ยิงดับ"พ.ต.ท." ยะรังป่วนวันเดียว 2 เหตุ ผบ.ทบ.สั่งขยายพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคง
ใต้ระอุ ยิงตำรวจระดับ พ.ต.ท.ตำแหน่งสารวัตรปราบปราม สภ.มายอ สิ้นชื่อ ยะรังป่วน เช้าซุ่มยิงสีกากีเจ็บ 2 บ่ายบึ้มทหารพรานสาหัส 1 ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงบุกทลายฐานพักกลุ่มป่วนบนเขาตะเว ยึดปืนเอ็ม 16 ผบ.ทบ.ล่องใต้สั่งพิจารณาขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันอังคารที่ 12 ม.ค.59 เวลาประมาณ 18.15 น. คนร้ายจำนวน 2 คน ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.และขนาด 11 มม. ยิงตำรวจ สภ.มายอ จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย เหตุเกิดใกล้ตลาดนัดบนถนนสาย 4060 บ้านป่าม่วง บ้านย่อยบ้านปาโอะ หมู่ 4 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
ตำรวจที่ถูกยิง คือ พ.ต.ท.รัฐนันท์ มาแผ้ว สารวัตรปราบปราม (สวป.) สภ.มายอ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/10 หมู่ 1 ต.มายอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลกะพ้อ ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ส.ต.ท.นิคม เพชรแก้ว ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.มายอ อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.พัทลุง ได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบสวนจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ท.นิคม ซึ่งทำหน้าที่พลขับ ได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ตต 7123 กรุงเทพมหานคร ออกปฏิบัติหน้าที่สืบสวนหาข่าว โดยมี พ.ต.ท.รัฐนันท์ นั่งมาด้วยตรงเบาะหน้าคู่คนขับ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งกำลังจัดตลาดนัด ชื่อตลาดนัดป่าม่วง ทำให้มีคนพลุกพล่าน ส.ต.ท.นิคม ต้องชะลอความเร็ว จึงถูกคนร้าย 2 คนซึ่งแฝงตัวอยู่กับประชาชนท่ำลังจับจ่ายซื้อของ ใช้อาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอกยิงใส่หลายนัด ทำให้ พ.ต.ท.รัฐนันท์ เสียชีวิต ส่วน ส.ต.ท.นิคม ได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุ ส.ต.ท.นิคม ซึ่งยังมีสติ ได้จอดรถและใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้จนคนร้ายหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
อย่างไรก็ดี มีข่าวอีกกระแสหนึ่งว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.รัฐนันท์ เดินทางไปเยี่ยมภรรยาของผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งใน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ซึ่งสามีถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2556 และภรรยาได้รับความช่วยเหลือให้เป็นลูกจ้างศูนย์เยียวยา
ซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เจ็บอีก 2
วันจันทร์ที่ 11 ม.ค.59 เวลา 12.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่บริเวณข้างทาง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงชุดปฏิบัติการร้อยเวร 30 สังกัด สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะนั่งรถกระบะแบบแคปสีแดง หมายเลขทะเบียน ฒค 6542 กรุงเทพมหานคร กลับจากเรือนจำกลางปัตตานี มุ่งหน้าโรงพักยะรัง โดยใช้เส้นทางถนนสาย 410 (ปัตตานี-ยะลา) จุดเกิดเหตุอยู่ในท้องที่บ้านบือแนกือบง หมู่ 3 ต.ประจัน อ.ยะรัง
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 นาย คือ ร.ต.อ.ธีระพล รักชูศรี พนักงานสอบสวน สภ.ยะรัง และ ส.ต.ท.เบญจมินทร์ หัดเหาะ ผบ.หมู่ ป. สภ.ยะรัง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยะรังป่วนหนัก! บึ้มทหารพรานซ้ำสาหัส
เวลา 16.10 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2216 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 หลังเสร็จจากการปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อรักษาความปลอดภัยครู เหตุเกิดบนถนนสายยะรัง-ยาบี ท้องที่บ้านบินยาลิมอ หมู่ 3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ธวัชชัย คาด้วง อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
สำหรับระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่กล่องพลาสติกสีฟ้า วางดักไว้บริเวณโคนต้นไม้ข้างทาง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงหม้อแปลงไฟฟ้าที่ทุ่งยางแดง
เวลา 20.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามยิงหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง บริเวณริมถนนในหมู่บ้าน บ้านบาแฆะ หมู่ 5 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทำให้หม้อแปลงได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่กว่า 10 ปลอก เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการก่อกวนสร้างสถานการณ์
ปะทะ-ทลายฐานพักกลุ่มป่วนใต้บนเขาตะเว
ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ วันอังคารที่ 12 ม.ค.59 พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส สั่งการให้ พ.อ.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 48 จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ นำโดย ร.อ.ปรีชา รุ่งเมือง ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4804 ขึ้นไปพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาตะเว ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านไอร์ปาแย หมู่ 8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงเดินเท้าถึงยอดเขา และถูกกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหาที่กำบัง และยิงตอบโต้จนเกิดการปะทะกันนานประมาณ 5 นาที ปรากฏว่ากลุ่มติดอาวุธได้ใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป
ต่อมา พล.ต.เอกรัตน์ พร้อมด้วย พ.อ.สฐิรพงษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ได้นำกำลังตามขึ้นไปสมทบ พร้อมตรวจสอบบริเวณโดยรอบอย่างละเอียด พบเพิงพักของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจำนวน 2 หลัง ปลูกสร้างด้วยโครงไม้ มุงหลังคาด้วยผ้ายางกันฝน สร้างห่างกันหลังละประมาณ 2 เมตร ภายในเพิงพักพบชุดลายพราง เสื้อทหาร หมวกทหารพราน เครื่องครัว ที่นอน คัมภีร์ ยารักษาโรค เข็มทิศ เป้สนาม และยังพบอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ถูกซุกไว้ในกระสอบ ห่างจากเพิงพักประมาณ 5 เมตร รวมทั้งเครื่องกระสุนกว่า 100 นัด และอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก คาดว่าสามารถนำมาประกอบระเบิดได้ถึง 20 ลูก
สำหรับอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่พบ เป็นปืนที่ถูกปล้นไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส หรือค่ายปิเหล็ง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547
ผบ.ทบ.ล่องใต้ถกหน่วยกำลัง-คุยผู้นำศาสนา
วันจันทร์ที่ 11 ม.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รองผอ.รมน.) ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมมอบนโยบายการปฎิบัติหน้าที่ให้กับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัย, การสร้างพื้นที่ปลอดภัย, การบูรณาการการใช้กล้องซีซีทีวี และการเดินหน้าทำความเข้าใจในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่ความสันติสุขอย่างยั่งยืน
จากนั้น พล.อ.ธีรชัย ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เพื่อเข้าพบประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา พร้อมพูดคุยหารือกันอย่างใกล้ชิด
สั่งแยกกลุ่ม “คนกลับบ้าน” – ขยายพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคงฯ
ต่อมา พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ของ ผบ.ทบ.และรองผอ.รมน.ครั้งนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องการทำเส้นทางปลอดภัย 24 ชั่วโมง จำนวน 28 เส้นทาง ซึ่งดำเนินการไปแล้วในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมา นับว่าได้ผลในระดับหนึ่ง จึงให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พิจารณาต่อไปว่าจะสามารถเพิ่มเติมชุมชนปลอดภัยในทำนองเดียวกันได้หรือไม่
ส่วนการดำเนินโครงการพาคนกลับบ้าน ให้ดำเนินการเฉพาะผู้ที่มีหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (หมาย ฉฉ ที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) กับผู้ที่เคยหวาดระแวงเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีหมาย ป.วิอาญา (ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) ให้แยกจัดทำเป็นโครงการเฉพาะในลักษณะของการอำนวยความสะดวกตามกระบวนการยุติธรรมปกติ และให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ประเมินความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่การประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ (พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551) เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่เพียง 5 อำเภอ (4 อำเภอของ จ.สงขลา และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการกลับตัวกลับใจได้เข้าสู่กระบวนการตามมาตรา 21 ได้มากขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 รอยกระสุนบนรถกระบะของตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี จากกรณีถูกคนร้ายซุ่มยิง (ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ)
2-3 ฐานพักบนเขาตะเวที่เจ้าหน้าที่ทลายได้ พร้อมยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ถูกปล้นไป
4 ผบ.ทบ.ลงพื้นที่พบผู้นำศาสนา