหน้าที่พัสดุ 7
4.นายวิทยา วงษ์สมาน เจ้าหน้าที่พัสดุ 7
5.นายประพันธ์ ไพรอังกูร นายช่างไฟฟ้า 5
6.นายปกรณ์ ปั้นจั่น นายช่างเขียนแบบ 4
7.นายสมศักดิ์ อยู่คง ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลศึกษากรุงเทพ
8.นายสมพงษ์ ผาสุก นายช่างโยธา 5
9.นายพีชเรข พิริยหะพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการกีฬา
10.นายพีระพงศ์ สุวรรณราช เจ้าหน้าที่พลศึกษา 6
11.นายบุญชู วงศ์กิจรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามอินเตอร์ แอร์ ซัพพลาย จำกัด
ข้อกล่าวหา 1 กรณีทุจริตโครงการก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ (คลอง 6) เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานประพฤติชั่วร้ายอย่างแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
ข้อกล่าวหา 2 กรณีทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารเรียนและอาคารประกอบ (อาคารอเนกประสงค์) สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ มีมูลเป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ ระวัดระวัง รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ และฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีลันโยบายของรัฐบาล โดยไม่ให้เสียหายแก่ราชการ
ให้ส่งรายงานเอกสาร และความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับผู้ฟ้องคดีตามมาตรฐานความผิดดังกล่าว
ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือให้ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแก่ผู้ฟ้องคดี และมีหนังสือแจ้งให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญากับผู้ฟ้องคดี
31 ส.ค.52 อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง
5 ต.ค.55 ศาลชั้นมีพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 11 คน (คดีหมายเลขแดงที่ อ.3669/2555)
8 พ.ค.57 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้องจำเลยทั้ง 11 คน (คดีหมายเลขแดงที่ 7688/2557)
ขณะที่การลงโทษทางวินัยนั้นนายวิทยาถูกกรมพลศึกษาไล่ออกจากราชการตามคำชี้มูลของ ป.ป.ช. เมื่อปี 2550
ส่วนความรับผิดทางละเมิด คณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดกรมพลศึกษามีมติว่าไม่มีผู้ใดต้องรับผิดชอบต้องชดใช้ค่าเสียหาย
26 ส.ค.54 กระทรวงการคลังมีความเห็นว่าผู้เกี่ยวข้องต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย รวมเป็นเงิน 25,271,544.70 บาท โดยให้นายสุวรรณ กู้สุจริต ชดใช้ เป็นเงิน 7,581,463.43 บาท นายพีชเรข พิริยหะพันธุ์ นายสมศักดิ์ อยู่คง นายสมเกียรติ ตงศริ นางไพเราะ เล็กชอุ่ม นายบัณฑิต ปลีหจินดา นายวิทยา วงษ์สมาน นายพีระพงศ์ สุวรรณราช นายสมพงษ์ ผาสุก นายประพันธ์ ไพรอังกูร และ นายปกรณ์ ปั้นจั่น ต้องรับผิดชดใช้คนละ 1,769,008.33 บาท และนายอุทัย พิมพ์ใจใส 1,263,577.24 บาท
7 พ.ย.56 นายวิทยาทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษา ขอความเป็นธรรม หลังจากศาลชั้นมีพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 11 คน
ตามมาด้วย ยื่นฟ้องศาลปกครอง ใน 3 ประเด็น
(1) เพิกถอนคำสั่งสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ ที่ 707/2550 เรื่อง ลงโทษไล่ออกจากราชการ ลงวันที่ 5 ธันวาคม 2550
(2) เพิกถอนคำวินิจฉับการพิจารณาอุทธรณ์ของสำนักงาน ก.พ.
(3) ให้ผู้ฟ้องคดีคืนสิทธิและผลประโยชน์ให้แก่ผู้ฟ้องคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่มีสำสั่งไล่ออกจากราชการจนถึงวันที่มีผลการพิจารณาของศาล
และฟ้องศาลปกครองเป็นคดีที่สอง ขอให้เพิกถอนคำสั่งกรณีชดใช้ค่าเสียหายในความผิดทางละเมิด
4 ก.ย.57 นายวิทยา ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษาติดตามผลการร้องขอความเป็นธรรม
4 ธ.ค.57 นายวิทยา ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษาติดตามผลการร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้ง
24 ธ.ค.57 นายวิทยา ทำหนังสือถึง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้ อ.ก.พ.กระทรวงการท่องเที่ยวฯพิจารณากรณีลงโทษไล่นายวิทยาออกจากราชการใหม่ และทำหนังสือถึงอธิบดี กรมพลศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกคำสั่งไล่ออกและคืนสิทธิความเป็นราชการ แต่กลับพิจารณาว่าให้รอคำพิพากษาของศาลปกครอง และเคยเสนอวิธีการไกล่เกลี่ยกับหน่วยงาน เพื่อที่จะให้เรื่องต่างๆยุติโดยชนะทั้งสองฝ่าย แต่มิได้รับความเห็นแต่อย่างใด
15 ก.ย.58 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้ร้องสอด ส่งคำให้การแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลปกครอง
17 ก.ย.58 นายวิทยา ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพลศึกษาให้พิจารณาตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
29 ก.ย.58 ศาลปกครองกลาง มีหนังสือถึงนายวิทยาให้ยื่นคำคัดค้านคำให้การของ ป.ป.ช.
17 พ.ย.58 นายวิทยา ยื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรมต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอพิจารณากลับเข้ารับราชการหลังจากศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินยกฟ้องไม่มีความผิดในคดีอาญาและคดีถึงที่สุด
ขณะนี้คดีของนายวิทยาอยู่ชั้นพิจารณาในศาลปกครอง
รวมระยะเวลาจากจุดเริ่มต้นจนถึงขณะนี้ 18 ปี ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
อ่านประกอบ:
อดีต ขรก.คดีทุจริตสนามกีฬา 2 พันล. ยื่น ‘ประยุทธ์’ ขอกลับรับราชการหลังศาลยกฟ้อง
เปิดคำพิพากษาคดีสร้างสนามกีฬา 2 พันล. พยานซัดกันนัว-ยกฟ้องอดีตอธิบดีกับพวก
เปิดคำให้การ ป.ป.ช.ซัดแหลกซี 7 -ศาล ปค.ไม่มีอำนาจ คดีทุจริตสนามกีฬาคลอง 6