‘ไทม์ไลน์’คดี บ.อสังหาฯบิ๊ก-พวก รุกลำรางสาธารณะ‘บางบอน’ 4 ปียังไม่ถึงศาล
เจาะไทม์ไลน์ : มหากาพย์กรณีรุกล้ำลำรางสาธารณะ โครงการหมู่บ้านจัดสรร บ.อสังหา ฯ ดัง คลอลิตี้ ฯ VS สนง.เขตบางบอน คดีธรรมดา บิ๊กธุรกิจ-อดีต รมว.คมนาคม ผู้ต้องหา 4 ปี เรื่องยังเดินไม่ถึงศาล?
กรณีสำนักงานเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ร้องทุกข์ต่อผู้กำกับการ สน.บางบอน เพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กรณีก่อสร้างรั้วและพื้นที่ทางเท้าคอนกรีตเสริมใยเหล็กบางส่วนขึ้นที่บริเวณลำรางสาธารณประโยชน์ ข้างทางเข้าออกโครงการหมู่บ้านวรารมย์ ถ.บางบอน 4 แขวง/เขตบางบอน กรุงเทพ ฯ หลังจากเจ้าหน้าที่เขตได้แจ้งให้บริษัท ฯ รื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกจากที่สาธารณะดังกล่าวแต่บริษัท ฯ ไม่ปฏิบัติตาม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเรียกตัวผู้ต้องหาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันแทนบริษัท ฯ จำนวน 4 คนมารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว
ความเป็นมาของคดีนี้เป็นผลสืบเนื่องจากอุทกภัยช่วงปลายปี 2554 มีปัญหาน้ำท่วม ชาวบ้านอ้างว่า ลำรางสาธารณะบริเวณข้างโครงการหมู่บ้านจัดสรรหายไป และได้ยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2555 และมีการกล่าวโทษเป็นคดีความไปแล้ว 1 คดี แต่อัยการสั่งยุติคดี เนื่องจาก ขาดอายุความ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ความเห็นของอัยการ ต่อมา มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอกชนกับผู้บริหารชุดใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคดี รวมเป็น 2 คดี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ลำดับช่วงเวลาความเป็นมาในกรณีดังกล่าวมาเสนอ ดังนี้
คดีแรก
18 ต.ค. 55 ชาวบ้านหมู่บ้านจัดสรรวรารมย์ บริษัท คลอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ยื่นร้องเรียนสำนักงานเขตบางบอน ระบุว่า ลำรางสารธารณะ กว้างประมาณ 8 เมตร ยาว 680 เมตร ไม่มีสภาพเป็นลำรางสาธารณะ เหมือนว่าหายไป ขอให้เข้ามาตรวจสอบ
7 มี.ค. 56 นางรัสยาภรณ์ นครสุต ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางบอน กรุงเทพ ฯ ทำหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการ บริษัท คลอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า “ท่านได้ก่อสร้างกำแพง ค.ส.ล. และทางเดินเท้าบุกรุกที่สาธารณะ บริเวณ ลำรางสาธารณประโยชน์ (ข้างถนนเข้าหมู่บ้านวรารมย์) แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพ ฯ โดยมิชอบ ขอให้ดำเนินการรื้อถอนภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ หากพ้นกำหนด ยังมิได้รื้อถอน สำนักงานเขตจะดำเนินการตามกฎหมาย” (ดูเอกสาร)
18 ก.ค. 56 สำนักงานเขตบางบอน แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลบางบอน ให้ดำเนินคดีกับบริษัท คลอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ดำเนินคดีตามมาตรา 9,108 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และมาตรา 360,368 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และขอให้บังคับผู้กระทำผิดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และทำที่ดิน (ลำรางสาธารณประโยชน์) ให้กลับสู่สภาพเดิม (ดูเอกสาร)
6 ธ.ค. 57 พนักงานสอบสวนเสนอพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ (หัวหน้าพนักงานสอบสวน) สถานีตำรวจนครบางบอน มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 5 ราย คือ
1.บริษัท คลอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
2.นางสุวรรณา พุทธประสาท
3.นายประวิทย์ โชติวัฒนาพันธุ์
4.นายรัตน์ พานิชพันธ์
5.นายซวง ชัยสุโรจน์
11 ธ.ค.57 พนักงานสอบสวนส่งสำนวน อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ธนบุรี มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 5 ราย (ดูเอกสาร)
9 มิ.ย. 58 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ธนบุรี มีความเห็นให้ยุติการดำเนินคดีผู้ต้องหา ฐานร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360,83 เพราะคดีขาดอายุความ สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ตามมาตรา 39 (ุ6) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ดูเอกสาร)
6 ก.ค. 58 ชาวบ้านร้องทุกข์ต่อสำนักงานเขตบางบอนให้อุทธรณ์ความเห็นของอัยการ เนื่องจาก เป็นเรื่องการรุกล้ำลำรางสาธารณะ ซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดิน
17 ก.ค. 58 ชาวบ้านยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปสาระสำคัญว่า หลังจากสำนักงานเขตบางบอน มีหนังสือลงวันที่ 19 ก.ค. 56 ขอให้ดำเนินคดีแก่ผู้ปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำรางสาธารณประโยชน์ และหนังสือลงวันที่ 7 มี.ค. 56 ขอให้เอกชนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่สาธารณะ ต่อมาทางสถานีตำรวจนครบาลบางบอนมิได้ดำเนินการตามกฎหมายกำหนดเกินกว่า 1 ปี จึงเป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงพนักงานสอบสวน จนมีคำสั่งเชิญตัวผู้ต้องหามาพบ 2 ครั้งตามกฎหมาย แต่ทางผู้ต้องหาไม่ได้มา จนเป็นเหตุให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ และผู้ต้องหาได้มามอบตัวตามรายงานการสอบสวนวันที่ 6 ธ.ค. 57 หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง ส่งไปยังสำนักงานอัยการพิเศษคดีอาญา 2 (ธนบุรี) ปรากฏว่า อัยการมีคำสั่งยุติคดีเพราะขาดอายุความ แต่เนื่องจาก คดีการบุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์อันเป็นสมบัติของชาติ ตามมาตรา 1306 ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่มีหมดอายุความ ทางสมาชิกหมู่บ้านจึงยื่นคำร้องให้สำนักงานเขตบางบอนอุทธรณ์คำสั่งอัยการ และเข้าขอความเป็นธรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับคำสั่งอัยการ เพื่อสั่งฟ้องให้นำคดีขึ้นสู่ชั้นศาล และมีการสืบพยานหลักฐานตามกระบวนการยุติธรรม (ดูเอกสาร)
20 ก.ค. 58 สำนักงานเขตบางบอนมีหนังสือถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบางบอน แย้งคำสั่งอัยการพิเศษคดีอาญาธนบุรี 2 ระบุว่า ตามที่พนักงานอัยการมีคำสั่งยุติการดำเนินคดีกับบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และพวก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ,83 เพราะคดีขาดอายุความ นั้น ปัจจุบันมีประชาชนมาร้องเรียนสำนักงานเขตบางบอน และขอให้อุทธรณ์คำสั่งอัยการที่แจ้งให้ยุติคดีด้วยเหตุผล ดังนี้
1.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1306 ห้ามยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินในเรื่องสาธารณสมบัติ
2.คำสั่งให้ยุติ ไม่ระบุว่า ลำรางสาธารณะมีการรุกล้ำหรือไม่
3.สมาชิกหมู่บ้าน ฯ ได้ทราบและมาร้องเรียนเขตบางบอน เมื่อ 18 ต.ค. 55 ถือว่าเป็นวันที่หมู่บ้านรุกล้ำสาธารณะ
สำนักงานเขตบางบอนพิจารณาแล้ว เห็นว่าควรจะทำคำสั่งแย้งอัยการต่ออัยการสูงสุด (ดูเอกสาร)
9 พ.ย. 58 ชาวบ้านยื่นร้องเรียนต่อศูนย์บริการประชาชนถึงนายกรัฐมนตรี
1 ธ.ค. 58 ชาวบ้านยื่นขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี
9 ธ.ค. 58 ชาวบ้านเข้ายื่นหนังสือติดตามเรื่องถึงศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายก ฯ
ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าว่า อัยการพิจารณาผลอุทธรณ์หรือไม่อย่างไร?
คดีที่สอง
9 ต.ค. 58 นายสุวิทย์ ผู้อำนวยการเขตบางบอน ได้มีหนังสือที่ กท 8903/5269 ถึง บมจ.ควอลิตี้เฮาส์ ระบุให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกจากที่บริเวณลำรางสาธารณะ (ข้างถนนทางเข้าหมู่บ้านวรารมย์) ซึ่งตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ปัจจุบันยังมิได้ทำการรื้อถอนส่วนที่ก่อสร้างอยู่บนลำรางสาธารณะดังกล่าวออกไป จึงขอให้ทำการรื้อถอนและทำที่ดินให้อยู่ในสภาพเดิม (ดูเอกสาร)
29 ต.ค. 58 บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีหนังสือถึง นายสุวิทย์ สุขฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางบอน ว่าทางบริษัท ฯ ไม่เคยมีเจตนาใด ๆ ที่จะทำการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ หรือได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการเช่นนั้น แต่อย่างใด แต่เนื่องจาก เป็นการก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ จึงอาจเกิดความผิดพลาดในการก่อสร้างขึ้นได้ ซึ่งหากปรากฏว่า สิ่งก่อสร้างนั้นสร้างรุกล้ำลำรางสาธารณะดังกล่าวจริง ทางบริษัท ฯ ยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการรื้อถอนออกจากที่สาธารณะ
บริษัท ฯ จึงขอให้ สนง.เขตบางบอน ดำเนินการระบุแนวเขต แผนที่ และแผนผังที่ดินที่ได้รับการรับรองถูกต้องจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในส่วนของพื้นที่ที่รุกล้ำให้ชัดเจน รวมถึง กำหนดวันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่ เพื่อบริษัทจะได้ดำเนินการอย่างถูกต้องต่อไป โดยที่ผ่านมา ไม่เคยเพิกเฉยกับเรื่องดังกล่าว และมีความพยายามประสานงานเพื่อดำเนินการรื้อถอนมาตลอด ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาร่วมแก้ปัญหา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในการแก้ปัญหาร่วมกัน และดำเนินการร่วมกันเรื่อยมา ซึ่งทางเขตบางบอนทราบดีสำหรับข้อเท็จจริงที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการให้ลุล่วงได้ จึงขอแจ้งความประสงค์ที่จะขอความอนุเคราะห์ให้เข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างดังกล่าว และยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
11 พ.ย. 58 สำนักงานเขตบางบอน แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งแล้วแต่บริษัท ฯ ยังไม่ปฏิบัติตาม การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360,368 และประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9, 108 ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 36 ข้อ 11 (ดูเอกสาร)
1 ธ.ค. 58 กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 2 คน คือ นายประวิทย์ โชติวัฒนาพันธุ์ และ นายพรเทพ พิพัฒน์ทั้งสกุล เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน
2 ธ.ค. 58 กรรมการผู้มีอำนาจลงนามอีก 2 คน คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ นางสุวรรณา พุทธประสาท เดินทางเข้ามอบตัว ต่อพนักงานสอบสวนและได้รับการประกันตัวสู้คดี
ณ ขณะนี้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวนว่าจะสั่งฟ้องต่ออัยการหรือไม่ฟ้อง?
อย่างไรก็ตาม นับจากจุดเริ่มต้นปี 2555 จนถึงขณะนี้ ม.ค. 2559 เป็นเวลา 4 ปี คดียังไม่ถึงกระบวนพิจารณาของศาลยุติธรรม
ทั้งนี้ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ชุดปัจจุบันมีนายอนันต์ อัศวโภคิน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นางสุวรรณา พุทธประสาท นายอดิศร ธนนันท์นราพูล น.ส.กนกวลี วิริยประไพกิจ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ นายราชัย วัฒนเกษม นายประวิทย์ โชติวัฒนาพันธุ์ นายสุริย์ บัวคอม นายพรเทพ พิพัฒน์ทั้งสกุล นายอาชนัน อัศวโภคิน และ นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ เป็นกรรมการ
ต้องติดตามผลคดีกันต่อไป
อ่านประกอบ:
เปิดหนังสือโต้ตอบ บมจ.คิวเฮ้าส์ฯ VS สนง.บางบอน ก่อนแจ้งจับ บ.ดัง-อดีต รมต.
แจ้งจับ บ.อสังหาฯดังรุกล้ำลำรางสาธารณะ- ‘ชัชชาติ’กก.โดนด้วย มอบตัว ตร.แล้ว