ทำบุญอุทิศส่วนกุศลเหยื่อไฟใต้ – สรุปเหตุรุนแรง15วันสุดท้ายปี58

พุทธศาสนิกชนนับหมื่นร่วมทำบุญตักบาตรปีใหม่ อุทิศส่วนกุศลเหยื่อไฟใต้ กำลังผสมนาทวี ตามรวบอดีตผู้ต้องหาคดียิงนักศึกษาพยาบาลฝึกงาน ดอดเข้าพื้นที่พร้อมพวกคาดเตรียมก่อเหตุป่วนหาดใหญ่ ทหารพราน-ตำรวจสนธิกำลังตามยึดปืนที่ถูกปล้นจากค่ายปิเหล็งได้อีก 1 กระบอกส่งท้ายปี สรุปเหตุรุนแรงปักษ์หลังเดือนธันวาฯ 

          วันศุกร์ที่ 1 มกราคม วันแรกของปี 2559 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา จำนวนกว่า 10,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

          โดยที่จังหวัดปัตตานี จัดพิธีทำบุญบนถนนพิพิธ อำเภอเมืองปัตตานี มี นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และ นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ร่วมเป็นประธาน ท่ามกลางพี่น้องประชาชนเข้าร่วมตักบาตรกว่า 3,000 คน

          ส่วนที่จังหวัดยะลา บริเวณหน้าสถานีรถไฟยะลา  พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมตักบาตรกับพี่น้องประชาชน
ขณะที่จังหวัดนราธิวาส จัดพิธีทำบุญตักบาตรบริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนภูผาภักดี มี นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมเหล่าข้าราชการ และพุทธศาสนิกชนร่วมงานกว่า 3,000 คน

          ที่จังหวัดสงขลา จัดพิธีบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา มี นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นำพุทธศาสนิกชนกว่า 3,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร  91 รูป

วางระเบิดถังแก๊สดักบึ้มทหารนราฯโชคดีไร้เจ็บ  

          สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบช่วงปักษ์หลังของเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นครึ่งเดือนสุดท้ายของปี ก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ยังคงมีเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          วันพุธที่ 30 ธันวาคม เวลา 14.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดรถกระบะของทหาร หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 33  ขณะเดินทางไปรับกำลังพลชุดลาพัก จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนสาย 4321 มะนังตายอ–บางปอ ท้องที่บ้านทุ่งโต๊ะดัง หมู่ 8 ตำบลบางปอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โชคดีไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ แต่รถยนต์ได้รับความเสียหาย โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊ส จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร วางไว้บริเวณโคนเสาขาว-ดำริมถนน

บุกฆ่าปลัด อบต.ร่มไทร สุคิริน

          วันอังคารที่ 29 ธันวาคม เวลา 11.00 น. คนร้ายจำนวน 13 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำ ผ้าพันคอสีเขียว มีการโพกผ้าปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ยิง นายบุญเลิศ จินดาธนะนันท์ อายุ 57 ปี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ร่มไทร ตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เสียชีวิตขณะปฏิบัติงานอยู่ในอาคารที่ทำการ อบต. โดย นายบุญเลิศ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 25  ซอย 21 ถนน ณ นคร ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

          หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า ขณะเกิดเหตุ นายบุญเลิศทำงานอยู่ในอาคารที่ทำการ อบต.ร่มไทร พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีก 6 คน มีคนร้าย 13 คนเดินเข้ามาจากทางด้านข้างที่ทำการ อบต. แล้วใช้อาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ข่มขู่บังคับเจ้าหน้าที่ อบต.ให้นอนราบลงกับพื้น จากนั้นคนร้ายจับตัวนายบุญเลิศมัดมือไพล่หลัง แล้วพาเดินออกไปหน้าที่ทำการ อบต. ก่อนใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. จ่อยิงนายบุญเลิศจนเสียชีวิต

          หลังก่อเหตุคนร้ายได้ปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ อบต.ทั้งหมด และไล่ให้ออกจากที่ทำการ อบต. จากนั้นได้รื้อค้นเอกสารบางส่วน พร้อมทั้งจุดไฟเผา โดยก่อนหลบหนี คนร้ายยังใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่อาคารที่ทำการ อบต.และรถยนต์ได้รับความเสียหายด้วย

          จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกระป๋องปลากระป๋อง จำนวน 2 กระป๋อง วางอยู่บนโต๊ะทำงานของปลัด อบต.และบริเวณล้อหน้าด้านซ้ายของรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข 1248 นราธิวาส ซึ่งเป็นรถของผู้ช่วยนายช่าง อบต. นอกจากนั้นยังพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ถึง 78 ปลอก และปลอกกระสุนปืนชนิดอื่นอีกจำนวนหนึ่ง 

ดักบึ้ม-ยิงถล่ม 2 จุด จนท.ชุดตรวจที่เกิดเหตุ

          ต่อมาเวลา 11.30 น. ขณะที่ชุดปฏิบัติการตำรวจ สภ.สุคิริน กำลังเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ โดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะ เมื่อรถแล่นถึงบ้านไอบือนา บ้านย่อยของบ้านน้ำใส หมู่ 3 ตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการ อบต.ร่มไทร ประมาณ 12 กิโลเมตร มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนจุดชนวนระเบิดขึ้น แต่พลาดเป้าหมาย ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊ส ซุกไว้ในท่อลอดใต้ผิวถนน จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ โดยลากสายไฟเข้าไปกดจุดชนวนในป่าละเมาะข้างทาง

          เวลา 12.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กำลังเดินทางเข้าที่เกิดเหตุ โดยใช้รถกระบะหุ้มเกราะ เมื่อรถแล่นถึงรอยต่อระหว่างบ้านเมาะตาโก๊ะ หมู่ 4 ตำบลผดุงมาตร อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส กับบ้านลูโบ๊ะลาเซาะ หมู่ 1 ตำบลร่มไทร อำเภอสุคิริน ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการ อบต.ร่มไทร ประมาณ 3 กิโลเมตร ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนจุดชนวนระเบิดขึ้น และใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่รถของเจ้าหน้าที่อีโอดี กระสุนถูกบริเวณกระจกรถได้รับความเสียหาย แต่กำลังพลไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยหลังจากถูกโจมตี เจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ ก่อนคนร้ายจะล่าถอยไป

          จากการตรวจสอบวัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ถังแก๊ส ฝังไว้ใต้ผิวถนน คล้ายกับระเบิดดักทำร้ายเจ้าหน้าที่จุดแรก นอกจากนั้นยังพบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็กอีก 1 ลูก เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีได้ใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลายได้อย่างปลอดภัย ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนสงครามหลายขนาดจำนวนมาก รวมทั้งหลอกกระสุนปืนนาโต้ ซึ่งเป็นสงครามขนาดใหญ่ด้วย

          เบื้องต้นสันนิษฐานว่าทุกเหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

ยิงชายวัย 53 ปีดับขณะละหมาดในมัสยิด

          วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม เวลา 05.50 น. คนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนพกขนาด .38 ยิง นายรอมือลี แประสามะ อายุ 53 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 7 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดขณะนายรอมือลีกำลังประกอบพิธีละหมาดอยู่ในมัสยิดกลางบ้านอาแว หมู่ 6 ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส โดยนายรอมือลีย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เพราะเป็นบ้านของภรรยา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร

ดักบึ้มทหารพรานชุดลาดตระเวนที่สุไหงปาดีเจ็บ 1

          ช่วงเช้าวันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดทหารพรานชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเส้นทาง สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4806 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ภูเมศร์ ทองบุตร อายุ 29 ปี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายสุไหงปาดี-สุไหงโก-ลก ท้องที่หมู่ 5 ตำบลกาวะ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะชุดปฏิบัติการดังกล่าวกำลังลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อดูแลความปลอดภัยให้คณะครูขณะเดินทางไปโรงเรียน โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊ส จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร วางดักไว้บริเวณโคนต้นไม้ริมถนน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

ดักบึ้มถล่มรถทหารที่รือเสาะเจ็บ 6

          วันพุธที่ 23 ธันวาคม เวลา 00.05 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการของทหาร กองร้อยทหารราบที่ 15113 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 กำลังพลจำนวน 16 นาย ขณะกลับจากปฏิบัติภารกิจพิสูจน์ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส โดยใช้รถกระบะจำนวน 2 คัน

          ระหว่างเดินทางกลับฐานปฏิบัติการ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่าเรือ อำเภอรือเสาะ โดยใช้ถนนสายชนบท บ้านนาดา หมู่ 3 ตำบลรือเสาะ ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิด ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ทราบชื่อ คือ ส.ท.ณัฐพล แดงสุข อายุ 24 ปี ส.อ.สิทธิชัย วิเศษการ อายุ 30 ปี ส.ท.ศุภชัย เพียบตะโคน อายุ 20 ปี พลทหารปิยะ มหาพรหม อายุ 23 ปี พลทหารฮารอซาน เกษม อายุ 22 ปี และ พลทหารเจษฎา โต๊ะสมั่น อายุ 23 ปี ทั้งหมดอาการไม่สาหัส เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

          ต่อมาช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมกองบังคับการ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสวนธรรม อำเภอรือเสาะ พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ และรับฟังรายงานเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊สหุงต้ม น้ำหนักรวมประมาณ 90 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ โดยลากสายไฟยาวไปในทุ่งนา คาดว่าเป็นการก่อเหตุตอบโต้ปฏิบัติการพิสูจน์ทราบเพื่อจับกุมผู้ก่อความไม่สงบระดับแกนนำ 2 คน แต่ทั้งคู่ไหวตัวทัน หลบหนีไปได้ 

กราดยิงบ้านชาวบ้านเทพา-ปาระเบิดใส่ป้อมรถไฟรือเสาะ

          วันพุธที่ 23 ธันวาคม เวลา 19.45 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่บ้านเลขที่ 86/1 บ้านแม่ที หมู่ 4 ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ นายนิพนธ์ ศรีคงแก้ว อายุ 42 ปี โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะนายนิพนธ์ กำลังนุ่งคุยกับเพื่อนบ้านบริเวณม้าหินอ่อนหน้าบ้าน

          วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม เวลา 10.35 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้ระเบิดชนิดขว้าง แบบเอ็ม 26 เอ 1 ขว้างใส่ป้อมที่พักสายตรวจจราจรและเจ้าหน้าที่รถไฟ ริมถนนพาดทางรถไฟ บ้านยะบะ หมู่ 2 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส โชคดีระเบิดไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ป่วนมายอ 6 จุด – ยิงฐานตำรวจที่บาเจาะ

          วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 01.00-01.15 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนสร้างสถานการณ์ด้วยการใช้อาวุธปืนยิงหม้อแปลงไฟฟ้า ตัดต้นไม้ขวางถนน เผายางรถยนต์ และวางวัตุต้องสงสัย รวม 6 จุด ในพื้นที่ ตำบลสะกำ ตำบลกระหวะ และตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

          เวลา 18.45 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ฐานปฏิบัติการตำรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 13 ตั้งอยู่ที่บ้านบือราแง หมู่ 4 ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายยิงปืนใส่จำนวน 5 นัด ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย 

ยิงเยาวชนอายุ 15 ปีดับขณะไปทำงานก่อสร้าง

          วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม เวลา 08.25 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิงเยาวชนอายุ 15 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลยาบี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 บ้านกอแลปิเละ บ้านย่อยของบ้านปะกาฮะรัง หมู่ 7 ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมืองปัตตานี ขณะกำลังซ้อนรถจักรยานยนต์ของเพื่อนเดินทางไปทำงานก่อสร้าง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง

ยิงใส่ฐาน ชป.ม้าเหล็ก – ตำรวจยิงโต้เดือด

          วันพุธที่ 16 ธันวาคม เวลา 21.35 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่ชุดปฏิบัติการของตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา หรือ ชป.ม้าเหล็ก ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟไม้แก่น ที่ตำบลเนินงาม อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โดยหลังเกิดเหตุ ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ โดย ชป.ม้าเหล็ก ได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้คนร้ายจนล่าถอยไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

บึ้มถังแก๊สตูมสนั่นที่เจาะไอร้อง – ไร้เจ็บ

          วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม เวลา 10.15 น.เกิดระเบิดขึ้นบริเวณโคนต้นไม้ ริมถนนจารุเสถียร ท้องที่บ้านมะรือโบออก หมู่ 1 ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดไม่ทำให้มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เพราะขณะเกิดเหตุไม่มีรถของเจ้าหน้าที่ประชาชนผ่าน ตรวจสอบพบระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ส จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร

รวบอดีตผู้ต้องหายิง นศ.พยาบาล จนท.อ้างเล็งป่วนหาดใหญ่

          ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 กำลังผสม 3 ฝ่ายของอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย บริเวณบ้านเลขที่ 4 หมู่ 12 ตำบลนาทวี ซึ่งเป็นบ้านของ นายอนันตวงศ์ มูเสะ และสามารถจับกุม นายอารีฟ สาแม ภูมิลำเนาตำบลกาตอง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา อดีตผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียิงนักศึกษาพยาบาลฝึกงานที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา เสียชีวิต 2 คน เมื่อวันที่ 9 กรฏาคม 2557 ซึ่งคดีนี้ถูกฟ้องต่อศาลจังหวัดยะลาแล้ว แต่ศาลยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ  

          นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจยึดโทรศัพท์และเอกสารส่วนตัวของ นายฟัดลาน เสาะหมาน ชาวอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานีในคดีความมั่นคงได้ด้วย แต่ตัวนายฟัดลาน หลบหนีไปได้

          เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่ เปิดเผยว่า สาเหตุของการปิดล้อมตรวจค้น เพราะเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีกลุ่มขบวนการเข้าไปในพื้นที่นาทวีเพื่อเตรียมวางแผนก่อเหตุรุนแรงในเขตเมืองเศษรฐกิจ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสก่อน และเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว

ปิดล้อมตรวจค้นยึดปืนกล - เอ็ม16 ถูกปล้นจากค่ายปิเหล็ง

          วันที่ 23 ธันวาคม เวลา 16.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 สนธิกำลังร่วมกับหน่วยเฉพาะกรมทหารพรานที่ 47 และกำลังภาคประชาชน เข้าพิสูจน์ทราบแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืน ในป่าสวนยางพาราบ้านนือริง บ้านย่อยของบ้านปูลาสนอ หมู่ 3 ตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา พบปืนกลมือ 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน ห่อหุ้มด้วยยางในรถยนต์ ฝังอยู่ในหลุมใต้ต้นไม้ และมีการทำสัญลักษณ์รูปกากบาทเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงประสานชุดนิติวิทยาศาสตร์เข้าเก็บหลักฐานสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ ก่อนนำไปตรวจสอบขยายผลต่อไป

          วันเดียวกัน ที่อำเภอโคกโพธิ์ จ้งหวัดปัตตานี ทหารพราน ร่วมกับตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 7/3 หมู่ 4 บ้านควนแตน ตำบลท่าเรือ ซึ่งเป็นบ้านของ นายฉลาด อินทันแก้ว พบปืนเอ็ม 16 พร้อมซองกระสุน และเครื่องกระสุน รวมทั้งระเบิดชนิดขว้างแบบเอ็ม 26 อีก 1 ลูก ในส่วนของปืนเอ็ม 16 ตรวจสอบหมายเลขปืนแล้วพบว่าเป็นปืนที่ปล้นมาจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547

          จากการสอบถามนายฉลาด เจ้าของบ้าน ทราบว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้นานแล้ว จึงปล่อยทิ้งร้างและกลายเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาของเยาวชนในพื้นที่ คาดว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีจึงสบโอกาสเข้าไปใช้เป็นที่ซุกซ่อนปืน