ชำแหละพฤติกรรม 10 นักการเมืองท้องถิ่น-กก.รัฐฯ‘จงใจ’ไม่ยื่นบัญชีฯถูกจำคุกรวด
ชำแหละพฤติกรรม 9 นักการเมืองท้องถิ่น 1 กก.รัฐวิสาหกิจ ‘จงใจ’ไม่ยื่นบัญชีฯทรัพย์สิน มีทั้ง สท.นครศรีฯ ศรีราชา นายกฯอบต. เลขาฯนายกฯ ส.อบจ.ตาก ศาลฎีกาฯพิพากษา ปรับ-จำคุก 2 -6 เดือน ติดคุกจริง 1 คนเป็นรายที่ 3
เมื่อ 14 ม.ค.59 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยกรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ผู้คัดค้าน) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จำนวน 10 คดี (ราย) ปรากฏว่าศาลฎีกาฯพิพากษาให้ผู้คัดค้านมีความผิดทั้งหมด
(อ่านประกอบ:ศาลฎีกาฯฟัน‘สุธี’บอร์ดการบินพลเรือน - 9 นักการเมืองท้องถิ่น จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปสาระสำคัญแต่ละคดีมาเสนอดังนี้
1.นายโอภาส ฉิวพันธ์ สมาชิกสภาเทศบาลนครศรีธรรมราช จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 พ.ค.54 ซึ่งเป็นวันพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.66/2558 -22 ก.ย.58)
2.นายเอกสิทธิ์ จุลสุคนธ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 19 เม.ย.55 ซึ่งเป็นวันพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.67/2558 -22 ก.ย.58)
3.นายราเชนทร์ โฉมจิตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 11 พ.ย.55 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน (คดีหมายเลขแดงที่ อม.68/2558 -22 ก.ย.58)
ทั้งนี้ นายราเชนทร์ ถูกจำคุกมีกำหนด 16 ปี 6 เดือน ในคดีความผิดต่อชีวิต พยายาม และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ตามคำพิพากษาคดีถึงที่สุดคดีหมายเลขดำที่ 805/1551 หมายเลขแดงที่ 1652/2552 ของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
4.นายบารมินทร์ นครชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 เม.ย.55 อันเป็นวันพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.71/2558 -24 ก.ย.58)
5. นายสิทธิโชค พันฤทธิ์ดำ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลเขาชัยสน จ.พัทลุง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มี.ค.55 อันเป็นวันพ้นตำแหน่ง ที่เป็นเหตุแห่งการยื่นคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง ให้ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรีที่ดำรงอยู่ในวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย และมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.73/2558 -24 ก.ย.58)
6.นายจตุพล ปักเข็ม เลขานุการนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 พ.ค.54 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.75/2558 -24 ก.ย.58)
7.นายบัวลำ วังคีรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 30 ก.ย.54 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.76/2558 -24 ก.ย.58)
8.เรืออากาศเอก สุธี จุลชาติ กรรมการสถาบันการบินพลเรือน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 39 วรรคหนึ่ง (15) ประกอบมาตรา 32 และ 33
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเฉพาะตำแหน่งตามมาตรา 39,40 เป็นเวลา 5 ปี นับจากวันที่ 30 เม.ย.53 ซึ่งเป็นวันพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 41
กับ มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
(คดีหมายเลขแดงที่ อม.80/2558 -26 ต.ค.58)
9.นายวิชล แก้วถาวร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ จ.ฉะเชิงเทรา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.บางพระครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง รองนายก อบต.บางพระครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 ก.ย.57 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งครั้งที่สอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.81/2558 -26 ต.ค.58)
10.นายยอดยิ่ง ใจมูล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก (ส.อบจ.ตาก) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 มิ.ย.55 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท
ผู้คัดค้านให้การรับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.82/2558 -26 ต.ค.58)
ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือน 1 ม.ค.-30 ธ.ค.58 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่คำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้อง ยื่นเรื่องให้วินิจฉัยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้คัดค้าน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและปกปิดรายการทรัพย์สินฯ รวม 59 คดี (ราย) ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัยให้ผู้คัดค้านมีความผิด 58 ราย และ ยกคำร้อง 1 ราย
สำหรับ นายราเชนทร์ โฉมจิตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ศาลฯพิพากษาจำคุกกระทงละ 2 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน เป็นนักการเมืองท้องถิ่นรายที่ 3 ศาลฯพิพากษาโดยไม่รอการลงโทษ
ขณะที่ เรืออากาศเอก สุธี จุลชาติ เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจรายที่ 9 นับจากปี 2555
ตาราง 10 เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีความผิดกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน
ชื่อ-ตำแหน่ง | พฤติการณ์-ความผิด | คำพิพากษา |
1.นายโอภาส ฉิวพันธ์ สมาชิกสภาเทศบาลนครศรีธรรมราช (คดีหมายเลขแดงที่ อม.66/2558 -22 ก.ย.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 พ.ค.54 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
2.นายเอกสิทธิ์ จุลสุคนธ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.67/2558 -22 ก.ย.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 19 เม.ย.55 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
3.นายราเชนทร์ โฉมจิตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา (คดีหมายเลขแดงที่ อม.68/2558 -22 ก.ย.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 11 พ.ย.55 จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน |
4.นายบารมินทร์ นครชัย นายองค์การบริหารส่วนตำบลตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ (คดีหมายเลขแดงที่ อม.71/2558 -24 ก.ย.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯกรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 เม.ย.55 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
5. นายสิทธิโชค พันฤทธิ์ดำ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลเขาชัยสน จ.พัทลุง (คดีหมายเลขแดงที่ อม.73/2558 -24 ก.ย.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มี.ค.55 ให้พ้นตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรีที่ดำรงอยู่ในวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
6.นายจตุพล ปักเข็ม เลขานุการนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช (คดีหมายเลขแดงที่ อม.75/2558 -24 ก.ย.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 พ.ค.54 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
7.นายบัวลำ วังคีรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว (คดีหมายเลขแดงที่ อม.76/2558 -24 ก.ย.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 30 ก.ย.54 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 12,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
8.เรืออากาศเอก สุธี จุลชาติ กรรมการสถาบันการบินพลเรือน (คดีหมายเลขแดงที่ อม.80/2558 -26 ต.ค.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเฉพาะตำแหน่งตามมาตรา 39,40 เป็นเวลา 5 ปี นับจากวันที่ 30 เม.ย.53 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
9.นายวิชล แก้วถาวร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพระ จ.ฉะเชิงเทรา (คดีหมายเลขแดงที่ อม.81/2558 -26 ต.ค.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯกรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 ก.ย.57 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 12,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
10.นายยอดยิ่ง ใจมูล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก (ส.อบจ.ตาก) (คดีหมายเลขแดงที่ อม.82/2558 -26 ต.ค.58) |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี |
ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 มิ.ย.55 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี |
ที่มา:สำนักข่าวอิศรา รวบรวมจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง