"พูโล"อ้างเป็นเจ้าของ"จรวดแสวงเครื่อง" ขู่ถล่มฐานทหาร เตือนชาวบ้านออกห่าง
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าเก็บกู้ “จรวดแสวงเครื่อง” ซึ่งเป็นวัตถุระเบิดชนิดใหม่ที่พบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริเวณคูน้ำกลางถนน พื้นที่ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมานั้น
จากการตรวจสอบที่ตัวจรวดและหัวจรวดเพิ่มเติม พบสติ๊กเกอร์รูปธงชาติ คล้ายธงของขบวนการพูโล และสติ๊กเกอร์คำว่า NAMPRA ARMY ติดอยู่ที่ตัวจรวด และใต้หัวจรวด
ผลการตรวจสอบเชิงลึกโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่า สติ๊กเกอร์ธงชาตินั้น เป็นธงของขบวนการพูโล เอ็มเคพี (PULO MKP) ที่มี นายกัสตูรี่ มาห์โกตา เป็นหัวหน้า โดยกลุ่มนี้แยกตัวออกมาจากกลุ่มพูโลเก่าเมื่อหลายปีก่อน และนายกัสตูรี่ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม จากเดิมเป็นโฆษกของกลุ่มพูโลเก่า
ส่วนคำว่า NAMPRA ARMY เป็นชื่อกองกำลัง ย่อมาจากคำในภาษามาเลย์ว่า Negara Melayu Patani Raya อาจแปลเป็นไทยได้ว่า กองทัพแห่งชาติมาลายูปาตานี ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อกองกำลังพูโลในอดีต เคยมีชื่อเสียงในระหว่างปี 2519-2533
มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มพูโล เอ็มเคพี ที่สอดรับกับห้วงเวลาการพบจรวดแสวงเครื่อง โดย นายกัสตูรี มาห์โกตา ผู้นำกลุ่ม ออกมายอมรับผ่านเว็บเฟซบุ๊คส่วนตัวทันทีที่มีข่าวพบจรวดแสวงเครื่องที่ปัตตานีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่งบอกถึงพัฒนาการของกลุ่มที่อยู่พื้นที่
ขณะที่แถลงการณ์ของกลุ่มพูโล ในโอกาสครบรอบ 48 ปีของการสถาปนาองค์กร วันที่ 22 มกราคม 2559 ก็อ้างว่าพูโลจำเป็นต้องใช้แนวทางที่แข็งกร้าว ไม่ว่าในพื้นที่หรือในระดับนานาชาติเพื่อกดดันรัฐบาลไทย
ต่อมาวันที่ 29 มกราคม 2559 พูโลออกแถลงการณ์ทั้งภาษามลายูและภาษาอังกฤษ ผ่านเว็บไซต์ puloinfo.net ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการชั่วคราวของพูโล เอ็มเคพี เพราะเว็บไซต์หลักอยู่ระหว่างการพัฒนา
เนื้อหาของแถลงการณ์จั่วหัวเป็นคำเตือนว่า “จงหลีกเลี่ยงสถานการณ์ปั่นป่วน” และว่าสืบเนื่องจากวันที่ 22 มกราคม 2559 กลุ่มพูโลได้เฉลิมฉลองวันครบรอบการสถาปนากลุ่มครบ 48 ปี ด้วยการโจมตีด้วยจรวดต่อค่ายทหารของไทยในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส โดยกองกำลังแห่งชาติมลายูปาตานี หรือ NAMPRA ARMY จึงขอเตือนให้ประชาชนทั่วไปทั้งมลายูและไทย อยู่ห่างจากค่ายทหารตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพราะพูโลจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดขึ้น
ส่วนเว็บเพจ infopatani pulo อ้างว่า จรวดแสวงเครื่องที่พบในปัตตานี เป็นระเบิดที่ผลิตขึ้นเองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส
จากความเคลื่อนไหวทั้งหมด ทั้งการพบจรวดแสวงเครื่อง และการปะติดปะต่อข้อมูลจากสื่อออนไลน์ ต้องยอมรับว่านับเป็นหลักฐานแรกที่ยืนยันว่า กลุ่มพูโล เอ็มเคพี มีกองกำลังและอาจมีศักยภาพในการก่อเหตุรุนแรงได้ จากเดิมที่เข้าใจมาตลอดว่าเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในเวทีต่างประเทศเท่านั้น
ในแถลงการณ์ของพูโล ยังเอ่ยชื่อกลุ่มที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับ NAMPRA ARMY หรือกองกำลังแห่งรัฐมลายูปาตานี ด้วย คือ Asyahid Pak Wae หรือ อัสชาฮีด เปาะแว จากเครือข่าย Asyahid Muzafar Khairudin หรือ อัสชาฮีด มูซาฟาร์ คอยรุดดิน โดยระบุว่าอยู่ภายใต้กองกำลังแห่งรัฐมลายูปาตานี คาดว่าหมายถึงกลุ่มที่ประกอบจรวดแสวงเครื่อง
แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์ว่า การออกแถลงการณ์ของพูโล เอ็มเคพี น่าจะเพื่อยืนยันว่ากลุ่มของตนมีกองกำลังอยู่จริง และมีศักยภาพในการก่อเหตุในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมากลุ่มพูโลไม่ค่อยได้รับความสนใจจากสื่อและรัฐบาลไทยมากนัก เพราะเชื่อว่าไม่สามารถสั่งการกองกำลังในพื้นที่ได้ และไม่มีกองกำลังของตนเอง โดยบางฝ่ายยังตั้งคำถามว่าพูโลเป็น “ตัวจริง” ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่หรือไม่
อย่างไรก็ดี ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มพูโล เอ็มเคพี สร้างสถานการณ์เรื่องจรวดแสวงเครื่องขึ้นมาเพื่อกล่าวอ้างถึงศักยภาพของกลุ่มเท่านั้น ทั้งๆ ที่อาจไม่มีศักยภาพอยู่จริง เพราะจรวดแสวงเครื่องที่พบ ซึ่งถูกระบุว่ามีทั้งหมด 5 ลูก ระเบิดไปแล้ว 3 ลูก ยังไม่พบว่าสร้างความเสียหายให้กับฐานทหารหน่วยใดเลย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : แถลงการณ์ของกลุ่มพูโล กับจรวดแสวงเครื่องที่ติดสติ๊กเกอร์ NAMPRA ARMY