ไอเอสป่วนมาเลย์หนัก – ไทยกลับลำปัดข่าวเข้านราฯ – พบปมใส่ไคล้
มีความเคลื่อนไหวอย่างหนักของเครือข่ายรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ในมาเลเซีย ขณะที่รัฐบาลไทยกลับลำ ปัดข่าวผู้ต้องสงสัยเข้านราธิวาส
เครือข่ายไอเอสในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ใช้ชื่อว่า “กาติบาห์ นูซันตารา” เผยแพร่คลิปวีดีโอภาษามาเลย์ ขู่ตอบโต้มาเลเซียที่เร่งปราบปรามและจับกุมสมาชิกของกลุ่ม
คลิปวีดีโอชุดนี้มีชื่อว่า "ข้อความสาธารณะสำหรับมาเลเซีย" มีเนื้อหาท้าทายอย่างแข็งกร้าว โดยเตือนว่า "หากคุณจับเรา สมาชิกของเราก็เพียงแค่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าคุณปล่อยเราไว้อย่างนี้ เราก็จะยิ่งเข้าใกล้เป้าหมายในการนำหลักการของกาหลิบมาใช้มากยิ่งขึ้น”
สำหรับ “กาหลิบ” หมายถึงผู้นำทั้งทางการเมืองและศาสนาในโลกมนุษย์ของอิสลาม
นอกจากนี้ยังมีวีดีโออีกชุดหนึ่ง ความยาว 1 นาทีเศษ มีสมาชิกกลุ่มกาติบาห์ “นายอับดุล ฮาลิด ดารี” พูดภาษามาเลย์เรียกร้องให้พี่น้องกลุ่มอัล-ชาบับของโซมาเลีย เข้ามาร่วมทำสงครามศักดิ์สิทธิ์กับไอเอส และให้อัล-ชาบับประกาศความจงรักภักดีต่อหัวหน้ากลุ่มไอเอส “นายอาบู บาการ์ อัล-บาดาดี” พร้อมเข้าร่วมรบในซีเรียอย่างแท้จริง
ด้านหัวหน้าหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสาขาพิเศษบูกิตอามาน ของมาเลเซีย นายอายุบ ข่าน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ม.ค.59 ว่า คำขู่และการท้าทายต่อรัฐบาลมาเลเซียตรงๆ สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีที่กล้าเผชิญหน้าของกลุ่มกาติบาห์ ซึ่งหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายจะเฝ้าระวังให้มากขึ้น เพราะการโจมตีอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ พร้อมย้ำว่าหน่วยข่าวกรองที่เชื่อถือได้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันไม่ให้การโจมตีเกิดขึ้นในมาเลเซีย
สำหรับกลุ่มกาติบาห์ เชื่อกันว่า มีนักรบมากกว่า 200 คนจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย คนเหล่านี้กระหายอยากกระทำภารกิจพิเศษ รวมทั้งการเป็นพลแม่นปืนและเป็นมือระเบิดพลีชีพ ซึ่งกลุ่มกาติบาห์นั้นถูกจับตามองจากหน่วยข่าวกรองเมื่อ 2 ปีก่อน ล่าสุดตำรวจอินโดนีเซียระบุว่า นายบาห์รูน นาอิม นักรบของกลุ่มกาติบาห์อินโดนีเซีย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดและกราดยิงในกรุงจาการ์ตาเมื่อวันที่ 14 ม.ค.59
รวบ 7 ผู้ต้องสงสัยมีแผนโจมตีมาเลย์
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจมาเลเซียจับกุมชาย 7 คน ที่ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ซึ่งกำลังวางแผนโจมตีมาเลเซีย
ข่าวดังกล่าวมาจากการเปิดเผยของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย พล.ต.อ.คาหลิด อาบู บาการ์ ที่ว่าการจับกุมชาย 7 คนดังกล่าว เป็นปฏิบัติการขยายผลหลังการจับกุมชายชาวมาเลเซียรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ม.ค.59 ขณะกำลังวางแผนโจมตีในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยใช้ระเบิดฆ่าตัวตาย การจับกุมผู้ต้องสงสัย 7 คนนี้ เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางได้จำนวนมาก รวมทั้งธงและวีดีโอของกลุ่มไอเอส มีข้อมูลระบุว่าทั้งหมดกำลังวางแผนโจมตีสถานที่สำคัญทั่วมาเลเซีย โดยมีหัวหน้าเครือข่ายเป็นชายวัย 31 ปี ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกแม่บ้านของโรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐยะโฮร์ รัฐทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งชายคนนี้ถูกจับกุมด้วย
รัฐประสานเสียงไทยปลอดไอเอส
ด้านความเคลื่อนไหวในประเทศไทย ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานเสียงยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ม.ค.59 ว่าไม่มีสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส เข้ามาในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น 1 วันเพิ่งยอมรับว่ามีข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของบุคคลต้องสงสัยเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส เข้าไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามข่าวที่ปรากฏช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวบุคคลต้องสงสัยอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสเดินทางเข้ามาในประเทศไทยนั้น ปรากฏเป็นข่าวแจ้งเตือนของหน่วยงานความมั่นคงบางหน่วย โดยพื้นที่ที่เข้าไป คือ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดย พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ ก็ยอมรับว่ามีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าไปพบปะกับผู้นำศาสนา พร้อมบริจาคเงินให้กับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่ง
ขณะที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้ปฏิเสธข่าวนี้ในช่วงแรก เพียงแต่ไม่ได้พูดในรายละเอียด โดยอ้างเหตุผลทางความมั่นคง
อย่างไรก็ดี จากการให้ข่าวของผู้เกี่ยวข้องล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ม.ค. กลับปฏิเสธข่าวดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องข่าวไอเอสในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องการเข้าไปตรวจสอบบุคคลที่ต้องสงสัย ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วไม่ใช่ เรื่องนี้ไม่ได้ปิดบัง เพียงแต่จะต้องมีกระบวนการยุติธรรม เลยบอกแล้วว่าอย่าเพิ่งมาถาม ซึ่งตอนนี้ได้ตรวจสอบกับทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันว่าไม่ใช่ ตรวจสอบในพื้นที่ภาคใต้เองก็ยืนยันว่าไม่ใช่
สิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังคือ วันนี้หลายประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ประเทศเพื่อนบ้านมีการเอาผู้ต้องสงสัยส่งกลับไปประเทศเหมือนกัน คนที่หน้าตาคล้ายๆ อันตราย อย่าให้มีปัญหาเลย อย่าให้มีคนเหล่านี้เข้ามา เพราะไทยไม่ได้ขัดยแงกับใคร แต่ไทยต้องสนับสนุนมติองค์การสหประชาชาติในการร่วมมือกันป้องกันการก่อการร้าย รวมถึงร่วมมือด้านการข่าว และมาตรการเฝ้าระวังสนามบิน ท่ารถ ท่าเรือ ขอให้ช่วยกันดูว่าจะทำอย่างไร อาจจะมีรูปผู้ต้องสงสัยเหมือนปฏิทินแปะไว้ เป็นปฏิทินคนที่ต้องพึงระมัดระวัง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีกลุ่มไอเอสเข้ามาในประเทศไทย ส่วนข่าวจากสื่อบางแขนงที่อ้างว่ามีการจับกุมกลุ่มที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้ที่จังหวัดนราธิวาสนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะได้ตรวจสอบแล้ว ไม่มีการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสตามที่เป็นข่าว แต่ทราบว่าเป็นเรื่องการจับกุมคนที่ยิงปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลรายหนึ่ง ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่สื่อบางสำนักไปลงกันเอง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงเรื่องเดียวกันว่า ข่าวที่ว่ากลุ่มไอเอสเข้าไปที่จังหวัดนราธิวาสนั้นเป็นแค่ข่าวลือ เป็นข่าวสารที่สับสน คำสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีบอกเพียงว่าจะตรวจสอบ ไม่ได้มีการจับกุมหรือบอกว่ามีกลุ่มไอเอส ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบยืนยันแล้วว่าไม่มี ส่วนมาตรการเฝ้าระวังนั้นคงต้องใช้ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน
กอ.รมน.บอกยังไม่ชัดแนวคิดไอเอสแพร่ไทย
พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. กล่าวเช่นกันว่า กอ.รมน.ได้ตรวจสอบกับหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ทุกหน่วยแล้ว ไม่พบมีการจับกุมตามที่เป็นข่าว และจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ รอง ผอ.รมน. มีความห่วงใยการรับรู้ของสาธารณชนต่อประเด็นข่าวที่มีความอ่อนไหวลักษณะนี้
และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน จึงขอชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวคิดตามอุดมการณ์ของกลุ่มรัฐอิสลามในประเทศไทย แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วยยังคงปฏิบัติงานด้วยความไม่ประมาท และเพิ่มมาตรการติดตาม เฝ้าระวัง ตั้งแต่การผ่านเข้า-ออกประเทศของบุคคลผู้ต้องสงสัยตามการประสานข้อมูลของประชาคมข่าวระหว่างประเทศ รวมตลอดถึงความเคลื่อนไหวการเผยแพร่แนวคิดและชักชวนกันในสังคมออนไลน์
ส่วนความเกี่ยวข้องระหว่างกลุ่มไอเอสกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น หากผู้ใดมีข้อมูลชัดเจนแล้ว ขอให้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์โดยปราศจากข้อเท็จจริง
อ้างข้อมูลใหม่มีการใส่ไคล้
ด้านคนสนิทของบาบอ ผู้ได้รับใบอนุญาตเปิดการเรียนการสอนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งใน อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่ถูกระบุว่ามีบุคคลต้องสงสัยอาจเกี่ยวพันกับกลุ่มไอเอสเข้าพบ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตรวจสอบแล้วไม่มีความจริง เป็นปัญหาภายในที่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการเมืองจากกรณีที่จะมีการเลือกอิหม่ามคนใหม่ในพื้นที่ จึงมีบางฝ่ายให้ข่าวทำลายบาบอรายนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเต็ง และนำข่าวเท็จไปบอกเจ้าหน้าที่รัฐ จนกลายเป็นเรื่องขึ้นมา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายอับดุล ฮาลิด (คนซ้าย) ในคลิปวีดีโอปลุกระดมให้เข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส
ขอบคุณ :
1 ภาพประกอบจากเว็บไซต์ The Star Online (ลิงค์ต้นฉบับ : http://www.thestar.com.my/news/nation/2016/01/25/militants-threaten-revenge-is-wing-warns-malaysia-for-stepping-up-campaign-against-group/)
2 ข่าวที่แปลจากสำนักข่าวต่างประเทศ โดยทีมข่าวต่างประเทศ สถานีโทรทัศน์ NOW26