ชัด ๆ เทียบรายได้-สัญญา‘บ.จักรภัทรฯ’ขาใหญ่ราย 2 คว้างาน อบจ.เชียงใหม่
โชว์รายได้‘บ.จักรภัทรฯ’ ขาใหญ่ราย 2 คว้างาน อบจ.เชียงใหม่ พบตั้งแต่ปี’54-58 ทำสัญญาไปแล้ว 12 รายการ วงเงิน 123 ล้าน เทียบรายได้เฉพาะปี’54-56-57 คว้างาน 113 ล้าน แต่แจ้งรายได้บริษัท 98 ล้าน ปี’55 ทำรายได้สูงสุด 69 ล้าน
กรณีบริษัท จักรภัทรการค้า จำกัด เป็นอีกบริษัทที่เข้ามาเป็นคู่สัญญาทำเสื้อกันหนาว ของดำหัว รวมถึงสารเคมีควบคุมไข้เลือดออกกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ จำนวนหลายสัญญา รวมมูลค่าประมาณ 123 ล้านบาท
สำหรับบริษัท จักรภัทรฯ ก่อตั้งเมื่อปี 2551 แต่เดิมใช้ชื่อ หจก.จักรภัทรฯ ต่อมาช่วงปี 2554 นายกฤตธรรม พลบุตร นำ ‘เงินสด’ จำนวน 39.5 ล้านบาท มาลงหุ้น และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ก่อนจะแปรสภาพกิจการเป็นบริษัทจำกัดเมื่อปี 2556 อย่างในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันได้เริ่มเข้ามาเป็นคู่สัญญากับ อบจ.เชียงใหม่ ในช่วงปี 2554-2556 (ช่วงเป็น หจก.) เท่าที่ตรวจสอบพบ 6 สัญญา เป็นรายการทำของดำหัว ผ้าห่มนวม เครื่องกันหนาว และชุดกิ๊ฟเซท รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 41 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อเป็นบริษัทจำกัด ยังคว้างานจาก อบจ. เชียงใหม่ นับตั้งแต่ปี 2556-2558 เท่าที่ตรวจสอบพบ 6 สัญญา เป็นรายการซื้อเสื้อกันหนาว ซื้อขายสารเคมีควบคุมโรคไข้เลือดออก ซื้อถุงยังชีพ ซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์ป้องกันโรคระบาดในฤดูหนาว และซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์ป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก จ.เชียงใหม่ รวมทุกวงเงินกว่า 159 ล้านบาท
(อ่านประกอบ :เจาะ‘บ.ขาใหญ่’ราย 2 คว้างาน อบจ.เชียงใหม่ รายได้รวม 6 ปี 190 ล.-เพิ่มทุนปี'54)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบรายได้ทั้งหมดของ หจก.จักรภัทรฯ กระทั่งแปรสภาพเป็นบริษัท จักรภัทรฯ เทียบกับสัญญางานจ้างกับ อบจ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2554-2558 เท่าที่ตรวจสอบ มีรายละเอียด ดังนี้
เมื่อปี 2554 หจก.จักรภัทรฯ (นายกฤตธรรม เพิ่งเข้าไปเป็นหุ้นส่วน และลงหุ้นด้วยเงิน 39.5 ล้านบาท พร้อมกับมีการแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์การประกอบธุรกิจหลายรายการ และผู้สอบบัญชีระบุว่า ประกอบธุรกิจหลักเป็นขายวัสดุอุปกรณ์ให้หน่วยงานรัฐ) เป็นคู่สัญญากับ อบจ.เชียงใหม่ 3 รายการ รวมมูลค่า 27.3 ล้านบาท
ได้แก่ 1.ซื้อของดำหัว 1 หมื่นชุด วงเงิน 2,050,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2554 2.ซื้อผ้าห่มนวม จำนวน 35,000 ผืน เสื้อกันหนาว 7,000 ตัว วงเงิน 7,315,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2554 3.ซื้อเครื่องกันหนาว วงเงิน 17,935,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2554
แจ้งรายได้ หจก. ทั้งหมด 17,393,495 บาท มีค่าใช้จ่าย 17,209,033 บาท มีกำไร 419,811 บาท
เมื่อปี 2555 เป็นคู่สัญญากับ อบจ.เชียงใหม่ 2 รายการ รวมมูลค่า 9,750,000 บาท
ได้แก่ 1.จ้างเหมาจัดทำชุด กิ๊ฟเซท จำนวน 5 หมื่นชุด วงเงิน 4,950,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2555 2.ซื้อผ้าห่มนวม 2 หมื่นผืน วงเงิน 4.8 ล้านาบาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2555
แจ้งรายได้ หจก. ทั้งหมด 69,890,616 บาท มีค่าใช้จ่าย 65,477,149 บาท มีกำไร 3,426,768 บาท
เมื่อปี 2556 (แปรสภาพกิจการเป็นบริษัทจำกัดแล้ว) เป็นคู่สัญญากับ อบจ.เชียงใหม่ 4 รายการ รวมมูลค่า 49,545,000 บาท
ได้แก่ 1.ซื้อของดำหัว วงเงิน 3,950,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2556 2.ซื้อถุงยังชีพ จำนวน 3,000 ถุง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วงเงิน 1.2 ล้านบาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2556 3.ซื้อสารเคมีป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก วงเงิน 12,715,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2556 4.ซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ตามโครงการเตรียมพร้อมป้องกันและควบคุมโรคระบาดในฤดูหนาว วงเงิน 31,680,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2556
แจ้งรายได้บริษัททั้งหมด 46,550,467 บาท มีค่าใช้จ่าย 43,570,128 บาท มีกำไร 2,415,192 บาท
เมื่อปี 2557 เป็นคู่สัญญากับ อบจ.เชียงใหม่ 1 รายการ ได้แก่ ซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก จ.เชียงใหม่ วงเงิน 36,540,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2557
แจ้งรายได้บริษัททั้งหมด 34,233,644 บาท มีค่าใช้จ่าย 32,055,597 บาท มีกำไร 1,793,496 บาท
ขณะที่ในปี 2558 เป็นคู่สัญญากับ อบจ.เชียงใหม่ 2 รายการ รวมมูลค่า 34,360,000 บาท
ได้แก่ 1.ซื้อเสื้อกันหนาว จำนวน 125,000 ตัว วงเงิน 12 ล้านบาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2558 2.ซื้อขายสารเคมีตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก จ.เชียงใหม่ วงเงิน 22,360,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2558
ส่วนรายได้ในปี 2558 บริษัท จักรภัทรฯ ยังไม่ได้นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
รวม 5 ปีทำสัญญาจ้างกับ อบจ.เชียงใหม่ 12 สัญญา รวมวงเงินกว่า 123 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 5 ปี ประมาณ 167 ล้านบาท
ทั้งนี้น่าสังเกตว่า รายได้ต่อปีของ หจก.จักรภัทรฯ กระทั่งแปรสภาพเป็นบริษัท จักรภัทรฯ ไม่ตรงกันกับสัญญาที่ทำกับ อบจ.เชียงใหม่ เช่น
ปี 2554 คว้างาน 3 สัญญา 27.3 ล้านบาท แจ้งรายได้ 17.3 ล้านบาท น้อยกว่ามูลค่าสัญญาประมาณ 10 ล้านบาท
ปี 2555 คว้างาน 2 สัญญา 9.75 ล้านบาท แจ้งรายได้กว่า 69 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าสัญญาประมาณ 60 ล้านบาท
ปี 2556 คว้างาน 4 สัญญา 49.5 ล้านบาท แจ้งรายได้ 46.5 ล้านบาท น้อยกว่ามูลค่าสัญญาประมาณ 3 ล้านบาท
ปี 2557 คว้างาน 1 สัญญา 36.5 ล้านบาท แจ้งรายได้ 34.2 ล้านบาท น้อยกว่ามูลค่าสัญญาประมาณ 2 ล้านบาท (ดูตารางประกอบ)
อย่างไรก็ดีอาจเป็นไปได้ว่า ในช่วงปี 2555 หจก.จักรภัทรฯ อาจรับงานจากหน่วยงานราชการอื่น ๆ ทำให้ปีดังกล่าวมีรายได้สูงมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา
แต่ในปี 2554 2556 และ 2557 ทำไมจึงแจ้งรายได้น้อยกว่าสัญญางานที่ได้รับจาก อบจ.เชียงใหม่ เป็นปริศนาที่ต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป !
ปี |
สัญญางาน อบจ.เชียงใหม่ |
รายได้ของบริษัท |
ส่วนต่าง |
2554 |
27.3 ล้านบาท |
17.3 ล้านบาท |
10 ล้านบาท |
2555 |
9.75 ล้านบาท |
69 ล้านบาท |
60 ล้านบาท |
2556 |
49.5 ล้านบาท |
46.5 ล้านบาท |
3 ล้านบาท |
2557 |
36.5 ล้านบาท |
34.2 ล้านบาท |
2 ล้านบาท |
รวม |
123 ล้านบาท |
167 ล้านบาท |
75 ล้านบาท |
อ่านประกอบ :
เปิดรายที่สอง'ขาใหญ่' ผูกขายเครื่องกันหนาว-ดำหัว อบจ.เชียงใหม่ 7 สัญญา 53 ล.
พบอบจ.เชียงใหม่ ซื้อเสื้อกันหนาวอีก4 สัญญา19 ล. บ.ผ้าห่มเจ้าเดิมกวาดเรียบ
ถึงคิว!อบจ.เชียงใหม่ซื้อผ้าห่มบิ๊กลอต27ล. บ.ตั้งใหม่ 4 ด.-ขรก.โผล่ถือหุ้น
โชว์ผ้าการันตีถูกกว่า'สำเพ็ง'! เปิดตัว บ.ตั้งใหม่ ขายผ้าห่มอบจ.เชียงราย 15ล.
8 หมื่นผืน 15 ล.! อบจ.เชียงราย ทุ่มซื้อผ้าห่มบ.ของเล่น เพิ่งตั้งใหม่เดือนครึ่ง
คว้างาน อบจ.94 ล.!เส้นทาง 'นิวไลฟ์ฯ' ก่อนขายผ้าห่มอุดรธานี บิ๊กลอต 27ล.
เปิดทาวน์เฮ้าส์ร้าง!ที่ตั้งบ.นิวไลฟ์ฯ คู่สัญญาขายผ้าห่ม อบจ.อุดรฯ บิ๊กลอต 27ล.
ข้อมูล'อิศรา'เห็นผล! สตง.สั่งสอบ อบจ.อุดรฯ จัดซื้อผ้าห่มบิ๊กลอต 27 ล.
เปิดอีก2 สัญญา จัดซื้อผ้าห่ม อบจ.อุดรฯ -บ.คอมย่านปทุมฯ กวาดเรียบ 13 ล.
ไม่ใช่แค่กาฬสินธุ์!อบจ.อุดรฯ ซื้อผ้าห่มแจกบิ๊กลอต 27ล. เฉลี่ยผืนละ 220 บ.
ซื้อแจกซ้ำซาก บางบ้านได้กว่า 20 ผืน! สตง.สรุปผลสอบแจกผ้าห่ม จ.กาฬสินธุ์
หมายเหตุ : ภาพประกอบพันธบัตรจาก tlcthai.com, ภาพถุงยังชีพจาก mthai, ภาพเสื้อกันหนาวจาก blogspot