ทหารหญิงชายแดนใต้ร้องนายกฯอนุญาตสวมฮิญาบ
ชมรมทหารหญิงอิสลามชายแดนใต้ ได้ทำหนังสือในนามชมรมฯ ส่งถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้กองทัพอนุมัติให้ทหารหญิงสามารถคลุมฮิญาบประกอบเครื่องแบบในขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้
เนื้อหาในหนังสือให้เหตุผลว่า ปัจจุบันมีข้าราชการทหารที่เป็นผู้หญิงที่นับถือศาสนาอิสลามปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนจำนวนไม่น้อย และได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างอุตสาหะ ทุ่มเท แต่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่เคร่งครัดในเรื่องวัฒนธรรมการแต่งกาย การออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ ของทหารหญิงอิสลามจึงอาจเป็นเป้าหมายเพ่งเล็งของฝ่ายตรงข้ามได้
จึงขอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการไปยังกระทรวงกลาโหม ออกคำสั่งอนุญาตให้กำลังพลหญิงที่นับถือศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถคลุมฮิญาบประกอบกับเครื่องแบบในขณะออกปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน
สวมฮิญาบลงพื้นที่ปลอดภัยกว่า
ทหารหญิงมุสลิมรายหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ทำหน้าที่ด้านธุรการ และมีเพื่อนอีกหลายคนที่ทำหน้าที่นี้ เวลาอยู่บ้านก็ใส่ผ้าคลุมผม ปกปิดร่างกายตามหลักศาสนาอิสลาม แต่เวลาทำงานต้องถอดผ้าคลุมผมออก ต้องเปิดผมให้คนอื่นเห็น ทั้งที่ผิดหลักศาสนา แต่ก็ต้องยอมทำเพราะอาชีพ กลายเป็นเหตุผลให้ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบนำไปสร้างเงื่อนไขทำลายข้าราชการ ทั้งๆ ที่ความเป็นมุสลิมทำให้สามารถเดินทางเข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนได้สะดวกกว่า
“เขา (ขบวนการผู้ก่อความไม่สงบ) จะไปบอกชาวบ้านว่า คนที่ทำงานกับ ภาครัฐจะต้องทำตามรัฐ ต้องยอมเปิดแม้กระทั่งเส้นผม ทั้งที่รู้ว่าบาป ทั้งที่รู้ว่าคือไปนรก เรารู้มาตลอดว่ามีการพูดแบบนี้ สร้างกระแสแบบนี้ ก็พยายามขอกับผู้บังคับบัญชา เพื่อขอใส่ผ้าคลุมผมเวลาลงพื้นที่ แต่ผู้บังคับบัญชาก็ไม่ยอมให้ใส่”
ทหารหญิงรายนี้ สรุปว่า จากปัญหาที่ประสบมาทำให้ต้องมาคุยกับเพื่อนทหาร ที่เป็นมุสลิมด้วยกัน และมีมติให้ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยอนุญาตให้ทหารหญิงที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉพาะที่ทำหน้าที่ธุรการ และทำหน้าที่พบปะมวลชน สามารถใส่ผ้าคลุมผม หรือ ฮิญาบ
“พวกเราคิดว่าท่านนายกฯจะเข้าใจความรู้สึกของทหาร และเชื่อว่าท่านเข้าใจหัวอกทหารด้วยกันว่ามีอุปสรรคแค่ไหนถ้าชาวบ้านมองเราอยู่คนละฝ่าย เวลาเข้าพื้นที่ ชาวบ้านจะมองเราไม่ค่อยเป็นมิตร เพราะเขามองว่าเราไม่มีผ้าคลุม แต่เขามีผ้าคลุม มองเราไม่เหมือนเขา มองเราต่างจากเขา แต่ด้วยภารกิจที่จะต้องทำให้ชาวบ้าน มองเราเป็นมิตร เป็นพวกเดียวกัน สิ่งนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งเวลาทำงานในพื้นที่ จึงอยากให้นายกฯเข้าใจ และมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะช่วยพวกเราได้ อยากให้เรื่องนี้ถึงนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว”
สละสิทธิ์เข้าตำรวจเหตุห้ามสวมฮิญาบ
ด้าน นางสาวต่วนไสนี (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปสมัครเพื่อเป็นข้าราชการตำรวจของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) หลังทราบว่าตำรวจธุรการสามารถสวมผ้าคลุมผมปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่เมื่อไปสมัครจริงๆ เจ้าหน้าที่ของ ศชต.บอกว่า วันสอบคัดเลือกไม่สามารถใส่ผ้าคลุมได้ จนกว่าจะมาเป็นข้าราชการ ทำให้ต้องตัดสินใจไม่ไปคัดเลือก
“ฉันคิดว่าในเมื่อเรายังไม่ได้เป็นข้าราชการ ถึงอย่างไรเรามีสิทธิ์ใส่ชุดไหนก็ได้ที่สุภาพ โดยไม่ใช่ว่าต้องถอดผ้าคลุมผม ซึ่งมันบาป ขนาดยังไม่ได้เป็นข้าราชการเขายังไม่ให้ใส่ แล้วถ้าเป็นแล้ว คงมีทางบีบให้เราไม่ใส่อีกจนได้ อยากเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการอิสลามในพื้นที่ ดำเนินการเรื่องนี้กับรัฐบาลให้ชัดเจน มีคำสั่งที่สามารถปฏิบัติได้จริงเสียที”
กอ.รมน.บอกยังไม่มีกำลังพลร้องขอ
ด้าน พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ปัจจุบันการแต่งเครื่องแบบของทหารยังเป็นไปตามกฎระเบียบของกระทรวงกลาโหม เรื่องนี้ยังไม่มีการร้องขอจากทหารหญิงมุสลิมที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ แต่หากมีการร้องขอ ก็จะเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะต้องดำเนินการแก้ไขระเบียบ
ทหารอ้างไม่เคยมีชมรมทหารหญิงอิสลาม
มีข้อมูลเพิ่มเติมจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ว่า ไม่เคยมีการตั้งชมรมทหารหญิงอิสลามชายแดนใต้ แต่บรรดาทหารหญิงที่ออกมาเคลื่อนไหวและเผยแพร่เอกสารทางโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่ามีชมรมนี้จริงในพื้นที่ แต่ไม่ได้เปิดตัวและไม่มีสำนักงาน เนื่องจากหากเปิดตัว เปิดสำนักงาน จะต้องถูกไล่ออกจากราชการอย่างแน่นอน
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยออกคำสั่งอนุญาตให้ตำรวจหญิงมุสลิมสวมฮิญาบในขณะปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว แต่ไม่เคยมีความเคลื่อนไหวใดๆ จากฝ่ายกองทัพ แม้ว่าจะมีกระแสเรียกร้องมาหลายครั้ง
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบระเบียบและคำสั่งต่างๆ ของกระทรวงกลาโหม ก็ไม่พบการห้ามสวมฮิญาบอย่างชัดเจน จึงคาดว่าเป็นแนวปฏิบัติของฝ่ายทหารที่จะไม่สวมผ้าคลุมหรืออาภรณ์ใดๆ นอกเหนือจากเครื่องแบบที่กำหนดไว้ตามระเบียบ ทำให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยไม่อนุญาตให้กำลังพลหญิงสวมฮิญาบ