สแกนทรัพย์สิน 347 ล. ‘เสี่ยชูวิทย์’ก่อนศาลสั่งจำคุก 2 ปีคดีรื้อบาร์เบียร์
สแกนทรัพย์สิน 347 ล้าน ‘เสียชูวิทย์’ ที่ดิน 8 แปลง 79.9 ล้าน บ้าน-คอนโด 10.2 ล้าน สะสมปืน 1.7 ล้าน ของลูกยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน 255 ล้าน เงินลงทุน 8 แห่ง 182 ล้าน ช่วงปี’55 แบ่งสมบัติบางส่วนให้ลูก 5 คน 596 ล้าน ดูแล 7 บริษัทแล้ว
ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาชื่อของ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์’ อดีต ส.ส.พรรครักประเทศไทย ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง
ภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีรื้อบาร์เบียร์ ที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายร้อยคน พร้อมรถแบกโฮบุกพังร้านบาร์เบียร์ บริเวณสุขุมวิทสแควร์ ซอยสุขุมวิท 10 เมื่อราวต้นปี 2546 โดยศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำคุกนายชูวิทย์ 5 ปี ไม่รอลงอาญา ทว่าในชั้นศาลฎีกานายชูวิทย์ให้การรับสารภาพ และได้เยียวยาผู้เสียหายไปแล้วบางส่วน ทำให้ศาลลดโทษให้ดังกล่าว
แต่ในอีกบทบาทหนึ่งนายชูวิทย์ ก็เป็นนักการเมืองที่สร้างสีสันให้กับวงการตลอดนับตั้งแต่ได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายชูวิทย์ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครั้งล่าสุดช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส. 1 ปี เมื่อ 9 ธ.ค. 2557 พบรายละเอียด ดังนี้
นายชูวิทย์ แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 92,688,675 บาท
ได้แก่ เงินฝาก 6 บัญชี 251,675 บาท เงินลงทุน 8 แห่ง 445,000 บาท ที่ดิน 8 แปลง 79,922,000 บาท (อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 7 แปลง กทม. 1 แปลง) บ้าน 1 แห่ง (เขตสายไหม กทม.) คอนโดฯ 2 ห้อง 10.2 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน 1 แสนบาท (เบนซ์รุ่นหางปลา) ทรัพย์สินอื่น (อาวุธปืนทั้งหมด) 1,770,000 บาท มีหนี้สิน 2,229,342 บาท
บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (ขณะนั้นมี 2 คน จากทั้งหมด 5 คน) มีทรัพย์สิน 255,097,038 บาท
ได้แก่ เงินฝาก 8 บัญชี 1,224,538 บาท เงินลงทุน 8 แห่ง 182,954,000 บาท เงินให้กู้ยืม 10 ล้านบาท (ให้ บมจ.ธิสโก้ กู้ยืมเมื่อ 19 ต.ค. 2557 2 ครั้ง ๆ ละ 5 ล้านบาท) ที่ดิน 8 แปลง 60,718,500 บาท (กทม. 4 แปลง สมุทรปราการ 4 แปลง) บ้าน 1 หลัง (สมุทรปราการ) 2 แสนบาท
รวมเบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 347,785,714 บาท
ขณะเดียวกันในช่วงเวลาดังกล่าว นายชูวิทย์ ได้มอบที่ดินให้แก่บุตร 2 คน รวม 5 แปลง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ได้แก่ ยกให้ น.ส.ตระการตา กมลวิศิษฐ์ 3 แปลง เมื่อ 11 พ.ย. 2557 รวมมูลค่า 6,048,000 บาท และยกให้นายต้นตระกูล กมลวิศิษฐ์ 2 แปลง เมื่อ 11 พ.ย. 2557 รวมมูลค่า 4,032,000 บาท
สำหรับบุตรของนายชูวิทย์นั้นมี 5 คน เป็นบุตรในสมรส 4 คน และบุตรนอกสมรส (รับรองแล้ว) 1 คน ได้แก่ นายต้นตระกูล นายเติมตระกูล น.ส.ตระการตา นายต่อตระกูล และเด็กหญิงดวงตระการ
โดยในช่วงปี 2555 สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า นายชูวิทย์ได้โอ้นหุ้น 7 บริษัทที่ตัวเองถือครองให้กับบรรดาลูก ๆ ไปบางส่วนแล้ว ได้แก่หุ้นบริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด บริษัท ต้นตระกูล จำกัด บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด บริษัท ภาคิฌาน จำกัด บริษัท ทรัพย์สินตระการตา จำกัด บริษัท บุญต่อตระกูล จำกัด และบริษัท เดวิส ซิลเวอร์ สตาร์ แมเนจเมนท์ จำกัด
โดยนายต้นตระกูล เติมตระกูล น.ส.ตระการตา และนายต่อตระกูล ได้รับหุ้นเท่ากันทั้งหมด คนละ 149,524,000 บาท (รวมมูลค่า 598,096,000 บาท) ส่วนเด็กหญิงดวงตระการ ได้หุ้นเพียง 1 บริษัท คือ บริษัท ภาคิฌาน จำกัด 33,430,000 บาท
ขณะที่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ระบุไว้ชัดเจนว่า กรณีของนายชูวิทย์ เป็นความผิดทางอาญา ไม่ใช่ความผิดทางลหุโทษ ดังนั้นเมื่อพ้นโทษออกมาจะต้องถูกเว้นวรรคทางการเมือง 10 ปี
อ่านประกอบ :
เอ็กซเรย์ 347 ล.“ชูวิทย์”พ้น ส.ส. 1 ปี เงินลงทุนลูกวูบ 150 ล.-ให้กู้แบงก์ 10 ล.
ไขปมทรัพย์สิน“เสี่ยชูวิทย์”หายปริศนา 335 ล้าน -ขายทิ้งที่ดิน 11 แปลง
5 หนุ่มสาว“กมลวิศิษฏ์”ทายาท“ชูวิทย์”เศรษฐีหุ้น 640 ล้าน
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายชูวิทย์ จาก keela360.com