3 ปี โกย 287ล. เจาะถุงเงิน เจ้าของคลิปโฆษณา'คริส หอวัง' วิจารณ์ยับเหยียดสีผิว
"..ส่วนรายได้ทางธุรกิจของบริษัทฯ นับจากนี้ไป จะสะดุดลงเพราะผลกระทบทางภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้นจากคลิปโฆษณาตัวนี้ หรือ จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีคนรู้จักและสนใจกันมากขึ้น เข้าทำนองยิ่งฉาว ยิ่งดัง คงต้องจับตาดูกันต่อไป.."
กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก! สำหรับคลิปโฆษณาสินค้ากลูต้าไธโอน อาหารเสริมผิวขาว สัญชาติเกาหลี ที่มี 'คริส หอวัง' ดาราสาว เป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งเผยแพร่ผ่านทางยูทป ใช้ชื่อคลิปว่า "คริส หอวัง ดับกลางจอ เจอเด็กใหม่ขโมยซีน" พร้อมวลีเด็ด "แค่ขาว..ก็ชนะ" ซึ่งล่าสุดสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สื่อระดับโลกก็นำเสนอข่าวเรื่องนี้ด้วย
โดยมุ่งประเด็นว่าโฆษณาชิ้นนี้ เป็นการสื่อไปในเชิงเหยียดสีผิว แบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจน
พร้อมเผยแพร่บทสัมภาษณ์ ผศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร จากคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ประเทศไทยมีโฆษณาที่แสดงให้เห็นรูปแบบของการแบ่งชนชั้นมาเป็นศตวรรษแล้ว ผิวสีขาวถูกมองเป็นเครื่องหมายของสิทธิพิเศษและสถานะทางสังคมที่มีหลายชาติพันธุ์ โดยค่านิยมนี้ เกิดจากการที่คนไทย อยากมีรูปร่างหน้าตาเหมือนฝรั่ง
ซีเอ็นเอ็น ยังชี้ด้วยว่า โฆษณาของไทยตกเป็นที่วิจารณ์จากต่างชาติหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเผยแพร่สื่อโฆษณา ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องผิวพรรณมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ค่านิยมการมีผิวขาว เป็นค่านิยมที่แพร่ระบาด หยั่งรากลึกไปในหลายประเทศในแถบเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยเอง เห็นได้จากผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาว ที่มักจะขายดี และติดตลาดเป็นพิเศษ
ขณะที่ 'Seoul Secret' เจ้าของคลิปโฆษณาเจ้าปัญหาตัวนี้ ได้สั่งถอดคลิปโฆษณาดังกล่าวออกจากสื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องและสื่ออื่น ๆ แล้ว พร้อมออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น ผ่านเพจ Seoul Secret Thailand
ระบุว่า ตามที่มีกระแสเรื่องคลิปโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สโนว์ซ กลูตา ที่มีคุณคริส หอวังเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น ทางแบรนด์ Seoul secret ในฐานะเจ้าของคลิปโฆษณาดังกล่าวขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยพร้อมจะรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ทางบริษัทฯไม่ได้มีเจตนาที่จะส่อสื่อสารไปในทางการเหยียดสีผิวหรือเชื้อชาติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ประเด็นหลักที่ตั้งใจจะสื่อออกไปตั้งแต่ต้นคือ การพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ทั้งในแง่บุคลิกภาพ รูปลักษณ์ ความสามารถ ความเป็นมืออาชีพอย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องขออภัยอย่างสูง และขอน้อมรับทุกความคิดเห็น
ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ทำการถอดคลิปโฆษณา, สื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่ออื่น ๆ ที่ได้วางแผนไว้ในอนาคตออกทั้งหมดแล้ว เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ขออภัยมา ณ โอกาสนี้อีกครั้ง
Seoul Secret
แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าบริษัทเอกชนในไทย ที่เป็นเจ้าของสินค้าแบรนด์ Seoul Secret ที่แท้จริงเป็นใคร?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า 'Seoul Secret' เป็นแบรนด์สินค้าของ บริษัท ยูลิฮัน กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555 ทุนปัจจุบัน 21 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 450/2 ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ปรากฎชื่อ นายวัฒนภาคย์ จินศิริวานิชย์ นายยศ บุญญสถิตย์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย อัฎฐพล สิทธิพงศ์ธนกุล และ นาย พร้อมพงษ์ งามดำรงค์ เป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2558 นาย วัฒนภาคย์ จินศิริวานิชย์ ถือหุ้นใหญ่สุด 8,400 หุ้น มูลค่า 8,400,000 บาท ตามด้วย นาย ยศ บุญญสถิตย์ ถืออยู่ 3,150 หุ้น มูลค่า 3,150,000 นาง กนกพร บุญญสถิตย์ ถืออยู่ 2,835 หุ้น มูลค่า 2,835,000 บาท นางสาว กัลยารัตน์ เครือวัลย์ นางสาว ปัถยา สิทธิพงศ์สาร นาย พร้อมพงษ์ งามดำรงค์ นางสาว ภิญญดาพัชญ์ สิทธิพงษ์ธนกุล ถืออยู่คนละ 1,050 หุ้น มูลค่า 1,050,000 บาท นาย วิชรัตน์ จาติเสถียร ถืออยู่ 966 หุ้น มูลค่า 966,000 บาท นาย ชนาสิน กองอำนวยสุข ถืออยู่ 840 หุ้น มูลค่า 840,000 บาท นาย ชนะชล กิตติวรวุฒิ ถืออยู่ 609 หุ้น มูลค่า 609,000 บาท
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2557 แจ้งว่า มีรายได้รวม 193,155,240.36 บาท (เป็นรายได้จากการขาย 192,916,948.41) รวมรายจ่าย 187,359,761.51 บาท (เป็นต้นทุนสินค้าที่ขาย 75,517,045.42 บาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 77,551,052.32 บาท) กำไรสุทธิ 3,390,109.81 บาท
เปรียบเทียบงบการเงิน ในช่วงสองปี นับตั้งแต่ตั้งบริษัทฯ พบว่า ในปี 2555 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,102,245.03 บาท (เป็นรายได้จากการขาย 1,102,170.87 บาท) รวมรายจ่าย 988,692.77 บาท กำไรสุทธิ 113,552.26 บาท
ปี 2556 แจ้งว่า มีรายได้รวม 93,062,259.02 บาท (เป็นรายได้จากการขาย 93,000,965.17 บาท) รวมรายจ่าย 90,442,703.82 บาท กำไรสุทธิ 2,076,113.61 บาท
ชี้ให้เห็นว่ารายได้ของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงปี 2557 ที่มีรายได้สูงถึง 193,155,240.36 บาท
และหากนับรวมเฉพาะรายได้ จากการประกอบธุรกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ตัวเลข 287,319,744.41 บาท
ส่วนรายได้ทางธุรกิจของบริษัทฯ นับจากนี้ไป จะสะดุดลงเพราะผลกระทบทางภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้นจากคลิปโฆษณาตัวนี้ หรือ จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีคนรู้จักและสนใจกันมากขึ้น เข้าทำนองยิ่งฉาว ยิ่งดัง คงต้องจับตาดูกันต่อไป
แต่ที่ฟันธงได้ชัดเจนประการหนึ่ง คือ ตลาดสินค้าความสวยความงามในประเทศไทย โดยเฉพาะความนิยมชมชอบในสินค้าเกาหลี
ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว!