เจาะเงินลงทุน 117 ล.‘สมยศ’ก่อนขายหุ้น‘เอคิว’ชิงดำนายกบอลไทย
เจาะเงินลงทุน 117 ล้าน ‘พล.ต.อ.สมยศ’ ก่อนเทขายหุ้น ‘เอคิว’ ให้ ‘เสี่ยโนอาร์-ลูก’ 750 ล้าน ลงชิงดำเก้าอี้นายกบอลไทย ถือครองหุ้น บจก.แอสเซ็ท มิลเลี่ยน มากสุด 101 ล้าน ถือครอง บล.เอเซียพลัส รวมกว่า 33 ล้าน
หลายคนคงทราบไปแล้วว่า ‘บิ๊กอ๊อด’ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกำลัง 'คั่ว' ตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยนั้น
ได้ขายหุ้นบริษัท เอคิว แอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิมคือบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ให้กับ ‘บุตร’ และ ‘เสี่ยโนอาร์’ หรือนายกำพล วีระเทพสุภรณ์ นักธุรกิจชื่อดัง รวมมูลค่าทั้งหมด 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินประมาณ 750 ล้านบาท
ทำให้จากที่ ‘บิ๊กอ๊อด’ ถือหุ้นใหญ่สุด 2 พันล้านหุ้น คิดเป็นเงินประมาณ 1 พันล้านบาท ลดเหลือลงมาเหลือ 500 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.95 ของผู้มีสิทธิออกเสียงเท่านั้น
(อ่านประกอบ : ‘สมยศ’ขายหุ้น‘เอคิว’ 750 ล.ให้‘เสี่ยโนอาร์-ลูก’ก่อนชิงนายกฯสมาคมบอล)
ไม่ว่าข้อเท็จจริงจากการขายหุ้นดังกล่าวจะเป็นอย่างไร ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.สมยศ กรณีเข้ารับตำแหน่ง สนช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2557 ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
พบว่า ‘บิ๊กอ๊อด’ มีเงินลงทุนทั้งหมด 9 รายการ ได้แก่
1.OTO บล.เอเซียพลัส จำกัด 2.5 แสนหุ้น มูลค่า 1,787,500 บาท
2.RS บล.เอเซียพลัส จำกัด 322,900 หุ้น มูลค่า 2,647,780 บาท
3.SAMART บล.เอเซียพลัส จำกัด 1 ล้านหุ้น มูลค่า 23.2 ล้านบาท
4.SIM บล.เอเซียพลัส จำกัด 3 ล้านหุ้น มูลค่า 10,680,000 บาท
5.กองทุน RMF บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ ถืครอง 74,939.7911 มูลค่า 927,147 บาท
6.กองทุน SIRIRMF บมจ.ธนาคารกรุงเทพ ถือครอง 15,523.0021 มูลค่า 567,328 บาท
7.กองทุน BLTF บมจ.ธนาคารกรุงเทพ ถือครอง 50 ล้าน มูลค่า 473,220 บาท
8.บจก.แอสเซ็ท มิลเลี่ยน 10,187,600 หุ้น มูลค่า 101,876,000 บาท
9.บจก.เลอโวเทล เขาใหญ่ 133,334 หุ้น มูลค่า 13,333,400 บาท
ต่อมา สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้เข้าไปซื้อหุ้นบริษัท เอคิวฯ ในช่วงปลายปี 2557 (ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง สนช. แล้ว) โดยใช้เงินประมาณ 855 ล้านบาท
จากการตรวจสอบจากกรมพัฒนากรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เอคิวฯ ปัจจุบันมีทุน 8,160,222,416 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 102 ถ.ริมคลองบางกะปิ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ประกอบธุรกิจขายที่ดินเปล่า และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ปรากฏชื่อนายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ นายสุทธิศักดิ์ วจีปิยนันทานนท์ นายภพ เพชรสุวรรณ นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ก่อนที่ พล.ต.อ.สมยศ จะขายหุ้น 1,500 หุ้น ในสองช่วงคือ เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2558 จำหน่ายให้นายกำพล วีระเทพสุภรณ์ จำนวน 500 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 250 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2558 จำหน่ายให้ น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง และนายรชต พุ่มพันธุ์ม่วง ทั้งคู่เป็นบุตรของ พล.ต.อ.สมยศ คนละ 500 ล้านหุ้น มูลค่าคนละ 250 ล้านบาท (รวม 1,000 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 500 ล้านบาท)
ขณะที่บริษัท เลอโวเทล เขาใหญ่ฯ นั้น สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า นับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน พล.ต.อ.สมยศ พร้อมด้วยบุตรสาวและบุตรชาย เข้าไปถือหุ้นในบริษัท เลอโวเทล เขาใหญ่ จำกัด และบริษัท ภูผาธารา เขาใหญ่ จำกัด ร่วมกับคนในตระกูล ‘วิไลลักษณ์’ เพื่อทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน
อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯของ พล.ต.อ.สมยศ กรณีรับตำแหน่ง สนช. ไม่พบว่า แจ้งถือการครอบครองหุ้นบริษัท ภูผาธาราฯ แต่อย่างใด แจ้งแต่บริษัท เลอโวเทลฯ เท่านั้น
กรณีนี้ พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงว่า บริษัท เลอโวเทลฯ ได้ซื้อที่ดินของตนและลูกหลายแปลงเพื่อไปพัฒนา แต่ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าที่ดินให้ตามสัญญา บริษัทจึงให้ตนและลูกถือหุ้นไว้ส่วนหนึ่งเพื่อค้ำประกัน แต่ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมแต่อย่างใด ทำให้เข้าใจว่าถือหุ้นในบริษัท เลโวเทลฯ เท่านั้น
และเมื่อตรวจสอบภายหลังปรากฏเป็นข่าว ผู้บริหารชี้แจงว่าได้จดทะเบียนเพิ่มบริษัท ภูผาธาราฯ ในภายหลัง และจัดสรรหุ้นให้ตามสัดส่วน ทั้งนี้ในตอนที่ขอข้อมูลเพื่อชี้แจง ป.ป.ช. ในช่วงเป็น สนช. จึงไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินส่วนนั้นให้ทราบ เพราะเป็นความผิดพลาดของผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่บริษัท ยืนยันไม่มีเจตนาปกปิดทรัพย์สินส่วนนั้น และจะรีบดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนต่อไป
(อ่านประกอบ : โชว์เอกสาร 'พล.ต.อ.สมยศ' ถือหุ้น6ล.ไม่แจ้งป.ป.ช.! บิ๊ก'สามารถ'การันตี บริสุทธิ์)
ทั้งนี้น่าสังเกตว่าการขายหุ้นบริษัท เอคิวฯ เกิดขึ้นภายหลังที่ พล.ต.อ.สมยศ ลงสมัครรับเลือกเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยมีท่าที ‘เอาจริง’ พร้อมกับมีกระแสข่าวว่ามีนายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เจ้าของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คอยหนุนหลัง
และเป็นประเด็นร้อนแรงในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย รักษาการแทนนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่า พล.ต.อ.สมยศ ไม่มีชื่อในการลงสมัครรับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เนื่องจากไม่ได้มาสมัครที่สำนักงานเลขาธิการสมาคมฯ
ร้อนถึง ‘เสธ.โต’ พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งถูก FIFA ตั้งขึ้นให้รักษาการแทนบอร์ดสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า พล.ต.อ.สมยศ ยังมีสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าวอยู่ เพราะตามคำสั่งของ FIFA ให้คณะกรรมการกลางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการรับสมัครอย่างเป็นทางการ
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.ต.อ.สมยศ จาก bighoylive.com